|
หัวข้อ: "ผาสิงห์เหลียว" มหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างไว้อย่างงดงาม อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 23 มีนาคม 2565 14:51:48 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/17171290516853_1_Copy_.jpg) ปรากฏการณ์จากธรรมชาติอันแปลกประหลาดของ "ผาสิงห์เหลียว" ทำให้พญาราชสีห์ยังต้องเบือนหน้ามอง (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/51971835229131_2_Copy_.jpg) “ผาสิงห์เหลียว” เป็นเสาดินที่น่าจะสูงที่สุดในประเทศไทย เพราะเสาที่สูงที่สุด สูงถึง ๕๐ เมตร หรือประมาณ ๑๖๕ ฟุต ผาสิงห์เหลียว ตำบลบ้านตาล อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ผาสิงห์เหลียว อยู่ที่พื้นที่บ้านตาลเหนือ หมู่ที่ ๑ ตำบลบ้านตาล กม.ที่ ๑ ถนนสาย ฮอด – ดอยเต่า อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ “ผาสิงห์เหลียว” เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ (ธรณีวิทยา) เกิดขึ้นจากการทรุดตัวของแผ่นดิน จนเป็นรอยชั้น มีลักษณะเป็นเสาดินแข็งที่มีลักษณะคล้ายหมวกหลากหลายรูปทรงตั้งตระหง่านสลับกันอย่างสวยงาม โดดเด่น มองเห็นอย่างชัดเจนแต่มาแต่ไกล ตามตำนานเชื่อว่าในเขตอำเภอฮอดมีที่ซ่อนสมบัติอยู่หลายแห่ง เช่น เขตตำบลฮอด ซึ่งก่อนน้ำท่วมมีสมบัติซ่อนอยู่ในบริเวณวัดท่าเชียงทอง และวัดหลวงฮอด และในตำบลบ้านตาลมี ๒ แห่ง ได้แก่บริเวณผาสิงห์เหลียว และดอยแพะก้อม ประวัติตำนานนี้มีอายุกว่า ๑,๐๐๐ ปี จึงถือว่าเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งของชุมชน ถึงแม้ว่าจะไม่มีเอกสารอื่นให้เห็นมากนัก ในอาณาบริเวณแห่งนี้ มีสิ่งอัศจรรย์ให้ชมคือ "ไม้กลายเป็นหิน" ไม้กลายเป็นหินเกิดขึ้นจากท่อนไม้ของพืชชนิดใดชนิดหนึ่งถูกฝังกลบอยู่ใต้ผิวดินในสภาพที่ขาดออกซิเจนทำให้เนื้อไม้ไม่เน่าเปื่อย ซึ่งการที่ไม้จะกลายเป็นหินได้นั้นจะต้องอาศัยวิวัฒนาการมายาวนาน ๑,๐๐๐ ถึง ๔,๐๐๐ ปี จึงจะกลายเป็นหินได้ ในตำนานยังกล่าวอีกว่า เมื่อก่อนบริเวณผาสิงห์เหลียวเคยมีถ้ำ มีประตูทางเข้าลึกลับมาก ปัจจุบันหาไม่พบแล้ว และคนธรรมดาอย่างเราไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าถ้ำดังกล่าวอยู่ที่ใด แต่หากใครสามารถพบทางเข้าถ้ำแห่งนี้ได้ก็จะพบกับผู้คุ้มครองคล้ายพญานาค โดยประตูทางเข้าถ้ำเป็นประตูกล ลักษณะเป็นเฟืองขนาดใหญ่ที่ทำงานอัตโนมัติตลอดเวลา ใครที่ต้องการจะหยุดประตูกลนี้ได้จะต้องใช้ไม้ไผ่หลายร้อยลำเพื่อนำไปค้ำให้ฟันเฟืองของประตูให้หยุดทำงานเพื่อให้เข้าไปด้านในได้ เมื่อเข้าไปด้านในได้แล้วก็จะพบกับสมบัติมากมาย (ว่ากันว่ามีสมบัติมากจนทำให้คนบ้านตาลรวยกันไปหลายชั่วอายุคน) และความลึกของถ้ำแห่งนี้จะเชื่อมไปถึงประตูโขงของวัดลัฏฐิวัน (วัดบ้านตาลเหนือในปัจจุบัน) นี่เป็นตำนานที่เล่าขานสืบทอดกันมา ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อของคนในยุคอดีต และบริบทของคำว่า “ตำนาน” นั้น คือเรื่องราวที่อาจเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ได้ อาจมีหลักฐานหรือไม่มีก็ได้ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/76556270114249_3_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/61776425068577_4_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/68944610034426_5_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/64930890790290_6_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/64015617635514_7_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/26682005946834_8_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/29592746040887_9_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/33206390299730_10_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/82890471402141_11_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/87343307750092_12_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/12384285819199_13_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/80047950107190_14_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/25349452719092_15_Copy__tn.jpg) |