[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม => ข้อความที่เริ่มโดย: เงาฝัน ที่ 25 มิถุนายน 2554 14:03:52



หัวข้อ: สัทธรรมปุณฑริกสูตร บทที่ 20 ว่าด้วยอิทธิภิสังขารของพระตถาคต
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 25 มิถุนายน 2554 14:03:52


(http://lh5.google.com/mhkplb/R8vPl5hOFbI/AAAAAAAADFU/Q5qk1yTtukI/s800/%E6%A2%81%E5%90%AF%E5%BE%B7%E7%A5%9E%E8%AF%9D%E4%BA%BA%E7%89%A9%E6%8F%8F%E7%BB%98%E7%B3%BB%E5%88%9755.jpg)

พระสูตรสัทธรรมปุณฑรีกะ
วัดโพธิ์แมนคุณาราม
นายชะเอม แก้วคล้าย แปลจากต้นฉบับสันสกฤต
บทที่ 20
ตถาคตอิทธาสังสการปริวรรต
ว่าด้วยอิทธิภิสังขารของพระตถาคต


        ได้ยินว่า ครั้งนั้น พระโพธิสัตว์จำนวนร้อยพันหมื่นโกฏิองค์ มีจำนวนเท่าธุลีแห่งปรมาณูในสหัสโลกธาตุ ได้ผุดขึ้นจากรอยแยกของแผ่นดิน ทุกองค์ประคองอัญชลี ณ เบื้องพระพักตร์ของพระผู้มีพระภาค แล้วกราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาค เมื่อพระตถาคตปรินิพพานแล้ว ข้าพระองค์ทั้งหลายจักประกาศธรรมบรรยายนี้ ในพุทธเกษตรทั้งปวง ที่พระผู้มีพระภาค ทรงพระชนม์อยู่ และที่พระผู้มีพระภาคได้เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้าพระองค์ทั้งหลาย ปรารถนาจะรักษา ท่อง แสดง ประกาศ และคัดลอกธรรมบรรยายอันยิ่งใหญ่นี้ให้คงอยู่ตลอดไป

        ครั้งนั้น พระโพธิสัตว์จำนวนมากถึงร้อยพันหมื่นโกฏิองค์ ที่อยู่ในสหาโลกธาตุนี้ ซึ่งมีพระมัญชุศรี เป็นประมุขได้แก่ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เทพ นาค ยักษ์ คนธรรพ์ อสูร ครุฑ กินนร มโหรคะ มนุษย์ อมนุษย์ และพระโพธิสัตว์มหาสัตว์จำนวนมาก เปรียบได้กับเมล็ดทรายในแม่น้ำคงคา พากันกราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาค เมื่อพระตถาคตปรินิพพานแล้ว พวกข้าพระองค์ทั้งหลาย แม้ไม่ปรากฏกาย ก็จักประกาศธรรมบรรยายนี้ ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้าพระองค์ทั้งหลายยืนอยู่ในอากาศ จักให้หมู่สัตว์ได้ยินเสียงจักส่งเสริมสัตว์ทั้งหลายที่ไม่เคยสร้างกุศลมูล ให้สร้างกุศลมูลต่อไป

        ในเวลานั้น พระผู้มีพระภาค ได้ตรัสกับพระโพธิสัตว์มหาสัตว์นามว่า วิศิษฏจาริตระ ซึ่งเป็นคณาจารย์ของพระโพธิสัตว์คณะใหญ่ และเป็นประมุของค์หนึ่งของคณาจารย์พระโพธิสัตว์มหาสัตว์ คณะน้อยใหญ่ ที่เคยมีในอดีตว่า ดีละ ดีละ วิศิษฏจาริตระ เพื่อประโยชน์แห่งธรรมบรรยายนี้ ท่านทั้งหลายควรทำอย่างนั้น ท่านทั้งหลายได้ชื่อว่า เป็นผู้ที่พระตถาคตได้อบรมมาดีแล้ว ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคตถาคต ศากยมุนี กับพระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ประภูติรัตนะ ซึ่งได้เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ประทับอยู่ในใจกลางของสถูป แม้ทั้งสองพระองค์เสด็จเข้าสู่สิงหาสน์ ทรงกระทำการยิ้มแย้มแก่กันอย่างชัดเจน และยื่นพระชิวหินทรีย์ออกจากช่องพระโอษฐ์ รัศมีจากพระชิวหินทรีย์ทั้งสองนั้น

ได้ขึ้นไปถึงพรหมโลก รัศมีจำนวนมากหลายร้อยพันหมื่นโกฏิ ได้แผ่ออกจากพระชิวหินทรีย์ทั้งสองนั้น บรรดารัศมีทั้งหลาย ในรัศมีแต่ละลำแสง ได้ก่อให้เกิดมีพระโพธิสัตว์จำนวนมาก หลายร้อยพันหมื่นโกฏิ พระโพธิสัตว์เหล่านั้น มีพระกายเป็นสีทอง ประกอบด้วยมหาบุรุษลักษณะ 32 ประการ ประทับนั่งบนสิงหาสน์ ในปัทมครรภ์ (ใจกลางดอกบัว) พระโพธิสัตว์เหล่านั้น ได้แผ่ขยายไปสู่ทิศน้อยใหญ่ ในร้อยพันโลกธาตุ ในทิศน้อยใหญ่ทั้งปวงนั้น ได้มีพระโพธิสัตว์ยืนแสดงธรรมอยู่ในอากาศ พระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าศากยมุนี ได้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ ด้วยพระชิวหินทรีย์ ฉันใด พระประภูตรัตนตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งปวง ผู้มาจากร้อยพันหมื่นโลกธาตุ ได้เข้าไปประทับบนสิงหาสน์ของตนๆที่โคนต้นรัตนพฤกษ์ ก็ได้แสดงอิทธิปาฏิหารย์ ด้วยพระชิวหินทรีย์ ฉันนั้น

        ได้ยินว่า ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าศากยมุนี และพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ได้กระทำสักการะนั้นด้วยฤทธิ์ สิ้นร้อยพันปีบริบูรณ์ เมื่อร้อยพันปีล่วงไป พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่านั้น ได้ดึงชิวหินทรีย์ทั้งหมดกลับพร้อมกัน ภายในครู่เดียวเท่านั้น ทุกพระองค์ได้กระทำเสียงกระแอมและเสียงปรบมือ ดังดุจเสียงพญาราชสีห์ ด้วยเสียงกระแอมและเสียงปรบมือที่ดังนั้น ทำให้ร้อยพันหมื่นโกฏิพุทธเกษตรทั้ง 10 ทิศ เคลื่อนไหว พุทธเกษตรทั้งปวงเหล่านั้น ได้สั่น เคลื่อน สะท้าน สะเทือน หวั่นไหว เอนเอียง สัตว์ทั้งปวงในพุทธเกษตรเหล่านั้น เช่น เทพ นาค ยักษ์ คนธรรพ์ อสูร ครุฑ กินนร มโหรคะ มนุษย์ และอมนุษย์ทั้งหลาย ก็สั่นไหวเช่นกัน สัตว์ทั้งปวงเหล่านั้น ผู้ยืนอยู่ในที่นั้น ได้เห็นสหาโลกธาตุที่เป็นอย่างนี้ เพราะอานุภาพของพระพุทธเจ้า พวกเขาได้เห็นพระตถาคตทั้งปวงเหล่านั้น จำนวนร้อยพันโกฏิพระองค์ ที่เข้าสู่สิงหาสน์ของตนๆ ณ โคนรัตนพฤกษ์

ได้เห็นพระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าศากยมุนี ได้เห็นพระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าประภูตรัตนะ ที่ปรินิพพานแล้ว เสด็จสู่สิงหาสน์ ในใจกลางมหารัตนสถูปนั้น ทรงประทับนั่งรวมกับพระผู้มีพระภาคตถาคตศากยมุนี และได้เห็นบริษัทที่เหลือทั้งสามเหล่านั้น ครั้นได้เห็นแล้ว พวกเขาได้ถึงความอัศจรรย์ใจ ประหลาดใจ และได้รับความยินดีเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาได้ยินเสียงจากท้องฟ้าว่า ดูก่อนท่านผู้เจริญ ล่วงเลยร้อยพันหมื่นโกฏิโลกธาตุนี้ออกไป จนประมาณไม่ได้ นับไม่ได้ ยังมีอีกโลกธาตุหนึ่ง ชื่อว่า สหาโลกธาตุ พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าศากยมุนี ประทับอยู่ ณ ที่นั้นพระองค์ทรงแสดงธรรมบรรยาย หรือสัทธรรมปุณฑรีกสูตร ซึ่งเป็นพระสูตรที่สมบูรณ์มาก เป็นโอวาทสำหรับพระโพธิสัตว์ เป็นข้อปฏิบัติสำหรับพระพุทธเจ้าทั้งปวง แก่พระโพธิสัตว์มหาสัตว์ทั้งหลาย ท่านทั้งหลาย จงอนุโมทนาพระสูตรนั้นตามอัธยาศัยเถิด และท่านทั้งหลายจงทำความเคารพ พระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าศากยมุนีและพระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าประภูติรัตนะพระองค์นั้น

        ได้ยินว่า สัตว์ทั้งปวงเหล่านั้น เมื่อได้ยินเสียงปานนั้นจากท้องฟ้า ผู้ที่ยืนอยู่ ณ ที่นั้นนั่นแล ได้ประคองอัญชลี เปล่งอุทานว่า ขอความนอบน้อม จงมีแด่พระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าศากยมุนี เขาได้โปรยสิ่งของต่างๆ มีดอกไม้ ธูป ของหอม มาลัย ผงเครื่องลูบไล้ จีวร ฉัตร ธงปฏาก และธงไพชยันต์ สู่ทิศทางของสหาโลกธาตุนั้น เขาได้โปรยอาภรณ์ต่างๆ มีผ้าห่ม สร้อยข้อมือ สร้อยคอ และรัตนะทั้งหลาย เพื่อทำการบูชาพระผู้มีพระภาคตถาคตศากยมุนี ประภูตรัตนะ และเพื่อบูชาธรรมบรรยายสัทธรรมปุณฑรีกสูตรนี้  ดอกไม้ ธูป ของหอม มาลัย ผงเครื่องลูบไล้ จีวร ฉัตร ธงปฏากและธงไพชยันต์ กับสร้อยข้อมือ สร้อยคอ และรัตนะทั้งหลายเหล่านั้น ที่ถูกโปรย ได้ตกลงสู่สหาโลกธาตุ บนท้องฟ้าในโลกธาตุทั้งปวง ที่พระตถาคตประทับนั่งนั้น มีเพดานดอกไม้ใหญ่ถูกตกแต่งโดยรอบด้วยกองดอกไม้ ธูป ของหอม มาลัย ผงเครื่องลูบไล้ จีวร ฉัตร ธงปฏาก ธงไพชยันต์ สร้อยข้อมือสร้อยคอและรัตนะรวมกันเป็นเพียงหนึ่งเดียวในสหาโลกธาตุ ในบรรดาร้อยพันหมื่นโกฏิโลกธาตุเหล่าอื่น

        ได้ยินว่า ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาค ได้ตรัสกับพระโพธิสัตว์มหาสัตว์เหล่านั้น ซึ่งมีพระวิศิษฏจาริตระเป็นประมุขว่า ดูก่อนกุลบุตรทั้งหลาย พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น มีภาวะเป็นอจินไตย ดูก่อนกุลบุตรทั้งหลาย เราได้กล่าวถึงประโยชน์ที่น่ายินดี (ปรีทนารถํ) ของธรรมบรรยายนี้ และอานิสงส์จำนวนมาก ด้วยหลักธรรมต่างๆ ตลอดร้อยพันหมื่นโกฏิกัลป์เมื่อกล่าวถึงธรรมบรรยายนี้ เราไม่สามารถจะพรรณนาให้จบสิ้นได้ ดูก่อนกุลบุตรทั้งหลายเราซึ่งเป็นผู้นำของพระพุทธเจ้าทั้งปวง ได้แสดงความลี้ลับของพระพุทธเจ้าทั้งปวง และสถานะอันลึกซึ้งพระพุทธเจ้าทั้งปวงไว้ ในธรรมบรรยายนี้เพียงโดยย่อ

ดูก่อนกุลบุตรทั้งหลาย เพราะฉะนั้น เมื่อพระตถาคตปรินิพพานแล้ว ท่านทั้งหลายควรสักการะ รักษา แสดง คัดลอก ท่องจำ ประกาศ อบรม และบูชา ธรรมบรรยายนี้ตลอดไป ดูก่อนกุลบุตรทั้งหลาย ในแผ่นดิน หรือประเทศใดก็ตาม ที่มีการอ่าน ประกาศ แสดง คัดลอก พิจารณา สอน เรียน หรือรวมเป็นเล่มหนังสือ ตั้งไว้ในอาราม วิหาร บ้าน ป่า เมือง โคนต้นไม้ ปราสาท ที่อาศัย หรือถ้ำ ควรสร้างเจดีย์ อุทิศพระตถาคตไว้ในพื้นที่ หรือประเทศนั้น เพราะเหตุไร? เพราะพื้นที่หรือประเทศนั้นควรทราบว่า เป็นปริมณฑลของพระตถาคตทั้งปวง พึงทราบว่า ในพื้นที่ประเทศนั้นนั่งเอง ที่พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งปวง ได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ในพื้นที่ประเทศนั้นนั่นเอง ที่พระตถาคตทั้งปวงได้หมุนธรรมจักรให้เคลื่อนไป และพึงทราบว่า ในพื้นที่ประเทศนั้นนั่นเอง ที่พระตถาคตทั้งปวงได้เสด็จดับขันธปรินิพพาน
 
                          (http://entheogenseternal.com/wp-content/uploads/2011/02/Egyptian-Blue-Lotus.jpg)

        ในเวลานั้น พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า

1      ด้วยจักษุที่กว้างไกล (ไม่มีที่สิ้นสุด) พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ย่อมแสดงฤทธิ์แก่ชาวโลก ผู้ที่ดำรงอยู่ความ ความรู้ของพระมุนี ด้วยธรรมชาติที่เป็นอจินไตย เพื่อยังสัตว์ทั้งปวงในโลกนี้ให้เกิดความยินดี

2      เมื่อพระโพธิสัตว์ยื่นชิวหินทรีย์ไปสู่พรหมโลก ขณะที่ปล่อยรัศมีออกมาเป็นพันอิทธิฤทธิ์นี้ ได้เป็นที่อัศจรรย์ใจแก่ผู้พบเห็น และแก่ชนทั้งปวง ผู้ที่ดำรงอยู่ในโพธิญาณอันประเสริฐ

3      พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ย่อมกระทำเสียงกระแอมดังๆ กระทำเสียงจากการปรบมือเพื่อยังชาวโลกทั้งปวงใน 10 ทิศให้รู้แจ้งโลกธาตุนี้

4      พระโพธิสัตว์ทั้งหลายผู้มีความเมตตากรุณา ได้แสดงคุณวิเศษที่เป็นปาฏิหาริย์ทั้งหลายเหล่านี้และเหล่าอื่น เมื่อพระตถาคตปรินิพพานไปแล้ว ในกาลเช่นนั้นสัตว์ทั้งหลาย มัวเพลิดเพลินอยู่ทำไม ควรช่วยกันรักษาพระสูตรนี้ไว้

5      เรากล่าวคำสดุดีแก่บุตรของพระสุคต  ผู้รักษาพระสูตรอันประเสริฐนี้ไว้ ตลอดเวลาหลายพันโกฏิกัลป์ เมื่อพระผู้นำของชาวโลกปรินิพพานไปแล้ว

6      คุณความดีของชนเหล่านั้น ย่อมไม่มีที่สิ้นสุด เช่นเดียวกับอากาศธาตุ ในทิศทั้งหลาย คุณความดีของผู้รักษาพระสูตรอันงดงามนี้ไว้ ไม่อาจคิดคำนวณได้เช่นกัน

7      เรา พระผู้นำทั้งปวงเหล่านี้ รวมทั้งพระผู้นำแห่งโลกที่ปรินิพพานไปแล้ว เป็นผู้ที่เขาได้เห็นแล้ว พระโพธิสัตว์ทั้งปวงจำนวนมากเหล่านี้ และบริษัท 4 ก็เป็นผู้ที่บุคคลเช่นนี้ได้เห็นแล้วเช่นกัน

8      ในโลกนี้ เรา พระผู้นำทั้งปวงเหล่านี้ พระชินเจ้าใดๆ ที่ปรินิพพานไปแล้ว และพระโพธิสัตว์อื่นใดใน 10 ทิศ เป็นผู้ที่เขาได้บูชาแล้วในวันนี้

9      ผู้ที่รักษาพระสูตรนี้ จักได้เห็น จักได้บูชา พระพุทธเจ้าทั้งหลายทั้งปวง ที่มีในทิศทั้ง 10 ทั้งในอดีตและอนาคต

10    บุคคลผู้รักษาพระสูตร ที่เป็นสัจธรรมนี้ เมื่อสามารถรู้ญาณที่ลึกซึ้งของพระตถาคต ก็จะตรัสรู้ได้อย่างฉับพลัน ณ โพธิมณฑล

11    ความรู้ของเขาไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนพายุย่อมไม่ติดขัดในที่ไหนๆ ผู้รักษาพระสูตรอันประเสริฐนี้ ย่อมเข้าใจและรู้ความหมายในธรรมและอรรถกถา

12    เขาย่อมเข้าใจความสัมพันธ์ของพระสูตรทั้งหลาย ที่พระผู้นำ(ตถาคต) ตรัสไว้แก่พระสงฆ์ เมื่อพระผู้นำปรินิพพานแล้ว เขาย่อมเข้าใจความหมายที่แท้จริงของพระสูตรทั้งหลาย

13    เขาเป็นผู้เสมอด้วยพระจันทร์ และพระอาทิตย์ เป็นผู้สร้างรัศมีแห่งแสงสว่าง เป็นผู้ท่องเที่ยวไปทั่วพื้นปฐพี เพื่อเข้าใกล้พระโพธิสัตว์จำนวนมากอยู่เสมอ

14     เพราะฉะนั้น พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นบัณฑิต เมื่อได้ฟังอานิสงส์ที่เป็นเช่นนี้ เหล่านี้แล้ว ควรจะรักษาพระสูตรนี้ไว้ เมื่อเราปรินิพพานแล้ว พวกเขาอย่ามีความสงสัยในพระโพธิญาณอีกเลย

บทที่ 20 ตถาคตอิทธาภิสังสการปริวรรต ว่าด้วยอิทธาภิสังขารของพระตถาคต
ในธรรมบรรยาย สัทธรรมปุณฑรีกสูตร อันประเสริฐ
มีเพียงเท่านี้


(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=469520&stc=1&d=1229600385)

http://www.mahayana.in.th/tmayana/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81/สัทธรรมปุณทรีกะบท20-21-22-23.htm (http://www.mahayana.in.th/tmayana/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81/สัทธรรมปุณทรีกะบท20-21-22-23.htm)