หัวข้อ: หลวงปู่ที โชติปัญโญ ที่พักสงฆ์บ้านกระต่ายด่อน ต.สมอ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 19 สิงหาคม 2562 18:24:40 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/52286376059055__1_1_320x200_.jpg) หลวงปู่ที โชติปัญโญ ที่พักสงฆ์บ้านกระต่ายด่อน ต.สมอ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ หลวงปู่ที โชติปัญโญ ที่พักสงฆ์บ้านกระต่ายด่อน ต.สมอ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ พระอีกรูปที่มีวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเสมอต้นเสมอปลาย มีเมตตาธรรมสูง จิตใจที่เปี่ยมไปด้วยเมตตา ยังเป็นพระเกจิที่มีวิทยาคมที่เข้มขลัง สืบสายธรรมจากพระเกจิอาจารย์สายเขมร รวมทั้งจากบิดาของท่านซึ่งเป็นหมอธรรม ปัจจุบัน สิริอายุ 80 ปี พรรษา 22 มีนามเดิม ที มาลุน เกิดเมื่อปี พ.ศ.2482 ที่บ้านขยอม อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่-ทำนา ในช่วงวัยเยาว์ เป็นคนที่มีใจใฝ่ในธรรมมาตั้งแต่เล็ก แต่ด้วยทางบ้านมีฐานะยากจน เมื่อจบชั้นประถมศึกษาภาคบังคับ จึงไม่ได้เรียนต่อชั้นที่สูงขึ้นไป และหันมาช่วยครอบครัวประกอบอาชีพทำไรทำนา สำหรับนายพุทธ บิดานั้นมีความรู้เรื่องยาสมุนไพรและเป็นหมอธรรม จึงได้รับสืบทอดตำราว่านยาและมนต์พิธี ย่างเข้าสู่วัยรุ่น ออกติดตามบิดาที่ออกไปรักษาคนไข้ในแถบ จ.สุรินทร์, จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี ด้วยมีจิตใจโน้มเอียงเข้าหาพระธรรม จึงขอให้นำไปบรรพชาที่วัดในหมู่บ้าน ก่อนเดินทางไปศึกษาที่สำนักเรียนวัดหลวงพ่อมุม จ.ศรีสะเกษ มุมานะศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย-บาลี ช่วงเวลานั้น หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ธุดงค์ผ่านมาและคณะของท่านกำลังจะเดินทางไปยัง จ.เชียงใหม่ จึงขอติดตามคณะไปด้วย จนไปถึง จ.เชียงใหม่ จำพรรษาอยู่วัดดอยแม่ปั๋งนานหลายปี ครั้นเมื่ออายุครบบวช เข้าพิธีอุปสมบท ขณะจำพรรษาอยู่วัดดอยแม่ปั๋ง หลวงปู่แหวนอบรมวิปัสสนากัมมัฏฐาน และคำสอนต่างๆ จนมีความชำนาญ ขณะจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ วัตรปฏิบัติที่ท่านทำอย่างต่อเนื่อง คือ หลังออกพรรษา จะออกธุดงค์ไปตามป่าเขาตามแถบชายแดนประเทศเมียนมา ครั้งหนึ่งได้พบกับพระธุดงค์ชาวจีน จึงแลกเปลี่ยนความรู้ทางภาษา และวิชาต่างๆ หลังจำพรรษาอยู่ที่วัดดอยแม่ปั๋ง นาน 7 ปี จึงเดินทางกลับมาจำพรรษาอยู่ภูมิลำเนาเดิม ที่ จ.ศรีสะเกษ เดินธุดงค์ไปตามป่าเขาแถบชายแดนประเทศกัมพูชา มีโอกาสศึกษาวิทยาคมเพิ่มเติมจากพระเกจิอาจารย์ชาวกัมพูชาหลายรูป หลังจากท่านบวชได้ประมาณ 10 พรรษา มีความจำเป็นต้องลาสิกขา ออกไปประกอบอาชีพทำมาหากินช่วยเหลือครอบครัว ขณะใช้ชีวิตฆราวาสก็เป็นหมอธรรม ใช้วิชาสมุนไพรและวิทยาคม ที่ได้รับการถ่ายทอดจากบิดาของท่าน รวมทั้งที่ร่ำเรียนจากพระอาจารย์สายเขมร รักษาและช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก เมื่อบิดาเสียชีวิต หมดภาระทางครอบครัว ตัดสินใจหันหน้าเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้ง เข้าพิธีอุปสมบทที่อุโบสถวัดโพธิ์ศรีโคกจาน ต.โคกจาน อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ โดยมีพระครูปัญญาวิริยกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์ อยู่จำพรรษาที่วัดป่าหนองหวาย ต.ทุ่งไชย อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เนื่องจากคนในพื้นที่รู้จักว่าเป็นหมอธรรม จึงมีผู้เลื่อมใสศรัทธาในตัวท่านจำนวนมาก ในแต่ละวันจึงมีพุทธศาสนิกชนจากทั่วสารทิศ เดินทางมากราบนมัสการ รับฟังธรรมและประพรมน้ำพระพุทธมนต์จากหลวงปู่อย่างล้นหลาม ทำให้เวลาที่จะปฏิบัติศาสนกิจก็มีน้อย ท่านจึงออกเดินธุดงควัตรไปตามสถานที่ต่างๆ สุดท้ายได้มาพำนักอยู่ที่กระท่อมกลางนา นอกหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เมื่อผู้เลื่อมใสทราบข่าวก็มาช่วยพัฒนาปรับปรุงที่อยู่ให้ท่าน เพื่อความเหมาะสมในการปฏิบัติธรรม ต่อมากลายเป็นที่พักสงฆ์บ้านกระต่ายด่อน ในปัจจุบัน หลักธรรมคำสอนที่พร่ำสอนญาติโยมมาโดยตลอด เพื่อใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิต คือ การดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท และให้ยึดศีล 5 ไว้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต เพียงเท่านี้จะทำให้ชีวิตพานพบแต่ความสุขความเจริญ จึงเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของสาธุชนชาวเมืองศรีสะเกษ โดยแท้ ข่าวสดออนไลน์ |