[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 29 กรกฎาคม 2563 14:02:26



หัวข้อ: หลวงปู่สุข สุขเปโม วัดป่าหวาย ต.โรงช้าง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 29 กรกฎาคม 2563 14:02:26


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/65438214399748_6351993997060900001_2_320x200_.jpg)

หลวงปู่สุข สุขเปโม
วัดป่าหวาย ต.โรงช้าง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี

ในอดีตเมืองสิงห์บุรี มีนามพระเกจิที่ทรงพุทธาคมหลายรูป เอ่ยนามมา ล้วนแต่เป็นที่รู้จัก อาทิ หลวงพ่อลา วัดโพธิ์ศรี, หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์, หลวงพ่อเชย วัดท่าควาย. หลวงปู่ศุข วัดคงคาเดือด, หลวงปู่ดี วัดแจ้งพรหมนคร, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง เป็นต้น

ปัจจุบัน พระครูสุขกิจบรรหาร หรือ หลวงปู่สุข สุขเปโม วัดป่าหวาย พระเกจิที่ชาวเมืองสิงห์ให้ความเลื่อมใสศรัทธา

สิริอายุ 91 ปี พรรษา 71 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าหวาย ต.โรงช้าง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี

มีนามเดิมว่า สุข นายช่าง ถือกำเนิดเมื่อวันศุกร์ที่ 14 มิ.ย.2472 ที่บ้านเลขที่ 71 หมู่ที่ 1 ต.โรงช้าง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้อง 7 คน

ชีวิตในวัยเยาว์ แม้ครอบครัวจะมีฐานะยากจน แต่ท่านเป็นคนชอบสนุกสนาน มีความประพฤติเรียบร้อย มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นที่รักของครอบครัวและเพื่อนฝูง เข้าเรียนที่โรงเรียนบ้านเกิด จนจบภาคบังคับ  อายุ 8 ขวบ บิดาถึงแก่กรรม ทำให้เป็นกำพร้า แม่ได้ยกให้เป็นบุตรบุญธรรมหลวงพ่อผิว คันธชาโต วัดป่าหวาย ได้รับเลี้ยงอุปการะให้การศึกษามาโดยตลอด

ในช่วงนั้น หลวงพ่อผิวฝึกสอนกัมมัฏฐานและวิปัสสนาให้ตั้งแต่ท่านยังเป็นฆราวาส กลับจากโรงเรียนทำการบ้านเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อผิวให้พักผ่อน พอถึงเวลา 1 ทุ่มตรง จะให้นั่งสมาธิ

ครั้นต่อมา อายุ 14 ปี หลวงพ่อผิว พิจารณาเห็นว่ามีความสนใจด้านพระพุทธศาสนา จึงประกอบพิธีบรรพชาให้ในปี พ.ศ.2486

ต้องเดินทางโดยนั่งเรือเมล์ไปยังวัดโพธิ์ศรี ระยะทางเรือจากวัดป่าหวายไปถึงวัดโพธิ์ศรี ประมาณ 25 กิโลเมตร ต้องใช้เวลานั่งเรือประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อเรียนวิทยาคมจากพระครูโพธิสาร (หลวงพ่อสุธี)

ครั้นเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงเข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดป่าหวาย เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2492 มีพระครูพรหมจริยคุณ (หลวงปู่ดี ธัมมปัญโญ) วัดแจ้งพรหมนคร เป็นพระอุปัชฌาย์, พระเจ้าอธิการผิว คันธชาโต วัดป่าหวาย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการแสวง วัดโพธิ์ศรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า สุขเปโม

จำพรรษาอยู่วัดป่าหวาย ศึกษาพระธรรมวินัย รวมทั้งอยู่ดูแลรับใช้อุปัฏฐากหลวงพ่อผิว

ต่อมาได้ทราบถึงกิตติศัพท์ของ หลวงปู่ดี หรือ พระครูพรหมจริยคุณ พระอุปัชฌาย์ ซึ่งชาวสิงห์บุรียอมรับเป็นสุดยอดพระเกจิ อาจารย์ จึงเดินเท้าจากวัดป่าหวายไปกราบนมัสการขอศึกษาเล่าเรียนวิทยาคม ฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ

ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2505 เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส พ.ศ.2507 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าหวาย พ.ศ.2507 เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พ.ศ.2515 เป็นเจ้าคณะตำบลโรงช้าง อ.พรหมบุรี พ.ศ.2520 เป็นพระอุปัชฌาย์

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2521 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ที่พระครูสุขกิจบรรหาร

พ.ศ.2527 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามเดิม

นอกจากเชี่ยวชาญในด้านไสยเวท พุทธาคม ด้านการปกครองแล้ว ยังมีความสามารถด้านการพัฒนา แต่เดิมวัดป่าหวายมีกุฏิสงฆ์ 4 หลังเท่านั้น หลังจากท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าหวายในปี พ.ศ.2507 ท่านก็ได้พัฒนาก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ภายในวัดเป็นจำนวนมาก

บูรณปฏิสังขรณ์สภาพของวัดที่เก่าแก่แต่เดิม ให้มั่นคงถาวรทั้งหมด ดังที่ได้เห็นทุกวัน ซึ่งเกิดจากบุญญาบารมีอย่างแท้จริง

เป็นพระที่มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย ถือมักน้อยสันโดษ มีเมตตา พูดน้อยแต่ใจดี และมีความเอื้อเฟื้อ

ปรารภว่า “สิ่งหนึ่งที่เป็นคำสอนของพระอาจารย์ที่ท่านไม่มีวันลืม คือ การหมั่นฝึกจิตทางด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน เป็นการเพิ่มพลังทางจิตให้นิ่ง ให้แน่นอน เมื่อจิตมีสมาธิแล้ว จะทำอะไรๆ มันก็ดีหมด...”

ด้านวัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงเป็นที่ปรารถนาของบรรดานักสะสมนิยมวัตถุมงคล แม้วัตถุมงคลจะได้รับความนิยม แต่ไม่เคยอวดโอ่ มีแต่พร่ำสอนให้ดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท

ทุกวันนี้ ยังคงเดินหน้าพัฒนาวัดและจิตใจของชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง  เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรอีกรูปของชาวเมืองสิงห์
ข่าวสดออนไลน์