[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 27 ธันวาคม 2562 12:46:54



หัวข้อ: การทรงเจ้าเข้าผี คติธรรม พระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย)
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 27 ธันวาคม 2562 12:46:54
(https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQOk0m8BS4lQdS1AeUwpMA3pm8lxUf5__rmqnFhH481SnNnPctnmA&s)

การทรงเจ้าเข้าผี
คติธรรม พระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย)
วัดป่าสาลวัน อำเภอเมืองนครราชสีมา

นั่งสมาธิแล้วหาว...ก่อนที่จิตจะสงบเป็นสมาธิคือการง่วงนอน การหาวมี ๒ กรณี
กรณีหนึ่ง มันมีอาการเคลิ้มๆ เหมือนกับจะนอนหลับ
อีกกรณีหนึ่ง เราอาจจะเคยไปสัมผัสกับพวกสำนักทรงเขา พวกสำนักทรงนี้ พอเชิญวิญญาณเข้ามันจะหาว แล้วมีวิญญามาประทับ อันนี้ให้ระวัง

ถ้าหากมีอาการอย่างนั้น ถ้ากลัวจะมีวิญญาณมาทรง ให้รีบนึกว่า ในจิตของข้าพเจ้ามีแต่พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เต็มอันแน่นอยู่แล้ว ไม่มีช่องว่างที่จะเปิดรับใคร แล้วก็บริกรรมภาวนาพุทโธๆๆๆ ให้มันเร็วๆ เข้า อย่าให้มันมีช่องว่าง ไอ้สิ่งแทรกแซงทั้งหลายนี่มันจะแทรกตอนที่เราเผลอ พอเรามีอาการเคลิ้มๆ เผลอๆ แล้ว มันจะเข้ามา แพ็บ!
 
เดี๋ยวนี้คนทั้งหลายมันเก่ง มันไปเรียกเอาวิญญาณภูตผีปีศาจอะไรต่างๆ มาเป็นเครื่องมือหาอยู่หากินกัน เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด นี่หลวงพ่อยังคิดนะว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ เป็นเสด็จปู่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน (รัชกาลที่ ๙) ถ้าหลวงพ่อเป็นพระเจ้าแผ่นดินองค์ปัจจุบัน (ร.๙) นี้ ใครเอา ร.๕ มาทรงนี่ จะแจ้งตำรวจจับเอามันเข้าตะรางหมด มันเอาปู่ข้ามาทำมาหากินนี่หว่า

จากการสอบถามท่านผู้รู้ ผู้ที่ท่านรู้ทางใน อย่างหลวงปู่ฝั้นเป็นต้น ที่จะได้สอบถามเพราะว่า ท่านพ่อลี วัดอโศการาม มีศักดิ์เป็นปู่หลวงพ่อ แล้วก็มีพระองค์หนึ่งให้เณรเชิญวิญญาณท่านพ่อลีมาประทับทรง พอหลวงพ่อรู้เข้าก็รู้สึกไม่พอใจ ก็เลยพยายามสอบถามครูบาอาจารย์ ทุกองค์ลงความเห็นว่าท่านพ่อลีมาประทับทรงกันทั้งหมดเลย

พอไปถามหลวงปู่ฝั้น จริงหรือเปล่าหลวงปู่ ที่ว่าวิญญาณท่านพ่อลีมาทรง เอ๊ย! มันจะไปจริงไปจังอะไรน้อ มันเป็นวิธีทำมาหากินของเขาอย่างหนึ่ง มันไปเลียนแบบมาจากสิบเอกตำรวจอยู่ที่สมุทรปราการ บ้านตำรวจคนนั้นเขาเป็นสำนักทรงวิญญาณ พระพวกนี้ก็ไปเลียนแบบเขามา ถ้าใครนับถือท่านผู้ใดก็ทำเครื่องสักการะบูชาท่านผู้นั้นขึ้นมา แล้วก็ทำพิธีเชิญวิญญาณมาทรง ก่อนอื่นก็ประกาศบอกว่า ต่อไปนี้วิญญาณของ ร.๕ จะมาประทับทรง ให้ลูกศิษย์ลูกหามาคอยกราบคอยไหว้ พอทำพิธีขึ้นมาแล้ว วิญญาณพเนจรอยู่ตามแถวป่าหญ้าป่าไม้ข้างบ้านมันชิงกันมาทรง วิญญาณใดที่มีอิทธพลเหนือหมู่มันก็ทรงได้ พอมันทรงแล้วมันก็ประกาศว่าฉันคือ ร.๕ แต่แท้ที่จริงมันไม่ใช่

หลวงปู่ฝั้นนี่ท่านยืนยันเลยว่า ฉันได้พิจารณาดูแล้วมันไม่ใช่มันเห็นแต่วิญญาณพเนจร เหล่านี้มันแย่งกันเข้ามาทรง

ถ้าหากว่าไม่จริง แล้วทำไมมันจึงรู้เรื่องอดีตเราดีนัก เขาว่าอย่างนี้ ทำไมเรื่องอดีตของเรานี่มันรู้หมดทุกสิ่งทุกอย่าง

วิญญาณของเรานี่ เวลานี้เราเป็นมนุษย์อยู่ มันไม่มีฤทธิ์มีอิทธิพลอะไรหรอก เวลามันตายไปแล้ว วิญญาณนี่สามารถทำให้บ้านหลังนี้ไหวก็ได้ แล้วมันรู้เรื่องอดีตทุกอย่าง เพราะธรรมชาติของสัตว์ในภพนั้นมันเป็นอย่างนั้น

ผีที่มาเข้าสิงคนนี่ เคยเป็นพวกหมอวิชาอาคมกันทั้งนั้น หลวงพ่อมีประสบการณ์ที่กุฏิหลังนี้แหละ คนบ้านหนองจะบก ผีมันเข้าสิง ๓ วัน ๓ คืน หมอธรรมหมอมนต์ที่ไหนมาขับไล่มันก็ไม่ออก พอหมดมนต์ท่องมนต์บทไหน พอขึ้นต้น ผีมันท่องจบไปก่อนหมด เขาจนปัญญาไล่ไม่ออก เขาก็เข้ามาหาหลวงพ่อ พอมาถึงบอกว่า

“หลวงพ่อๆ ไล่ผีให้หน่อย”
“โอ๊ย! เกิดมาไม่เคยเห็นผีสักที จะไปไล่มันยังไง”
“มันเข้าสิงคนนั่น”
“เออ! ถ้างั้นไปหาหลวงตามี ไป”

ตอนนั้นหลวงตามีมาจากกาฬสินธิ์ มาอยู่ด้วยกัน พอไปถึง หลวงตามีก็ท่องมนต์ พอขึ้นต้น มันท่องจบก่อนๆ ทุกบทเลย จนกระทั่งพระไม่มีมนต์จะท่องแข่งมัน มันเลยชี้หน้าด่า

“บวชเป็นพระเป็นสงฆ์มาเรียนมนต์ไสยศาสตร์ ใครบอก เป็นพระต้องเรียนธรรม เรียนวินัย ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มนต์นี่ข้าไม่กลัวหรอก กลัวแต่ความดี”

เขาเล่าให้ฟังทีหลังว่า ที่มานี่ไม่ได้มาร้ายหรอก มาดี ตั้งใจจะมาอาศัยร่างจะไปกราบหลวงปู่พุธ สมัยเป็นคนได้เคยขโมยของท่าน จะไปให้ท่านอโหสิกรรมให้ เขาก็เลยเอาย้อนกลับมาอีก พอมาก็มานอนพังพาบอยู่ต่อหน้า หลวงพ่อก็เทศน์ให้มันฟัง

“นี่เจ้าเป็นภูตผีปีศาจร้าย เข้ามาสิงกายมนุษย์ ทำให้จิตใจเขาไม่เป็นปกติ ไม่เป็นอันทำมาหาเลี้ยงชีพ เจ้ากำลังสร้างบาป จะลงนรกนะ เจ้าเป็นผีนี่มันก็ทุกข์พอแรงแล้ว ยังจะสร้างบาปลงนรกอีก เจ้าไม่กลัวหรือ หรือเจ้ามีความผิดอะไรต่อข้า ข้าอโหสิกรรมให้หมด ไม่ให้เป็นบาปเป็นกรรม บุญกุศลสิ่งใดที่ข้าบำเพ็ญมาตั้งแต่เล็กจนแก่ ข้าขออุทิศให้เจ้าเป็นผู้มีส่วน เจ้าจงอนุโมนทนาบุญกับข้าแล้วไปเกิดดีมีสุขซะ” ขาดคำผีออกทันที

วิชาอาคม คาถาอาคมขับผี ป้องกันผีนี่ อย่าไปเรียน เพียงแต่เรากล่าวว่า สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุ เท่านั้นแหละ ผีมันได้ยิน มันจะบอกว่า ท่านผู้นี้มาดี ไม่ได้มาร้าย ถ้าเราขืนเบียดเบียนท่านผู้นี้ หัวเราจะแตก ๗ เสี่ยง

ท้าวเวสสุวรรณ หัวหน้าผี ได้ประกาศิตเอาไว้ ผีตนใดไปเบียดเบียนคนที่มีศีลมีธรรม หัวมันจะแตกเป็น ๗ เสี่ยง ผีมันกลัว มันไม่ทำหรอก

บางทีไปนอนอยู่ป่า เพื่อนที่อยู่ข้างๆ กันนี่เขาเรียนวิชาขับผี พอนอนหลับลงไปท่องแต่มนต์ไล่ผี เขาว่า
“โอ๊ย! นอนไม่ไหวหรอก”
“ทำไมล่ะ”
“ผีมันกวน”
“เออ นอนซะ เดี๋ยวจะทำให้ได้นอน” แกก็นอน หลวงพ่อก็ลุกมานั่งแผ่เมตตาไปรอบๆ เขานอนหลับตลอดคืน พอตื่นเช้าขึ้นมา ถามไปเรียนมนต์มาจากไหน ทำไมขลังวิเศษนัก ไอ้เราท่องแทบเป็นแทบตาย ไม่เห็นได้อย่างนี้เลย

การสวมนต์ พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ แผ่เมตตาพรหมวิหารนี้ ผีมันไม่กลัว แต่มันไม่เป็นศัตรูกับเขา ดีไม่ดีมันจะช่วยเหลือเราเสียด้วยซ้ำ เพราะว่าเขามาได้บุญจากเรา เขาก็เห็นบุญเห็นคุณเรา เขาก็มาช่วยเหลือเรา พวกวิญญาณนี้ไม่ใช่เรื่องเหลวไหล ถ้าเราดีกับเขา เขาก็ดีกับเราเหมือนกัน

ขอขอบคุณเพจ •เกร็ดธรรมะ ประวัติพระกรรมฐาน •