หัวข้อ: ปานแดง ปานดำ 2 ปานแต่กำเนิดนี้ มีความแตกต่างกันอย่างไร เริ่มหัวข้อโดย: ฉงน ฉงาย ที่ 23 ตุลาคม 2563 20:51:40 ปานแดง ปานดำ 2 ปานแต่กำเนิดนี้ มีความแตกต่างกันอย่างไร (https://hellokhunmor.com/wp-content/uploads/2020/09/Birthmarks.jpg) ปานแต่กำเนิด หรือร่องรอยของจุดสีที่เกิดขึ้นบนผิวหนัง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นใกล้ตัวและอาจเกิดขึ้นได้แต่กำเนิด แต่น้อยคนนักที่จะทราบรายละเอียดของปานอย่างแท้จริง เชื่อว่า หลายคนอาจตั้งคำถาม สงสัยกันมากมายว่าปานนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปานแดง ปานดำ 2 ปานแต่กำเนิดนี้ มีความแตกต่างกันอย่างไร หากไม่เอาออกจะส่งผลเสียต่อสุขภาพหรือไม่ บทความนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ “ปาน” ให้มากขึ้นกันค่ะ ปานแต่กำเนิด ร่องรอยของจุดสีบนผิวหนังที่มีมาแต่กำเนิด ปาน หรือเรียกเต็ม ๆ ว่า ปานแต่กำเนิด (Birthmarks) เป็นลักษณะจุดสีบนผิวหนัง ที่ปรากฏขึ้นตั้งแต่แรกเกิดหรือเกิดขึ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกหลังคลอด สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่บนร่างกาย ทั้งบริเวณใบหน้าและลำตัว ซึ่งปานแต่กำเนิดนี้จะมี สี รูปร่างและลักษณะที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตาม ปาน ไม่ใช่โรคร้ายแรงที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ บางคนอาจมีปานปรากฏอยู่บนมีผิวหนังตลอดชีวิต หรืออาจค่อย ๆ หายไปเมื่อเริ่มโตขึ้น โดยหลัก ๆ แล้ว ปานแต่กำเนิด สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือ ปานแดง และ ปานดำ ซึ่งมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้ 1. ปานแดง (Vascular Birthmarks) ปานแดง (Vascular Birthmarks) คือการเปลี่ยนสีของผิวหนังที่เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือด ที่ปรากฏขึ้นตั้งแต่แรกเกิด โดย ปานแดง สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้ (:LOVE:)แซลมอน แพตช์ (Salmon Patch) คือ ปานจะมีลักษณะแบนเรียบ มีสีชมพูหรือแดง มีขนาดเล็ก ปานชนิดนี้พบได้บ่อยถึง 1 ใน 3 ของทารกแรกเกิด โดยทั่วไปมักพบบริเวณท้ายทอย บริเวณระหว่างคิ้ว เปลือกตา เป็นต้น (:LOVE:)ปานฮีแมงจิโอมา (Hemangioma) คือ ปานจะมีลักษณะบวมนูน มีสีแดงสด ปานชนิดนี้มักปรากฏขึ้นในช่วง 1 เดือนแรกหลังคลอด โดยทั่วไปมักพบบริเวณใบหน้า หนังศีรษะ หน้าอก หลัง (:LOVE:)ปานแดงเส้นเลือดฝอย (Port-Wine Stain) คือ ปานจะมีลักษณะใหญ่ มีสีแดงเข้มหรือสีม่วง ปานชนิดนี้พบในทารกแรกเกิด โดยทั่วไปมักพบบริเวณใบหน้า ลำคอ 2. ปานดำ (Pigmented Birthmarks) ปานดำ (Pigmented Birthmarks) เกิดขึ้นเมื่อผิวหนังบริเวณนั้นมีเม็ดสีเมลานิน (Melanin) มากเกินไป โดย ปานดำ สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้ (:LOVE:)ปานดำแต่กำเนิด (Congenital Naevi) มีขนาดและรูปร่างที่แตกต่างกันออกไป สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทั้งบริเวณใบหน้าและลำตัว ส่วนใหญ่มักมีรูปร่างกลม มีตั้งแต่สีชมพูจนถึงน้ำตาลอ่อนหรือดำ หากปานดำมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังได้ (:LOVE:)ปานคาเฟโอเล่ (Café-Au-Lait Spots) ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่า “ปานกาแฟใส่นม” มีรูปร่างทรงรี สีน้ำตาลซีด โดยปานชนิดนี้สามารถปรากฎขึ้นได้ตลอดเวลาตั้งแต่วัยแรกเกิดจนถึงวัยเด็กเล็ก (:LOVE:)ปานมองโกเลียน (Mongolian blue Spots) ปานมีรูปร่างแบน มีสีเทาอมฟ้า โดยทั่วไปมักพบปานชนิดนี้บริเวณก้น และจะจางหายไปเมื่ออายุ 4 ปี ปานแดง ปานดำ 2 ปานแต่กำเนิดนี้ มีความแตกต่างกันอย่างไร ปานแดง และปานดำ มีข้อแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้ (:LOVE:)ปานแดง เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือด โดยปานแดงจะปรากฎบนผิวหนังตั้งแต่แรกเกิด หรือปรากฎหลังคลอดได้เพียง 2-3 สัปดาห์แรก โดยส่วนใหญ่ปานแดงมักมีสี ชมพู แดง (:LOVE:)ปานดำ เกิดจากการผลิตเม็ดสีเมลานินที่อยู่ในชั้นผิวบริเวณนั้นมากเกินไป โดยส่วนใหญ่ปานดำมักมีดำ น้ำตาล เทา ไขข้อสงสัย: การมี ปาน เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่ ;D ;D ;D โดยส่วนใหญ่ ปาน ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย ทั้ง ปานแดง ปานดำ และไม่จำเป็นต้องเอาออก หากคุณรู้สึกกังวล ไม่มั่นใจ สามารถรักษาได้ด้วยการใช้เลเซอร์ จะทำให้รอยปานดูจางลง รวมถึงการรักษาด้วยกลุ่มยาเบต้า บล็อกเกอร์ (Beta Blockers) สำหรับผู้ที่มีปานแดงจะช่วยลดการหดตัวของหลอดเลือดและลดการไหลเวียนของเลือด จะช่วยทำให้ปานแดงหดตัวลงได้ ขอขอบคุณที่มา เพจ Hello คุณหมอ |