[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 21 มีนาคม 2564 17:27:52



หัวข้อ: สมเด็จพระมหาวีรวงศ์” (อ้วน ติสโส) วัดสุปัฏนารามฯ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 21 มีนาคม 2564 17:27:52

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/73686632969313_bud01p1_14_Copy_.jpg)

สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสโส)
วัดสุปัฏนารามฯ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

“สมเด็จพระมหาวีรวงศ์” (อ้วน ติสโส) วัดสุปัฏนารามฯ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี พระนักปฏิบัติวิปัสสนา และพระเกจิ

เป็นศิษย์เอกที่ได้รับถ่ายทอดวิชาทั้งทางด้านพระปริยัติธรรมและปฏิบัติธรรมจากพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) วัดบรมนิวาส

นามเดิม อ้วน แสนทวีสุข เกิดเมื่อปี พ.ศ.2410 ที่หมู่บ้านหนองแคน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

อายุ 19 ปี บรรพชาที่วัดบ้านสว่าง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี

ย้ายไปจำพรรษาที่วัดศรีทอง มีพระเทว ธัมมี (ม้าว) เป็นเจ้าอาวาส เพื่อศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยและอักษรสมัย ได้รับการสนับสนุนให้ศึกษาเล่าเรียน

จนอายุครบบวช เมื่อวันที่ 20 มี.ค.2449 เข้าพิธีอุปสมบทที่พัทธสีมาวัดศรีทอง มีพระเทวธัมมี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระโชติปาลเถร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ เป็นอุทเทสาจารย์ ได้รับฉายา “ติสโส”

อยู่รับใช้อุปัฏฐากพระอุปัชฌาย์และศึกษาพระธรรมวินัยที่วัดศรีทองโดยตลอด จนพระอุปัชฌาย์มรณภาพ

อายุ 24 ปี ติดตามพระอุบาลีคุณูปมา จารย์ มาอยู่กรุงเทพฯ เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยต่อ และสามารถสอบเปรียญโทเทียบ 5 ประโยคได้ จากนั้นท่านเดินทางกลับไปจังหวัดอุบลราชธานีเข้าประจำทำหน้าที่ ครูสอนบาลีไวยากรณ์ที่โรงเรียนนักธรรม ซึ่งพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ก่อตั้งขึ้น

การปฏิบัติธรรมสมัยแรกที่ศึกษาอยู่กับพระอาจารย์ และได้รับอุบายธรรมจาก พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม, พระอาจารย์ทอง อโสโก, หลวงปู่ฝั้น อาจาโร และท่านพ่อลี วัดอโศการาม ซึ่งได้รับหลักธรรมอันมั่นคงที่สุด

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2446 เจ้าอาวาสวัดสุปัฏนาราม จ.อุบลราชธานี พ.ศ.2447 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะมณฑลอีสาน พ.ศ.2454 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะมณฑลอุบล พ.ศ.2465 ผู้รั้งตำแหน่งเจ้าคณะมณฑลร้อยเอ็ด (พ.ศ.2454 โปรดเกล้าฯ ให้แยกมณฑลอีสานออกเป็นมณฑลอุบลและมณฑลร้อยเอ็ด)

พ.ศ.2470 เจ้าอาวาสวัดสุทธจินดา จ.นครราชสีมา พ.ศ.2475 เจ้าอาวาสวัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ พ.ศ.2485 เจ้าอาวาสวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2447 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระสาสนดิลก พ.ศ. 2454 เป็นพระราชาคณะเสมอชั้นราชในราชทินนามเดิม พ.ศ.2455 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชมุนี พ.ศ.2464 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพเมธี

พ.ศ.2468 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพพิเศษที่ พระโพธิวงศาจารย์

พ.ศ.2472 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมปาโมกข์ พ.ศ.2475 เป็นพระราชาคณะมัชฌิมมหาคณิศวรานุนายก (เจ้าคณะรองคณะกลาง) ที่ พระพรหมมุนี

พ.ศ.2482 เป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์

ช่วงสุดท้ายของชีวิต มาจำพรรษาที่จังหวัดอุบลราชธานี หันจิตเข้าแนวทางปฏิบัติธรรมอย่างแน่วแน่ ด้วยอาการอาพาธ จึงมองเห็นคุณอันยิ่งใหญ่ในการภาวนาธรรม หายเพราะธรรมโอสถโดยแท้

แต่ด้วยสังขารเป็นของไม่เที่ยง จึงละสังขารด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 26 ม.ค.2499 สิริอายุ 89 ปี พรรษา 68
   ข่าวสดออนไลน์