[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => สมถภาวนา - อภิญญาจิต => ข้อความที่เริ่มโดย: Maintenence ที่ 08 มกราคม 2563 15:23:42



หัวข้อ: “พระสมัยปัจจุบัน” -พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ สัตหีบ. ชลบุรี
เริ่มหัวข้อโดย: Maintenence ที่ 08 มกราคม 2563 15:23:42
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/47530490615301_81214605_2641787112525890_8503.jpg)

พระสมัยปัจจุบัน
โดย พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร สัตหีบ. ชลบุรี

พระสมัยนี้นี่แทบจะไม่รู้จักเรื่องของการภาวนาเลย จะรู้แต่เรื่องของการสวดทำพิธีกรรมต่างๆ ถ้านิมนต์ให้ไปทำพิธีบุญบังสังสวดนี้ทำได้กันอย่างคล่องเเคล่วว่องไว แต่ถ้าจะให้ไปนั่งสมาธิ ให้ไปเดินจงกรม ให้ไปปลีกวิเวกอยู่ตามป่าตามเขานี้ แทบจะหาใครไม่ค่อยได้เลย ส่วนใหญ่ก็จะอ้างติดภารกิจต่างๆ ติดภารกิจของทางวัด ติดภารกิจของทางญาติโยม บวชมาก็เลยไม่ได้มีโอกาสที่จะได้สัมผัสกับแก่นธรรม ก็คือการปฏิบัติจิตตภาวนา สมถะและวิปัสสนาภาวนา ไม่มีวันที่จะได้สัมผัสกับผลของการปฏิบัติของแก่นธรรม ก็คือการบรรลุมรรค ผล นิพพานขั้นต่างๆ จนกลายเป็นของแปลกประหลาดไป

ถ้ามีผู้ใดมาพูดว่าได้บรรลุธรรมขั้นนั้นขั้นนี้ก็จะกลายเป็นที่ลังเลสงสัยว่า เป็นไปได้หรือ เพราะว่ามีพระที่มาหลอกกันเรื่อยๆ อยู่เป็นประจำอยู่แล้ว อ้างว่าบรรลุขั้นนั้นขั้นนี้แต่ทำไปทำมา ไม่นานก็ปรากฏว่าไปกระทำในสิ่งที่พระที่ได้บรรลุนั้นไม่พึงกระทำ จึงทำให้ผู้ที่บรรลุธรรมอย่างแท้จริงนี้ เป็นบุคคลที่หายากและน่าเชื่อถือยาก เพราะไม่รู้ว่าจะเป็นจริงหรือไม่เป็นจริง

ดังนั้นพระที่ได้หลุดพ้นจริงๆ นี้มักไม่อยากจะพูดไม่กล้าพูด เพราะพูดไปแล้วนี้จะเป็นปัญหามากกว่าจะเป็นประโยชน์ จึงต้องอยู่กับแบบเงียบๆ ไป แล้วก็ปล่อยให้ผู้ที่มีหูมีตามีปัญญาที่จะแยกแยะ ดูว่าเป็นพระอย่างไรเท่านั้นที่จะรู้ได้ พวกที่ไม่มีปัญญาก็ต้องเป็นพวกที่ต้องเชื่อ ต้องตามกันไป ใครเขาว่าองค์ไหนเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ก็จะแห่กันไป ถ้าแห่ไปถูกองค์ที่เป็นอย่างที่พูดก็ดีไป ถ้าแห่ตามไปกับองค์ที่ไม่ได้เป็นอย่างที่พูดก็ต้องมาอกหักในภายหลัง แห่กันตามไปแล้วในที่สุด ก็สึกกันไปมีภรรยาอย่างนี้ อย่างนี้ก็อกหักกันไปหลายรายด้วยกัน อันนี้เพราะว่าตนเองไม่มีปัญญาที่จะแยกแยะ ว่าพระแท้ พระปลอมนั้นเป็นอย่างไร เพราะตนเองก็ไม่ได้ศึกษาจากแหล่งที่ถูกต้อง คือไม่ได้ศึกษาจากพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้านั่นเอง

ชาวพุทธเรานี้ความจริงต้องรู้จักคำสอนของพระพุทธเจ้าในเบื้องต้นก่อน ต้องรู้พระสูตรสำคัญๆ ที่พระพุทธเจ้าได้ทรงสั่งสอน เช่นธัมจักกัปปวัตตนสูตร อันนี้เป็นพระสูตรแรกที่พระพุทธเจ้าได้ทรงประกาศ ทรงสั่งสอน เป็นพระปฐมเทศนา เป็นกัณฑ์เทศน์อันแรก ทรงแสดงเรื่องของพระอริยสัจ ๔ ทรงแสดงเรื่องของมรรค ๘ ที่เป็นแก่นของพระศาสนา ถ้าศึกษาแล้วต่อไปเวลามีพระรูปใดมาสั่งสอนอะไร ก็จะได้มีคำสอนของพระพุทธเจ้ามากลั่นกรองอีกที มาเปรียบเทียบอีกทีว่าสอนตามที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน หรือไม่ ถ้าไม่สอนตามที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนก็จะได้รู้ว่าไม่ใช่ทางเสียแล้ว แต่นี่ไม่รู้ เพราะว่าไม่ศึกษากัน ธัมจักฯ ไม่ศึกษา สติปัฏฐานสูตรไม่ศึกษา อาทิตตปริยายสูตรไม่ศึกษา มงคลสูตรไม่ศึกษากัน

นี่แหละคำสอนสำคัญๆ ของพระพุทธเจ้านี้ไม่ศึกษากันไม่รู้กัน ไม่รู้ว่าอะไรเป็นแก่นไม่รู้ว่าอะไรเป็นเปลือก เป็นกระพี้


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/14419066616230_81245968_2638733926164542_4610.jpg)