[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 19 สิงหาคม 2562 17:53:00



หัวข้อ: ครูบาคำแสน คุณาลังกาโร วัดป่าดอนมูล อ.กำแพงแสน จ.เชียงใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 19 สิงหาคม 2562 17:53:00

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/16797312059336_1_320x200_.jpg)

ครูบาคำแสน คุณาลังกาโร
วัดป่าดอนมูล อ.กำแพงแสน จ.เชียงใหม่

ครูบาคำแสน คุณาลังกาโร แห่งวัดป่าดอนมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ อดีตพระเกจิชื่อดังแห่งล้านนา ต้นตำรับการสร้างวัวธนู

มีนามเดิมว่า คำแสน เพ็งทัน เกิดเมื่อวันที่ 30 เม.ย.2436 ที่บ้านสันโค้งใหม่ ต.ทรายมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่

บรรพชาเมื่ออายุ 17 ปี โดยมีพระอธิการโพธิ (ครูบา) วัดสันโค้ง เป็นพระอุปัชฌาย์ และต่อมาเข้าพิธีอุปสมบทที่วัดดอนมูล แห่งนี้

บวช 3 พรรษา ไปศึกษาต่อกับพระอธิการแก้ว ชยเสโน (ครูบาแก้ว) ที่วัดน้ำจำ ต.ร้องวัวแดง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยได้ศึกษาพระธรรมวินัยและเรียนกัมมัฏฐาน

ก่อนหน้านั้น ทราบข่าวจากชาวบ้านว่าทางราชการได้จับครูบาศรีวิชัย นักบุญ แห่งล้านนา มากักขังไว้ที่วัดศรีดอนไชย จ.เชียงใหม่ ครูบาคำแสนมีความเคารพ และเลื่อมใสในครูบาศรีวิชัยเป็นอย่างยิ่ง ได้ชักชวนพระสงฆ์และชาวบ้านให้พากันไปเยี่ยม แต่คนทั้งหลายกลัวจะถูกตำหนิหรือถูกกลั่นแกล้งจากทางราชการ ในที่สุดก็เดินทางไปกับเณรและลูกศิษย์เพียง 2-3 คนเท่านั้น

เดินทางประมาณ 15-16 กิโลเมตรกว่าจะถึงวัดศรีดอนไชย เมื่อเข้าไปภายในวิหารนั้นมีพระสงฆ์สูงอายุรูปหนึ่งนั่งอยู่ด้วยอาการสงบ ในลักษณะขัดสมาธิ ห่มผ้าสีกรัก ในขณะที่กราบลงไปนั้นก็เกิดความอ่อนไหว จนร้องไห้ด้วยความสงสารในครูบาศรีวิชัยที่ต้องมาถูกจองจำและจะถูกจับสึกที่กรุงเทพฯ

เสียงร้องไห้ของครูบาคำแสนในขณะนั้น ทำให้ครูบาศรีวิชัยเอื้อมมือมาตบที่ไหล่ พร้อมกล่าวว่า "ท่านเป็นพระจะร้องไห้ไม่ได้ พระเป็นผู้ตัดแล้วซึ่งกิเลส เมื่อเป็นเช่นนั้นต้องระงับอารมณ์ไม่ให้มีการร้องไห้เด็ดขาด" ขณะเดียวกันก็เริ่มสอนให้นั่งขัดสมาธิ เอามือประสานกันวางไว้บนตัก หลับตาพร้อมกับท่องคำว่า "นะโม" ในใจหลายสิบหลายร้อย จบให้ท่องไปเรื่อย

ครูบาคำแสน ปฏิบัติตามคำสั่ง ท่องไปท่องมาไม่นานอาการสะอึกสะอื้นและน้ำตาก็หายไป ครูบาศรีวิชัยจึงสั่งให้ลืมตาขึ้น

ครูบาศรีวิชัย เทศน์อบรมเกี่ยวกับขันติให้ครูบาคำแสนฟัง พร้อมกับแนะนำสั่งสอนให้ศึกษาวิปัสสนา แล้วครูบาคำแสนก็นมัสการลา จึงนับว่าเป็นบทเรียนแรกในชีวิตเกี่ยวกับการศึกษาวิปัสสนา และท่านก็หาทางจะศึกษาในเรื่องนี้ ต่อมาเมื่อท่านเรียนกัมมัฏฐานจากครูบาแก้ว ชัยยะเสโน ท่านก็ขอลาครูบาแก้วออกเดินธุดงค์จาริกไปในที่ต่างๆ เมื่อคราวเข้าพรรษาท่านจึงจะกลับมาอยู่ที่วัดดอนมูล

พออายุ 34 ปี พระอธิการธรรมเสนา เจ้าอาวาสวัดดอนมูล มรณภาพ คณะศรัทธาจึงได้นิมนต์ครูบาคำแสน เป็นเจ้าอาวาสสืบมา

จนท่านมีอายุ 39 ปี มีพระธุดงค์ชื่อพระอาจารย์แหวน สุจิณโณ เดินธุดงค์มาพักอาศัยอยู่ที่วัดอู่ทรายคำ ในเมืองเชียงใหม่ เมื่อทราบดังนั้นท่านได้ให้โยมคนหนึ่ง ไปนิมนต์พระอาจารย์แหวน ให้มาเผยแผ่พระธรรมและอบรมที่วัดดอนมูล

ต่อมาพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต มาพำนัก อยู่ที่วัดเจดีย์หลวง พระอาจารย์แหวนและครูบาคำแสนได้ไปนมัสการ และได้ถวายเป็นศิษย์พระอาจารย์มั่นตั้งแต่บัดนั้นมา ต่อมาพระอาจารย์แหวนท่านได้จาริกไปมาในเมืองเชียงใหม่ และไปจำพรรษาที่วัดป่าห้วยน้ำริน อ.แม่แตง

ส่วนครูบาคำแสน หลังจากได้เรียนพระกัมมัฏฐานจากพระอาจารย์มั่น แล้วท่านก็ได้เดินธุดงค์ไปยังประเทศพม่า ย่างกุ้ง หงสาวดี แล้วเดินย้อนกลับไปสู่ภาคอีสาน ไปอยู่กับท่านอาจารย์สิงห์ที่จังหวัดนครราชสีมา

จากนั้นจึงได้เดินทางกลับขึ้นไปทางเหนือ ไปอยู่ถ้ำเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ถ้ำพระ จ.เชียงราย ถ้ำดอกคำพร้าว พระบาทสี่รอย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่ใดเป็นที่วิเวก เป็นป่าเปลี่ยวท่านก็ได้พักภาวนาเรื่อยไปไม่หยุด ไม่หย่อน ตามโอวาทของพระอาจารย์มั่น ที่ได้ให้ข้อคิดไว้ว่า "ทำจริงก็คงจะได้ของจริงเท่านั้น" ท่านเป็นลูกศิษย์ที่อยู่ในมหานิกาย ไม่ต้องญัตติใหม่เป็นธรรมยุต

ครูบาคำแสน สร้างเครื่องรางของขลังหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตะกรุดโทน ผ้ายันต์มหาสิทธิมงคล มหาสิทธิโชค และเครื่องราง ที่ถือว่าท่านได้สร้างตามหลักโบราณ คือ วัวธนู

มรณภาพอย่างสงบ วันอาทิตย์ที่ 4 ก.พ.2522 เวลา 10.12 น.

สิริอายุ 86 ปี พรรษา 68
ข่าวสดออนไลน์