[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4 => ข้อความที่เริ่มโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 06 กรกฎาคม 2554 16:11:10



หัวข้อ: อนาจสังขารเอ๋ย
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 06 กรกฎาคม 2554 16:11:10
(http://image.ohozaa.com/i/82a/e2333414.jpg)

 ควรเข้าใจเบื้องต้นพื้นฐานก่อนว่า ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา คือ บังคับบัญชา

ไมได้ แล้วแต่เหตุปัจจัยของสภาพธรรม ไม่มีเรา ไม่มีสัตว์ บุคลมีแต่ธรรม จึงไม่มีเราที่

จะบังคับสภาพธรรมได้{สติ}และปัญญาก็เป็นธรรมเช่นกันเพราะฉะนั้น{สติ}และ

ปัญญาจึงเป็น{อนัตตา}ด้วย คือ ไม่สามารถบังคับบัญชาได้อย่างอกุศล มีโลภะ เป็นต้น

เมื่อมีเหตุปัจจัยก็เกิดขึ้น และเกิดขึ้นติดข้องในสิ่งใด สิ่งหนึ่งซึ่งก่อนจะเกิดก็ไม่รู้เลยว่า

จะติดข้องสิ่งนี้ แต่เมื่อเกิดก็เกิดติดข้อง นี่แสดงถึงโลภะเป็อนัตตาและไม่รู้ว่าจะติด

ข้องอะไรในเวลาข้างหน้าสติและปัญญาก็เช่นกันสติปัฏฐานก็คือสติที่ระลึกลักษณะ

ของสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ซึ่งก็ไม่พ้นจากหมวด 4 คือ กาย เวทนา จิต ธรรม

เพราะเป็นสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้นั่นเอง ดังนั้นเมื่อ{สติปัฏฐาน}คือ สติและปัญญา

เป็นอนัตตาแล้ว คือ บังคับให้สติและปัญญาเกิดตามใจชอบไม่ได้ ต้องมีเหตุปัจจัย คือ............

สภาพธรรมที่เป็นสติและปัญญาเกิดพร้อมเมือ่ไหร่{สติ}และปัญญาก็เกิดรู้และเกิดตอน

นั้นนี่คือความเป็นอนัตตาของสติและปัญญาที่จะเกิดขึ้นและเมื่อสติและปัญญา

เกิดแล้ว ก้ต้องมีสิ่งที่{สติ}จะระลึกและมีสิ่งที่ปัญญารู้ รู้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา นั่นคือตัว

ธรรมที่มีจริงในขณะนี้ หรือ ในหมวด 4 ของสติปัฏฐานสิ่งที่สติและปัญญารู้ ก็แล้วแต่

สติและปัญญาเช่นกัน ที่จะรู้อะไร เพราะธรรมเป็นอนัตตา{บางครั้ง}สติก็เกิดระลึกสภาพ

ธรรมที่แข็ง ก็เป็น หมวด กายานุปัสสนา หรือ รู้ เสียง ก็เป็นธัมมานุปัสสนา....................



http://poerlife.fx.gs/index.php?topic=411.msg752#msg752 (http://poerlife.fx.gs/index.php?topic=411.msg752#msg752)



Sometime Home

http://poerlife.fx.gs

(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=22024.0;attach=1257;image)

http://poerlife.fx.gs/index.php?topic=412.msg753#msg753 (http://poerlife.fx.gs/index.php?topic=412.msg753#msg753)

ดูก่อนคฤบดีบุตร กรรมกิเลส คือ...................................

ปาณาติบาต ๑

อทินนาทาน ๑

กาเมสุมิจฉาจาร ๑

มุสาวาท ๑

กรรมกิเลส ๔ เหล่านี้ที่อริยสาวกนั้นละได้แล้ว

พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้สุคตศาสดา

ครั้นตรัสไวยากรณภาษิตนี้แล้ว

จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปว่า

ปาณาติบาต อทินนาทาน มุสาวาท และการคบหาภรรยาผู้อื่น

เรากล่าวว่าเป็นกรรมกิเลส บัณฑิตทั้งหลายไม่สรรเสริญ

http://www.fungdham.com/download/song/allhits/11.mp3