[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 10 สิงหาคม 2563 20:56:19



หัวข้อ: รัชกาลที่ ๔ กับ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฤทธิ์ ธมฺมสิริ)
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 10 สิงหาคม 2563 20:56:19

(https://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/f/f0/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B9%82%E0%B8%86%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%8C_%28%E0%B8%A4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B9%8C_%E0%B8%98%E0%B8%A1%E0%B8%BA%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4%29.jpg)

รัชกาลที่ ๔ กับ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฤทธิ์ ธมฺมสิริ)

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฤทธิ์ ธมฺมสิริ) เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวรารามรูปที่ ๘ นี้

...เดิมเป็นบุตรนายวัด มหาดเล็กเวรศักดิ์ ในรัชกาลที่ ๓ บ้านเดิมอยู่บางกะปิ แขวงกรุงเทพฯ มารดาชื่อ เงิน บ้านเดิมอยู่บางเสาธงหลังวัดอัมพวา กรุงเทพฯ

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เกิดเมื่อวันเสาร์ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๗ ปีระกา พุทธศักราช ๒๓๘๐ ที่สวนบ้านบางเสาธง

เมื่ออายุได้ ๑๐ ปี บิดาได้นำมาฝากไว้ที่วัดนาคกลาง กับพระมหาพลาย เปรียญ ๔ ประโยค ได้เรียนคัมภีร์พระปริยัติธรรม ในสำนักพระมหาพลาย ซึ่งนับว่าเป็นพี่ชาย เมื่ออายุได้ ๑๓ ปี ตัดจุกแล้วบวชเป็นสามเณร จึงได้ย้ายไปอยู่วัดราชบุรณาราม เข้าบาญชีสอบไล่พระปริยัติธรรม ได้เล่าเรียนสอบซ้อมอยู่ในสำนักพระมหาเกษ เปรียญ ๔ ประโยค วัดราชบุรณารามนั้นบ้าง ในสำนักอาจารย์แก้วบอกที่ศาลารายวัดสุทัศนเทพวรารามบ้าง ในปีระกาต่อกับปีจอ พุทธศักราช ๒๓๙๓ ครั้นถึงเวลาที่สอบไล่ได้รับฎีกาแต่กรมสังฆการีให้ไปจับประโยค เข้าแปลที่สนามหลวง พระอุโบสถวัดพระเชตุพน แปลได้ ๓ ประโยค เมื่อแปลประโยค ๓ ติดศัพท์ (สรภญฺญํ) โดยพระมหากรุณาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ทรงพระอักษรเป็นนัย ก็แปลได้ตามที่ทรงนั้น โปรดว่าเป็นสามเณรเล็ก ทรงพระมหากรุณาทั้ง ๓ ประโยค แปลได้ ๓ ประโยคแล้ว ได้รับรางวัลแด่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า ๑ ชั่ง โดยทรงพระมหากรุณาโปรดว่าเป็นสามเณรเล็ก ทรงรับสั่งว่า เช่นเด็กจับเป็ดจับไก่ แปลได้ ๓ ประโยคเป็นการดี

เมื่อครั้งนั้นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎ์เป็นแม่กอง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ยังทรงผนวช ทรงเป็นผู้เด็ดขาดในที่ประชุมนั้น เมื่อสิ้นรัชกาลที่ ๓ แล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ นับเป็นรัชกาลที่ ๔ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เมื่ออายุครบ ๒๑ ปี จึงได้อุปสมบทเป็นภิกษุ เมื่อพุทธศักราช ๒๔๐๐ ถ้วน สมเด็จพระวันรัต (สมบุญ) แต่ครั้งท่านยังดำรงสมณศักดิ์ที่ พระธรรมวโรดม สถิตอยู่ ณ วัดราชบุรณารามนั้น เป็นพระอุปัชฌาย์ ให้ฉายา (ธมฺมสิริ) พระอมรโมฬี (นก) วัดบุปผาราม เป็นพระกรรมวาจารย์ พระครูทักษิณคณิศร (เษม) วัดพระเชตุพน เป็นอนุสาวนาจารย์

เมื่ออุปสมบทแล้วได้ ๗ พรรษา ได้เข้าสอบไล่อีกครั้งหนึ่งในสนามหลวง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม แปลได้ประโยค ๕ เป็นเปรียญ ๕ ประโยค ในรัชกาลที่ ๔ นั้น จึงทรงพระมหากรุณาโปรดให้ถวายเทศน์เวร แลเมื่อถวายเทศน์เวรได้รับพระมหากรุณาพระราชทานพัดโหมด ต่อแต่นั้นมาเมื่อเสด็จพระราชดำเนินเกาะจาน ได้รับพระราชทานพัดโหมดอีกที่พระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย แล้วทรงรับสั่งว่า เมื่อเสด็จกลับแล้วจะพระราชทานตั้งให้เป็นพระราชาคณะก็พอสิ้นรัชกาล...”

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ อาพาธเป็นโรคชรา มรณภาพเมื่อวันพุธที่ ๒๒ เมษายาน พ.ศ.๒๔๕๖ เวลา ๓ ยาม ปีฉลู สิริอายุได้ ๗๕ ปี ๓๑๘ วัน ในวันต่อมา เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ เสด็จแทนพระองค์ไปพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนครสวรรค์วรพินิต สวมลอมพอกโหมดถวายศพ แล้วเจ้าพนักงานยกศพตั้งบนแว่นฟ้า ๒ ชั้น ประกอบโกศไม้สิบสอง แวดล้อมด้วยฉัตรเครื่อง ๙ คัน แล้วสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าฯ กรมพระยาภาณุพันธุวงษ์วรเดช ทอดไตร ๑๐ ไตร และผ้าขาว ๒๐ พับ พระราชทานบังสุกุล และให้พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมทุกวันมีกำหนด ๑ เดือน



ที่มา : fb. เล่าเรื่อง..วัดบวรฯ/wikimedia.org