|
หัวข้อ: หลวงปู่จันทร์ ฐิตาจาโร วัดซับน้อยสามัคคีธรรม อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 17 เมษายน 2563 15:41:10 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/11964949220418_view_resizing_images_1_320x200.jpg) หลวงปู่จันทร์ ฐิตาจาโร วัดซับน้อยสามัคคีธรรม ต.พุทธบาท อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ หลวงปู่จันทร์ ฐิตาจาโร วัดซับน้อยสามัคคีธรรม ต.พุทธบาท อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ จะมีอายุครบรอบ 90 ปี เหล่าศิษย์ผู้ใกล้ชิดและญาติโยมผู้เลื่อมใส จะร่วมกันแสดงมุทิตาจิตฉลองอายุวัฒนมหามงคลเป็นประจำทุกปี หลวงปู่จันทร์ สมญานาม พระผู้เฒ่าหลังเขา ผู้มีความสมถะ สันโดษ มักน้อย เปี่ยมเมตตาธรรม เป็นศิษย์พุทธาคมหลวงพ่อทบ วัดพระพุทธบาทชนแดน และศิษย์อาจารย์วุ่น ตลับเงิน พี่ชายซึ่งเป็นฆราวาสจอมขมังเวทสายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า, สายหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และสายหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ฯลฯ มีนามเดิม จันทร์ ตลับเงิน เกิดเมื่อวันพุธที่ 10 เม.ย. 2473 ที่บ้านหนองพง ต.หนองพะยอม อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร วัยเด็กจบการศึกษาภาคบังคับ จากนั้นออกมาช่วยเหลือครอบครัว อายุ 18 ปี บิดาจัดหาคู่ครองออกเรือน ต่อมาครอบครัวมีปัญหาจึงแยกทางกัน อุปนิสัยเป็นคนใจเด็ดเดี่ยว ทำอะไรทำจริง ทั้งมีความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ชอบศึกษาตำรับตำราคัมภีร์โบราณ มักจะไปอยู่กับ "อาจารย์วุ่น" พี่ชายคนโต ซึ่งเป็นอาจารย์ขมังเวทแห่งบ้านหนองพง เพื่อช่วยเหลือรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้ชาวบ้าน อาทิ ทำน้ำมนต์ไล่เสนียดจัญไร ขับคุณไสย เป่าลมป่วง ขจัดไสยดำที่ถูกปล่อยของ ซึ่งในสมัยนั้นมีความเชื่อว่ามีอยู่ดาษดื่น ต่อมาอาจารย์วุ่นพาไปถวายตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อทบ ธัมมปัญโญ ศึกษาวิทยาคม เพิ่มเติม ครั้นเมื่อพี่ชายถึงแก่กรรม รับภาระเป็นหมอกลางบ้านช่วยเหลือชาวบ้านเรื่อยมา จนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างดี เรียกกันว่า พ่อหมอบ้าง, อาจารย์หมอบ้าง ก่อนตัดสินใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เล่าเรียนศึกษาพระธรรมวินัย ก่อนออกธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร ปฏิบัติธรรมบำเพ็ญเพียร และเสาะหาครูบาอาจารย์เพื่อเรียนวิทยาคมต่างๆ หลังกลับมาบ้านเกิดมีเหตุให้ต้องลาสิกขา ก่อนที่จะละชีวิตฆราวาสเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ครั้งที่ 2 ที่พัทธสีมาวัดสว่างเนตร อ.ชนแดน มีพระครูโอภาสพัชรคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระปลัดสมชาย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และพระอ่อน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้ฉายาว่า ฐิตาจาโร มีความหมายว่า ผู้มีการประพฤติในธรรมอันตั้งมั่นไว้ดีแล้ว ออกจาริกธุดงค์อีกครั้ง จนมาถึงวัดซับน้อยฯ สมัยนั้นเป็นเพียงที่พักสงฆ์ มีพระธุดงค์จาริกมาพักปักกลดเป็นครั้งคราว เนื่องจากเป็นสถานที่เงียบสงบ มีถ้ำหลายถ้ำอยู่ด้านหลังวัด เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม สภาพตอนนั้นทรุดโทรมเกือบเป็นวัดร้าง ท่านจึงตัดสินใจอยู่จำพรรษาและบูรณะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากครูบาอาจารย์หลายท่านจึงมีความเชี่ยวชาญหลายอย่าง เช่น วิชาลงตะกรุดโทน ตะกรุดสามกษัตริย์ ตะกรุดสาลิกา ทำผ้ายันต์ เสื้อยันต์ การสร้างประคำโทน นางกวัก สีผึ้งมหาเสน่ห์ ลบผงอิทธิเจ ผงปถมัง และผงวิเศษอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีความชำนาญการฝังตะกรุดใต้ท้องแขน ซึ่งหาได้ยากที่จะเรียนสำเร็จวิชานี้ กล่าวกันว่าแม้แต่หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ก็เรียนวิชาฝังตะกรุดใต้ท้องแขนมาจากหลวงพ่อทบ วัดชนแดนเช่นเดียวกัน เป็นทั้งพระนักพัฒนาวัดและเป็นที่พึ่งทางใจ ข่าวสดออนไลน์ |