[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ => ร้อยภูติ พันวิญญาณ => ข้อความที่เริ่มโดย: Maintenence ที่ 15 ตุลาคม 2562 11:23:08



หัวข้อ: วิธีแก้อาถรรพ์
เริ่มหัวข้อโดย: Maintenence ที่ 15 ตุลาคม 2562 11:23:08
.



(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/89112742659118_51882_1_1_1_1_320x200_.jpg)

วิธีแก้อาถรรพ์

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ได้ให้โอวาทธรรมเกี่ยวกับเรื่องของความ "อาถรรพ์" ซึ่งได้ตีพิมพ์ไว้หนังสือ "ธรรมปฏิบัติ 22" โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (พระมหาวีระ ถาวโร) วัดจันทาราม (ท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี ไว้ดังนี้

เมื่อกี้ท่านท้าวเวสสุวัณให้มาบอกว่า ถ้าลูกหลานคนใดไปที่วัดให้เอาขนมปังไปคนละปอนด์ แล้วไปวางที่หน้าโบสถ์ เป็นการแก้วิชาและอาถรรพ์ ถามท่านว่า ทำที่อื่นไม่ได้หรือ ท่านก็บอกว่า เขาทำที่วัด แก้ที่อื่นมันก็ไม่ได้ ไอ้วิชาและอาถรรพ์นี่เขาทำให้ซวยให้ทุกคนหากินยาก มีความเป็นอยู่ยาก มีการป่วยไข้ไม่สบาย ตัวต้นจริงๆ ก็คือฉัน เขาต้องการให้ตาย นี่บังเอิญไม่ตาย ถ้าตายจะมีความสุขมาก
 
ก็รวมความว่า เขาทำมามาก เขาทำมาจริงๆ ตั้งแต่ปี ๑๗ แล้วก็ทำเพิ่มเติมทุกปี ทุกครั้งที่มีงาน มีงานวัดพวกนักไสยศาสตร์เขาไปทุกเที่ยว ฉันรู้หมด ทำที่ไหนก็ทราบ แต่ว่าที่ไม่พูดเพราะอะไร เพราะเกรงว่าพวกเราบางคนจะเข้าตะรางไป เอาแน่ เพียงได้ยินข่าวยังเอาเลย ไม่งั้นก็ขยี้ตายไปเลย ก็เห็นว่าอันตรายมันมีไม่มาก

และต่อมาเมื่อวานซืนนี้มีเทวดามาองค์หนึ่ง เป็นเทวดาของท้าวเวสสุวัณ ฉันก็นอนภาวนารอเวลารับแขก ก่อนจะรับแขกไม่รู้จะทำอะไรก็นอนภาวนาไปเรื่อยๆ ไป เสียงท่านพูดดังๆ ว่า นี่ เอาขนมปังไปวางหน้าโบสถ์สักปอนด์ไม่ได้รึ ก็นึกว่าเสียงใครวะ เราอยู่คนเดียวนี่ แล้วท่านก็พูดอีก นี่ เอาขนมปังไปวางหน้าโบสถ์ ๑ ปอนด์ไม่ได้รึ พอเหลี่ยวไปดูก็เจอเทวดาลูกศิษย์ท้าวเวสสุวัณ "ผมอยู่ป้องกันอันตรายที่วัดนี้ประมาณ ๑๐๐๐ องค์เศษ"

ท่านก็บอกว่าวิชาก็ดี อาถรรพ์ก็ดี เขาทำมามากแล้ว เขาต้องการอย่างน้อยที่สุด ให้ท่านขยับตัวไม่ได้ คล้ายคนเป็นอัมพาต แล้วประการที่สอง เขาต้องการให้ตาย แล้วท่านก็ให้ดูทุกจุดว่าวิชาก็ดี อาถรรพ์ก็ดี เขาทำอะไรบ้าง ก็เลยบอกว่า ทั้งหมดนี้ทราบทุกครั้งเขาที่ทำ ท่านก็เลยบอกว่า ท่านเองก็ทราบว่าท่านไม่เป็นไร มันเข้าไม่ได้ และลูกศิษย์ของท่าน คนที่เคารพยันต์เกราะเพชรจริงๆ มันเข้าไม่ได้เช่นกัน

ท่านอธิบายต่อไปว่า สมมติเป็นกองไฟกองใหญ่ ถ้าเขาเอาท่านไปเผาได้ท่านก็ไหม้ แต่เผอิญพวกท่านไม่ได้เข้ากองไฟ พวกผมกันไว้ แล้วเปลวไฟที่แลบออกมาก็ไม่ถึงตัวท่าน แต่อย่าลืมว่าสถานที่เดียวกัน ไอร้อนมันมี ละอองคือไอร้อนทีละน้อยๆ มันก็สะสมในตัว อย่างนี้ก็ทำให้การคล่องตัวไม่มี อาการที่ป่วยไข้ของท่าน ก็ด้วยเหตุนี้เช่นกัน

นี่ละอองนะ ไม่ใช่เนื้อแท้ ทีนี้ลูกหลานทุกคน ที่มีความเป็นอยู่ไม่ปกติ ก็เป็นด้วยเหตุนี้เหมือนกัน เป็นละออง

เมื่อกี้ท่านท้าวเวสสุวัณ บอกตอนบวงสรวง บอกว่า ให้บอกลูกหลานทุกคน ถ้าไปวัด "เอาขนมปัง ๑ ปอนด์วางที่หน้าโบสถ์"

ตอนที่เทวดามาบอกท่านย้ำว่า หน้าโบสถ์นะ ไม่ใช้ข้างโบสถ์ ก็เลยบอกว่า ที่หน้าโบสถ์ วางบนพื้นสูงด้านหน้าได้ไหม ท่านบอกว่า นั่นมันบนโบสถ์

ดุด้วยนะ เขาว่าเทวดาไม่ดุ ไม่จริง แต่เสียงเทวดาชั้นจาตุมหาราช เสียงท่านห้าวหาญ ไม่ใช่ดุนะ เลยถามว่า ตรงไหนล่ะ ท่านตอบว่า ตรงไหนก็ได้ ที่ใม่ใช่ข้างโบสถ์ ก็ถามว่า เวลาวางต้องทำแท่นต้องทำที่ไหม ท่านบอกว่า ผมไม่ได้บอกนี่ ถามว่า เวลาวางทำยังไง

ท่านบอก เวลาวางทุกคนให้ว่าตามนี้นะ "วิชาและอาถรรพ์จงพินาศไป" เท่านี้ ถ้าเราจะเคารพในท่าน ก็จุดธุปบอกหน่อยนะ ท่านบอกว่า หลังจากนั้นต่อไป เป็นหน้าที่ของผม

ต่อมาเวลา ๖ โมงเย็น ก็นอนทำกรรมฐานอยู่ ฉันหากินนอนมากว่านั่ง ก็เห็นลูกศิษย์ท่านท้าวเวสสุวัณท่านมา ท่านบอกว่า เวลาที่เขาทำใช้เวลามานาน ลูกน้องผมและลูกน้องท้าวมหาราชทั้งหมด ๑,๐๐๐ คนเศษคุมวัดอยู่ ท่านรอโอกาสนี้มานานแล้ว รอโอกาสที่อกุศลกรรมเปิดทางให้ ฝ่ายที่เขาทำนะ ที่เขากลั่นแกล้ง

ถามท่านว่า การกลั่นแกล้งนี้มาจากไหน เรื่องส่วนตัวรึ เรื่องส่วนตัวนี่ไม่มีกับใคร ท่านบอกว่า ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว มันเรื่องส่วนรวมและความโลภ เขาต้องการให้ท่านพับไป แม้ลูกหลานทั้งหมด แต่มันพับไม่ลง แล้วท่านก็บอกว่า ผมรอเวลานี้มานาน วันนี้เวลา ๑๔.๐๐ น. กรรมที่เป็นอกุศลกรรมเขาเปิด ท่านเลยมาบอกเวลา ๑๓.๑๒ น. ไม่ใช่ให้หวยนะ และตอนสัคเคฯ พระพุทธเจ้าท่านเสด็จ บวงสรวงต้องนึกถึงพระพุทธเจ้าด้วยนะ อันดับแรกก็แค่ท้าวมหาราชทั้ง ๔ ถ้าเขายืนกับที่พระพุทธเจ้าท่านเสด็จด้วย

พอมาถึงท่านก็บอกว่า "บอกลูกหลานเขานะ ความเจริญรุ่งเรืองจะมีขึ้นตามลำดับ ถอยหลังไม่มี..." ลงท้ายท่านก็บอกว่า เธอยังตายไม่ได้ตามเดิม ก็ใช่ยังพูดได้ยังไม่ตาย เมื่อคืนก็เครียดมาก ตอน ๕ โมงเย้นอาการเครียดอย่างหนัก พอตื่นมาตี ๒ รู้สึกสบาย เลยตายยาก...

 .............
คัดลอกจาก ธรรมปฏิบัติ22โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(พระมหาวีระ ถาวโร) วัดจันทาราม (ท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี