หัวข้อ: เรื่องของกุมารทอง และนางกวัก เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 22 มิถุนายน 2554 20:04:22 ว่ากันด้ยเรื่องของกุมารทอง
(http://www.igetweb.com/www/kumanthongsiam/webboard/A958931.jpg) เจ้าของร้านข้าวแกงครัวปักษ์ใต้ ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง ถูกคนร้ายเข้ามาขโมยกุมารทองและของเล่นที่ใช้บูชากุมารทอง-นางกวัก พร้อมเครื่องบูชาอีกหลายอย่าง โดยไม่แตะต้องทรัพย์สินอื่น กุมารทอง เป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่ง เชื่อกันว่ามีวิญญาณของเด็กสิงสถิตอยู่ สามารถแสดงตัวให้คนในบ้านเห็นหรือดูแลบ้านในยามที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ เชื่อว่ามีคุณในด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม และมหาเสน่ห์ สันนิษฐานว่า กุมารทองได้รับความนิยมมาตั้งแต่ยุคกรุงศรีอยุธยา และสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน แต่กุมารทองที่ได้รับการกล่าวขวัญมากที่สุด คือตำนานกำเนิดกุมารทองจากวรรณคดีขุนช้างขุนแผน ตอนที่ขุนแผนจับได้ว่านางบัวคลี่ผู้เป็นเมียคิดวางยาพิษเพื่อจะฆ่าตน จึงลงมือฆ่านางบัวคลี่ก่อน แล้วผ่าท้องเพื่อเอาบุตรชายภายในท้อง มาทำพิธีย่างศพเด็กและปิดทองคำเปลว จนกระทั่งกลายเป็นผีกุมารทอง แล้วใส่ห่อผ้าไว้ ตำราระบุว่า การสร้างกุมารทอง จะต้องนำดวงวิญญาณของผีตายโหงหรือปีศาจให้มาสถิตอยู่ในหุ่นกุมารทอง ซึ่งแต่ละชนิดนั้นจะมีวิธีการทำร้ายศัตรูที่ต่างกันไป ส่วนกุมารทองโชคลาภเมตตามหานิยม มีไว้เฝ้าบ้าน เรียกลูกค้า (สำหรับผู้ที่ค้าขาย) กุมารทองชนิดนี้ไม่ดุร้าย สามารถเลี้ยงกันได้ทุกคน หัวข้อ: Re: เรื่องของกุมารทอง และนางกวัก เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 22 มิถุนายน 2554 20:05:55 มาว่ากันต่อที่เรื่องของนางกวัก (http://www.rakprakruengkumanthong.com/webboard/N605273.jpg) นางกวัก เป็นเครื่องรางบูชา ที่มีรูปลักษณะเป็นสตรีไทยสมัยโบราณ ผมยาวประบ่า ห่มผ้าสไบเฉียง นุ่งผ้ายกดอก ประกอบด้วยพาหุรัด ทองกร และสร้อยสังวาลนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่บนแท่นทอง หัตถ์ขวายกงอขึ้นในลักษณะท่ากวักมือ หัตถ์ซ้ายจะถือถุงเงิน มีความเชื่อกันว่า นางกวัก สามารถดลบันดาลโชคลาภให้บังเกิดแก่ผู้ไหว้บูชา ทำมาค้าขึ้น ซื้อง่าย ขายคล่อง และมีเสน่ห์มหานิยมแก่ผู้พบเห็นอีกด้วย โดยเฉพาะในมวลหมู่ผู้มีอาชีพค้าขายด้วยเชื่อว่านามของนางกวัก มีความหมายในทางทำมาหากินคล่องเจริญก้าวหน้า ตามร้านค้าจึงพบเห็นรูปนางกวักบนหิ้งบูชา หรือแม้กระทั่งรถเข็นค้าขายในตะกร้าเก็บสตางค์ หรือมุมเล็กๆ ต้องมีรูปนางกวักอยู่ด้วยเสมอ ตามประวัตินางกวัก ต้องย้อนไปในสมัยพุทธกาล ที่เมืองมิจฉิกาสีณฑนคร มีครอบครัวหนึ่ง ประกอบอาชีพซื้อขายสินค้าต่างๆ เลี้ยงชีพ สองสามีภรรยา มีลูกสาวคนหนึ่งชื่อ "สุภาวดี" ต่อมา สุจิตตพราหมณ์ผู้เป็นพ่อ ได้ขยายกิจการซื้อเกวียนมา 1 เล่ม นำสินค้าไปเร่ขายในต่างถิ่น บางครั้งบุตรสาวขออนุญาตเดินทางไปด้วยเพื่อเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ การไปค้าขายกับบิดา ทำให้สุภาวดีได้มีโอกาสพบและรับฟังธรรมจาก "พระกัสสปเถรเจ้า" และ "พระสีวลี" หลังจากสุภาวดีฟังธรรมเทศนาอย่างตั้งใจแล้ว พระกัสสปเถรเจ้าและพระสีวลี ได้ประสิทธิ์ประสาทพรให้สุภาวดี ด้วยกุศลที่นางสุภาวดี ได้รับประสาทพรจากพระอรหันต์ถึง 2 องค์ ส่งผลให้บิดาทำการค้าได้กำไรไม่เคยขาดทุน เป็นที่ไหลมาแห่งทรัพย์สมบัติของครอบครัว จนกลายเป็นที่มาของนางกวัก |