[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2564 16:09:54



หัวข้อ: พระมหากัปปินเถระ เอตทัคคะในการให้โอวาท
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2564 16:09:54
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/72089507968889_disciple1_1_640x480_.jpg)

มหากัปปินเถระ

มหากัปปินเถระ เป็นพระอรหันต์รูปหนึ่งในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าได้ประกาศตำแหน่งหรือเอตทัคคะว่าเป็นผู้ชำนาญในการให้โอวาทได้ดียิ่งกว่าพระภิกษุสาวกรูปอื่นๆ ในมหากัปปินเถรปทาน กล่าวว่า ท่านได้เป็นมหาอำมาตย์ผู้วินิจฉัยคดีต่างๆ ของพระเจ้าหัสวดีนคร เมื่อได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้าปทุมุตระได้ยกย่องพระชลชุตตมะไว้ในตำแหน่งที่ให้โอวาทได้ดียิ่งกว่าภิกษุทุกรูป จึงปรารภตำแหน่งนั้น และได้รับคำพยากรณ์ว่า คำปรารถนาจะเป็นความจริงในสมัยของพระพุทธเจ้านามว่า โคดม

ธรรมบทให้รายละเอียดเกี่ยวกับบุรพกรรมของท่านเพิ่มเติมอีกว่า เมื่อสิ้นชีวิตแล้วเวียนว่ายตายเกิดอยู่หลายพันชาติ แล้วก็ได้มาเกิดเป็นลูกคนโตของช่างทอหูก อาศัยภริยาจึงได้ทำบุญถวายทานแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า นอกจากนั้นภริยาของเขายังได้ชักชวนให้ชาวบ้านร่วมทำบุญอีกด้วย หลังจากชาตินั้น ก็ได้เวียนว่ายตายเกิดจนได้มาเป็นบุตรคนโตของนายช่างหูกอีกวาระหนึ่ง ครั้งนั้นได้ถวายผ้าจำนำพรรษาและวิหารแด่พระกัสสปะพุทธเจ้า ส่วนภริยาของเขาได้ถวายผลดอกอโนชาแด่พระพุทธเจ้าอีกด้วย

ในสมัยพระพุทธเจ้าโคตมะเจ้า ท่านได้เกิดในราชตระกูลในเมืองกุกกุวดีนคร เมื่อมีชนมายุตามสมควรแล้วก็ได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินเสวยราชย์ในเมืองนั้น มีมเหสีนามว่าอโนชาเทวี พระองค์ทรงฝักใฝ่ในพระพุทธศาสนา ถึงกับทรงส่งม้าซึ่งเป็นราชยานไปฟังข่าวเกี่ยวกับพระรัตนตรัยจนได้สดับข่าวนั้นจากพวกพ่อค้า   มีพระราชศรัทธาอย่างแรงกล้าพร้อมด้วยข้าราชบริพารเสด็จมุ่งพระพักตร์ไปยังเมืองสาวัตถี อันเป็นที่ประทับของพระพุทธองค์ โดยประทานเครื่องทรงของพระองค์ให้พวกพ่อค้าและตรัสสั่งให้ไปบอกพระเทวี ส่วนพระองค์ทรงมุ่งตรงไปยังเมืองสาวัตถี เสด็จผ่านแม่น้ำ ๓ สาย โดยสะดวกเพราะอาศัยอำนาจแห่งพระรัตนตรัย พระพุทธองค์ก็เสด็จมาต้อนรับด้วยพระองค์เอง เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วพระองค์ก็ประทานบวชให้โดยเอหิภิกขุอุปสัมปทา ภายหลังก็ได้บรรลุพระอรหันต์

มหากัปปินเถระชอบเปล่งคำว่า สุขหนอ สุขหนอ (อโห สุขํ อโห สุขํ) เพราะความดื่มด่ำในรสแห่งพระธรรม

ในคัมภีร์ชัมพูปติสูตต์ สำนวนล้านนาได้กล่าวว่า เมื่อครั้งที่พระพุทธองค์ประทับอยู่ที่เวฬุวันมหาวิหารและทรงเนรมิตสถานที่แห่งนั้นให้เป็นมหานคร มีร้านค้าตลาดและนายช่างผู้ชำนาญ ตลอดจนเครื่องดนตรีหลากชนิด ทั้งนี้เพื่อให้พญาชมพูบดีลดมานะที่ถือพระองค์เองว่าเป็นราชาผู้ยิ่งใหญ่ ที่เสวยมหานครอันมั่งคั่งสมบูรณ์ มีเมืองในพระราชอำนาจมากมาย มหากัปปินเถระได้รับมอบหมายให้เนรมิตตนป็นขุนคลังแก้ว หรือปรินายกรัตนะ มีหน้าที่รักษาดูแลคลังเก็บพระราชทรัพย์ด้านนอก คู่กับพระราหุลซึ่งมีหน้าที่ดูแลด้านใน ดังความว่า ...มหากปฺปินเถโร มหากัปปินเถรเจ้าเอาเพสเป็นปริณายกะแก้วแห่งพระญาจักกวัตติอันเปนกับด้วยประธานแห่งตน...(ผูกที่ ๑) และว่า...พายหน้าแต่นั้นเล่าค็หันยังมหามหากัปปินเถร เจ้าอันเอาเพสเปนนายเล้มรักสาเข้าของพายนอก ดูมีเตชาอานุภาวะมากนักเป็นดั่งพระญาจักกวัตติราชนั้นแล ผูกที่ ๒)