หัวข้อ: มาเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับ อมนุษย์{สนทนาธรรม} เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 29 สิงหาคม 2554 12:15:18 (http://static.panoramio.com/photos/original/52592202.jpg) Photo And Music By Sometime (http://lh6.ggpht.com/_AYFPNs1xf64/TBr_4TvayfI/AAAAAAAABD0/ny96kFM6Zak/1276500000.gif) (http://image.ohozaa.com/i/8d3/L9U6f.gif) นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย ขอเรียนถาม ท่านวิทยากร มูลนิธิบ้านธัมมะ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมาก่อนเที่ยงคืน ดิฉันซึ่งเป็นหวัด และได้เดินเข้าห้องน้ำ ขณะเปิดห้องนอนออกมาก็เห็นหลานสาวกำลังทำการบ้านกับเพื่อนที่ดิฉันไม่รู้จัก ซึ่งเปิดไฟสว่างเดินกลับเข้าห้องนอนก็มองไปก็เห็นเป็นเด็กผู้ชายแต่งตัวสุภาพนั่ง ทำการบ้านด้วยกัน(เรียนหมอ)ก็ไม่ได้คิดอะไรมากรุ่งขึ้นก็ถามแม่เด็กว่าหลานเอา เพื่อนมาด้วยหรือ บอกว่าไม่มีก็ถามหลานสาวเองหลานบอกว่าไม่มีเหตุการณ์ เช่น นี้เรียกว่า อุปทานหรือเปล่าค่ะแต่ไม่น่าเป็นไปได้น่ะมองดูหลายครั้งก็เหมือนเดิม อย่างนี้ที่ชาวบ้านเรียกว่า{ผีบ้านผีเรือน}หรือเปล่าค่ะ ? และผีบ้านผีเรือนมีในพระสูตร ด้วยหรือเปล่าค่ะ - ขอขอบคุณมานะโอกาสนี้ค่ะ ตอบ...........ในพระสูตร มีการกล่าวถึงสัตว์ในภพภูมิอื่นที่ไม่ใช่มนุษย์เรียกว่า{อมนุษย์}เช่นใน อรรถกถาธรรมบทกล่าวถึงเทวดาที่มีวิมานอยู่ที่ซุ้มประตูบ้านของท่าน{อนาถบิณฑิก - เศรษฐี}มาแสดงตัวให้เห็นแต่การได้เห็นอมนุษย์ไม่เป็นทัสสนานุตตริยะ คือ ไม่ ใช่การเห็นที่สูงสุดการได้เห็นพระพุทธองค์หรือสาวกของพระพุทธองค์แล้วได้รู้ แจ้งอริยสัจจธรรมเป็นการเห็นที่ประเสริฐที่สุดฉะนั้น สิ่งที่ผ่านไปแล้วไม่น่าสนใจ เพราะล่วงไปแล้วแต่สิ่งที่กำลังปรากฏทุกขณะเป็นสิ่งที่น่าสนใจควรแก่การศึกษาให้ รู้ตามเป็นจริงว่า เป็นสภาวธรรมอย่างหนึ่งเท่านั้นผู้ที่รู้สภาวธรรมที่กำลังปรากฏตาม ความเป็นจริงย่อมพ้นจากทุกข์ได้ โดยมากเข้าใจว่าตายแล้วเป็น(ผี)แต่ความจริงนั้นทันทีที่จุติ คือ จิตขณะสุดท้ายทำกิจเคลื่อนจากความเป็นบุคคลนั้นดับ - {ปฏิสนธิ} {จิต} คือ จิตขณะแรกของชาติต่อไปก็เกิดสืบต่อทันทีไม่มีระหว่างคั่นแล้ว แต่ว่า{ปฏิสนธิจิต}นั้นเป็นผลของกรรมใดที่ทำให้เกิดในภพภูมิใด ถ้าเกิดในนรกก็ไม่มีใครมองเห็นเมื่อไม่เห็น{สัตว์นรก}ก็ไม่กล่าว ว่าเห็น{ผี}แต่ถ้าเกิดในภูมิที่สามารถจะปรากฏกายให้เห็นได้ คือ ขณะที่ เห็นบุคคลที่ตายไปแล้วปรากฏร่างเหมือนที่เคยมีชีวิตอยู่ก็เข้าใจว่า เห็น{ผี}ความจริงเทวดาก็ปรากฏให้เห็นได้เหมือนกันแต่ไม่ทราบว่าจะ เรียกว่าผีหรือเปล่าหรือจะเรียกว่าผีเฉพาะผู้ที่ตายแล้วเกิดเป็นเปรตและ อสุรกายเท่านั้น ที่สำคัญที่สุด ในสัจจะธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงให้สัตว์โลกเข้าใจความจริง ที่สัตว์โลกยึดถือด้วยความเห็นผิดว่ามีเรา มีสัตว์ บุคคล มี{ผี}มีสิ่งต่าง ๆ มากมายแต่ใน ความจริงแล้ว{สัจจะที่เป็นอริยสัจจะ}พระองค์ทรงแสดงว่ามีแต่สภาพธรรมที่เป็นขันธ์ 5 ที่เป็นนามธรรมและรูปธรรมมีแต่สภาพธรรมที่เกิดขึ้นและดับไป หากไม่มีสภาพธรรม ไม่มีเห็น ไม่มีได้ยิน ไม่มีได้กลิ่น ไม่มีลิ้มรส ไม่มีสภาพธรรมอะไรเลยจะมีสัตว์ บุคคล หรือแม้แต่ผีที่เป็น(เปรต)จะมีได้มั๊ย ? มีไม่ได้เลยเพราะฉะนั้นประโยชน์ของการ ศึกษาพระธรรมคือการเพิกถอนความเห็นผิดว่ามีเรา มีสัตว์ บุคคลหรือมี(ผี)ทั้ง ๆ ที่ความ จริงมีแต่สภาพธรรมเท่านั้นในขณะนี้ที่คิดนึกเมื่อเราเข้าใจความจริงอย่างนี้ย่อมเป็น ปัจจัยให้สามารถอบรมปัญญา - ดับกิเลสได้เพราะเป็นสัจจะเข้าใจตามสัจจะที่พระองค์ ทรงแสดง(ผี)มีเมื่อไหร่ถ้าไม่มีเห็นไม่มีได้ยินและไม่มีคิดนึก(ผี)จะมีได้มั๊ย?ดังนั้นเรา กลัวอะไรนอกจากกลัวความคิดนึกของเราเองหลังจากเห็นและได้ยินเพราะความจริงมี แต่สภาพธรรมแต่เมื่อมีเหตุปัจจัยปัญญายังไม่มากพอก็ยังกลัวเพราะความไม่รู้และ กิเลสที่สะสมมา........................................ จากหนังสือ บทบาทของ อาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในการเผยแผ่พุทธธรรมโดย พระธนนาถ นิธิปญฺโญ มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา http://www.fungdham.com/download/song/allhits/28.mp3 (http://image.ohozaa.com/i/5d0/dpCtP.jpg) http://poerlife.fx.gs/index.php?topic=687.new#new (http://poerlife.fx.gs/index.php?topic=687.new#new) |