พิมพ์หน้านี้ - พระเทพสารเมธี (บัวศรี ชุตินธโร) วัดประชานิยม อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/33695546206500_5_Copy_.jpg)

พระเทพสารเมธี (บัวศรี ชุตินธโร)
วัดประชานิยม อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์

เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2564 ที่ประชุมมหาเถรสมาคมมีมติเห็นชอบแต่งตั้งพระสังฆาธิการตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัด 30 รูป และรับทราบการถอดถอน 3 เจ้าคณะจังหวัด ประกอบด้วย เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ฉะเชิงเทรา และกาฬสินธุ์ (ธรรมยุต) พร้อมทั้งแต่งตั้งใหม่แทนทันที

ทำให้คณะสงฆ์จังหวัดกาฬสินธุ์จัดประชุมวาระพิเศษเร่งด่วนเนื่องจากคณะสงฆ์ตั้งข้อสงสัยกรณีถอดถอนพระเทพสารเมธี (บัวศรี ชุตินธโร) ออกจากตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธรรมยุต) นั้นเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบธรรมทำให้ประชาชนเสียขวัญ

ทำหน้าที่เจ้าคณะจังหวัดมาตั้งแต่อายุ 33 ปี

ปัจจุบัน สิริอายุ 71 ปี พรรษา 51 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดประชานิยม อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์

มีนามเดิม บัวศรี วงศ์สวัสดิ์ เกิดเมื่อวันอังคารที่ 10 ธ.ค.2493 ที่บ้านอุ่มเม่า ต.อุ่มเม่า อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ครอบครัวมีพี่น้อง 6 คน

วัยเยาว์ พ.ศ.2505 สําเร็จชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนอุ่มเม่าวิทยา อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์

อายุ 13 ปี บรรพชาครั้งแรก ที่วัดสว่างอารมณ์ บ้านอุ่มเม่า อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ มีพระราชธรรมานุวัตร (อ่อน จักกธัมโม) ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่พระธรรมานันทมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์

บรรพชาครั้งสอง เมื่ออายุ 15 ปี ที่วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร (เจริญ สุวัฑฒโน) ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่พระธรรมวราภรณ์เป็นพระอุปัชฌาย์

มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2509 สอบได้นักธรรมชั้นตรี–โท–เอกตามลำดับที่สํานักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร

กระทั่งอายุ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดบวรนิเวศวิหาร โดยมี สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร (เจริญ สุวัฑฒโน) ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ พระสาสนโสภณ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระญาณวโรดม (สินธิ์ กิจจากาโร) ขณะดํารงสมณศักดิ์ที่พระธรรมโสภณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระราชบัณฑิต (แจ่ม ธัมมสาโร) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ชุตินธโร” แปลว่า “ผู้ทรงไว้ซึ่งความรุ่งเรือง”

ตั้งใจศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลี พ.ศ.2516 สอบไล่ได้เปรียญธรรม 4 ประโยค

หลังจากนั้น ยังจบหลักสูตรพระสังฆาธิการชั้นต้น, ผ่านการอบรมหลักสูตรผู้บริหารสถานศึกษา รวมทั้งผ่านการอบรมหลักสูตรการฝึกอบรมพระวิปัสสนาจารย์

พ.ศ.2542 ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ ประจําจังหวัดกาฬสินธุ์

พ.ศ.2546 ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานอุปถัมภ์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาลัยศาสนศาสตร์เฉลิมพระเกียรติกาฬสินธุ์

มีความชํานาญการพิเศษหลายด้านเช่นมีความรู้ความชํานาญในงานสารบรรณ พิมพ์ดีด การบริหารงานสํานักงาน มีทักษะการบริหารงานบริหารบุคคลโดยใช้ระบบการบริหารงานบริหารบุคคล ที่ได้รับประสบการณ์จากการเป็นพระเลขานุการมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน เป็นพระนักพัฒนาการที่ได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดีตลอดระยะเวลาอันยาวนานนํามาประยุกต์ถือปฏิบัติ

มีความเข้าใจในการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรม–บาลี และแผนกสามัญเป็นอย่างดี โดยแต่งตั้งมอบหมาย มอบอํานาจให้คณะกรรมการจัดการศึกษามีอิสระในการบริหารงานสํานักเรียนวัดประชานิยม เป็นไปตามเป้าหมายแห่งกฎระเบียบ คําสั่ง ข้อบังคับ กรรมการมหาเถรสมาคมทุกนัยกรณีโดยรับภาระหน้าที่บริหารอุปถัมภ์ทรัพยากรด้านทุนทรัพย์ไม่จํากัดงบประมาณ

ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2524 เป็นเจ้าคณะตำบลลำพาน (ธ) พ.ศ.2527 เป็นเจ้าคณะอำเภอสมเด็จ (ธ) พ.ศ.2530 เป็นเจ้าอาวาสวัดประชานิยม และเป็นเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) พ.ศ.2562 เป็นพระอุปัชฌาย์ ประเภทวิสามัญ

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2524 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูภัทรคุณาภรณ์ พ.ศ.2530 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญที่ พระสุเมธีธรรมภาณ พ.ศ.2539 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่พระราชญาณเวที

พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่พระเทพสารเมธี

“คนสมัยก่อนนั้น ส่วนมากแล้วสถานะทางครอบครัวจะยากจนมาก ไม่มีเงินทองจะส่งให้ลูกเรียนในโรงเรียนดีๆ ที่พึ่งพิงสุดท้ายก็คือวัดเท่านั้น ที่จะสามารถผลิตหรือกลั่นกรองให้เด็กเก่ง และเป็นคนดีได้ การที่จะเป็นคนดี ที่สําคัญก็คือการบวชแล้วไปศึกษาหาความรู้อยู่ภายในวัด เพราะวัดมีแต่สิ่งดีๆ และก็สามารถสอนให้เป็นคนดีได้…” พระเทพสารเมธีกล่าวปรารภ

ขณะนี้ศิษยานุศิษย์ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์และใกล้เคียง กำลังเคลื่อนไหวเข้าชื่อเรียกร้องและถวายฎีกาเพื่อขอความเป็นธรรมในสิ่งที่เกิดขึ้น ข่าวสดออนไลน์