[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 14 สิงหาคม 2563 18:39:44



หัวข้อ: พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ เรื่องที่ ๒๕ เกสวชาดก : กัปปกุมาร
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 14 สิงหาคม 2563 18:39:44
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/13576513404647__500_320x200_.jpg)
พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ เรื่องที่ ๒๕ เกสวชาดก
กัปปกุมาร

          กัปปกุมารบังเกิดในตระกูลพราหมณ์แห่งเมืองพาราณสี แคว้นกาสี เมื่อเรียนจบก็ออกไปบวชเป็นพระฤๅษีอยู่ในป่าหิมพานต์รวมกับฤๅษีอื่นๆ อีกหลายร้อยองค์ และมีฤๅษีเกสวะเป็นอาจารย์ใหญ่
          พระฤๅษีทั้งหมดต่างก็มีความสนิทสนมกลมเกลียวกัน แต่ฤๅษีกัปปกุมารจะสนิทสนมเฉพาะพระอาจารย์เกสวะฤๅษีเท่านั้น
          อยู่มาวันหนึ่งเกสวะพาลูกศิษย์เข้าไปพักในสวนหลวงในเมืองพาราณสี
          พระราชาทอดพระเนตรเห็นบรรดาฤๅษีออกบิณฑบาตตอนเช้า ก็ทรงเลื่อมใสศรัทธารับสั่งให้อำมาตย์ไปนิมนต์มาฉันภัตตาหาร และทรงให้อาศัยอยู่ในสวนหลวงต่อไปอีก
          อาจารย์ฤๅษีรับปากพระราชาจะอยู่ต่อไปจนออกพรรษา
          ระหว่างที่อาศัยอยู่ในสวนหลวง พระราชาได้จัดภัตตาหารและเครื่องบำรุงต่างๆ ถวายอย่างอุดมสมบูรณ์
          ออกพรรษาแล้ว เกสวะฤๅษีทูลขอพระราชากลับไปยังป่าหิมพานต์ตามเดิม
          พระราชาตรัสว่า “พระอาจารย์ฤๅษีทรงเป็นผู้เฒ่าแล้ว ไม่ควรกลับไปอยู่ในป่าอีก จงพักในที่สบายอย่างในเมืองหลวงเถิด และปล่อยให้บรรดาลูกศิษย์ไปอยู่กันเถอะ”
          เกสวะอาจารย์กราบทูลว่า “ตกลงเราจะอยู่ที่นี่” จึงบอกให้บรรดาลูกศิษย์กลับไปยังป่าหิมพานต์
          อยู่มาไม่นาน เกสวะฤๅษีรู้สึกกังวลใจนอนไม่หลับเนื่องจากคิดถึงลูกศิษย์ โดยเฉพาะกัปปฤๅษีที่สนิทสนมกับพระอาจารย์ หลายวันเข้าก็ทำให้อาหารไม่ย่อยจนเกิดโรคลงโลหิต ทำให้อาพาธอย่างรุนแรง
          พระราชาจัดแพทย์มารักษาก็ไม่หาย จึงไม่สบายพระทัยมาก
          วันหนึ่ง เกสวะฤๅษีจึงทูลถามพระราชาว่า “พระราชาทรงอยากให้อาตมาตายหรืออยากให้หายจากโรค”
          “โยมก็ต้องอยากให้ท่านหายน่ะสิครับ”
          เกสวะฤๅษีทูลว่าถ้าอยากให้อาตมาหาย พระองค์ก็ควรส่งอาตมากลับไปยังป่าหิมพานต์จะดีกว่า
          พระราชาทรงตอบว่า “ตกลง โยมจะส่งพระคุณเจ้าไปเดี๋ยวนี้เลย”
          จากนั้นก็มีรับสั่งให้อำมาตย์พาฤๅษีเกสวะไปส่งที่ป่าหิมพานต์
          ฝ่ายเกสวะฤๅษีพอได้เห็นกัปปฤๅษีลูกศิษย์ ก็ดีใจรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที
          ทางกัปปฤๅษีได้ดูแลพระอาจารย์เป็นอย่างดีโดยหาอาหารมาให้ฉัน จัดทำข้าวยาคูหุงด้วยข้าวฟ่างและลูกเดือย และผักรสชาติดี อาจารย์ฉันอาหารได้มาก ไม่นานก็ค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ ต่อมาพระราชาทรงสั่งอำมาตย์นารทะไปเยี่ยมฤๅษี และเห็นพระฤๅษีหายจากอาการป่วย จึงถามว่า “พระคุณเจ้า! พระราชาจัดแพทย์มารักษาท่านเป็นอย่างดีก็ยังไม่หาย แต่พอกลับมาอยู่ป่าโรคกลับหายไป เพราะเหตุใดหรือครับ”
          เกสวะฤๅษีตอบว่า “นารทะ! ที่เราหายได้ก็เพราะได้อยู่ในสถานที่เต็มไปด้วยต้นไม้อันร่มรื่น และมีกัปปะฤๅษีผู้เฉลียวฉลาดพูดแต่สิ่งดีๆ ทำให้เราสบายใจ และคอยหุงหาอาหารและน้ำให้เราดื่ม ข้าวยาคูหุงด้วยข้าวฟ่างและลูกเดือย ผสมกับผักที่สดสะอาด อาการโรคก็บรรเทาและหายไปในที่สุด
          อำมาตย์จึงถามต่อว่า “เพราะเหตุใดถึงทำให้ท่านชอบข้าวฟ่างและลูกเดือยอันไม่มีรสชาติเล่า ในเมื่อฉันข้าวสาลีที่ปรุงด้วยเนื้ออย่างดีมาแล้ว
          ของกินจะดีเลวอย่างไรจะมากหรือน้อยขนาดไหน เมื่อคุ้นเคยกันแล้วจะกินกันที่ไหนก็อร่อยทั้งนั้น”
          จากนั้นทั้งสองได้สนทนาต่ออีกเล็กน้อย แล้วอำมาตย์ก็อำลาท่านฤๅษีกลับพระนคร เข้ากราบทูลเรื่องราวทั้งหมดให้พระราชาทรงทราบ
   
 
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/95774630084633_hqdefault_1_Copy_.jpg)
ขอขอบคุณภาพจาก YouTube.com

ธรรมนิทานชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“ความคุ้นเคยเปรียบเสมือนอาหารอันรสเลิศ”

พุทธศาสนสุภาษิตประจำเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
วิสฺสาสปรมา รสา
ความคุ้นเคยเป็นรสอันยอดเยี่ยม  (๒๗/๑๕๖)