หัวข้อ: ดูดวงชะตาตนเอง ฉบับ “นับเศษ” ของรัชกาลที่ 4 ฮิตมากจนสตรีชาววังนับเป็นกันทุกคน! เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 01 มกราคม 2566 13:13:36 (http://www.sookjaipic.com/images_upload/49062716753946__4_696x364_Copy_.jpg) พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ดูดวงชะตาตนเอง ฉบับ “นับเศษ” ของรัชกาลที่ 4 ฮิตมากจนสตรีชาววังนับเป็นกันทุกคน! ผู้เขียน - ฮิมวัง เผยแพร่ - ศิลปวัฒนธรรม วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ.2566 เรื่อง “ดวง” กับคนไทยนั้นถือเป็นของคู่กันมาตั้งแต่โบราณ ผสมผสานเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของคนไทยตั้งแต่เกิดจนตาย เช่น ดวงวันคลอดลูก ดวงวันแต่งงาน ฤกษ์งามยามดีต่าง ๆ วันตกฟาก หรือแม้แต่ปัจจุบันที่เอาเรื่องดวงมาผสมโรงกับเรื่องของสี จนกลายเป็น “สีเสื้อเสริมดวง” ที่ฮิตติดลมในช่วงไม่กี่ปีนี้ ในสมัยรัชกาลที่ 6 สตรีชาววังที่อาศัยอยู่ในวังสวนสุนันทาก็มีความเชื่องเรื่องดวงมากเช่นกัน จนหม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์ ข้าราชสำนักในตำหนักพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ฯ อธิบายว่า “…นับเศษของเก่าแก่แต่โบราณ คนในวังสวนสุนันทา ผมหงอกผมดำนับเล่นกันเป็นทุกคน…” หากคนไหนนับเลขแล้วตกเศษดี ก็จะเป็นที่โปรดของเจ้านาย ได้รับประทานสิ่งของ หากนับเลขแล้วตกเศษไม่ดีก็จะไม่เป็นที่โปรดเลยทีเดียว การนับเศษนี้เป็นตำราของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ที่ขึ้นชื่อว่าทำนายได้แม่นยำมาก ว่ากันว่าหากผู้ใดประสงค์นำบุตรชายมาถวายตัวเป็นมหาดเล็ก ก็จะต้องนับเลขวัน เดือน ปีก่อน ผู้ที่ตกเศษ 8 นั้นจะรับพิจารณาเข้ามาเลี้ยงดูทันที แต่หากตกเศษ 7 ให้เอาตัวกลับไปทันที หม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์ กล่าวว่าได้พบเจอคนตกเศษ 7 มาหลายคนแล้ว และไม่ผิดคาดอย่างตำราว่าไว้ อย่างไรก็ตาม การนับเศษนี้มิใช่เพื่อหวังประโยชน์โชคลาภเงินทอง เพียงแต่ดูดวงชะตาพื้นฐานของคนนั้นว่าชีวิตดีหรือไม่ รวยหรือจนไปชั่วชีวิต หรือดูให้รู้ว่าต้องให้ระวังตนอย่าประมาท วิธีการนับเลขมีดังนี้ นำเลขปี เลขเดือน เลขวัน ตามตารางด้านล่าง มาบวกกัน แล้วลบออกทีละ 10 เหลือเท่าใดก็เป็นเศษเท่านั้น เช่น ปีกุน ได้เลข 12 เดือน พฤศจิกายน ได้เลข 12 วันเสาร์ได้เลข 7 12+12+7 = 31 เมื่อลบออกทีละ 10 ตามท่านว่า จึงเหลือ 21 11 และ 1 ตามลำดับ ดังนั้น ตกเศษ 1 เลขที่นำมาคำนวน ปี เดือน วัน 1 ชวด ธันวาคม อาทิตย์ 2 ฉลู มกราคม จันทร์ 3 ขาล กุมภาพันธ์ อังคาร 4 เถาะ มีนาคม พุธ 5 มะโรง เมษายน พฤหัสบดี 6 มะเส็ง พฤษภาคม ศุกร์ 7 มะเมีย มิถุนายน เสาร์ 8 มะแม กรกฎาคม 9 วอก สิงหาคม 10 ระกา กันยายน 11 จอ ตุลาคม 12 กุน พฤศจิกายน สำหรับคนที่รวมแล้วได้ 10 20 หรือ 30 เช่น คนเกิดปี ชวด (ได้เลข 1) เดือนมกราคม (ได้เลข 2) วันเสาร์ (ได้เลข 7) จึงได้ 1+2+7=10 เมื่อลบออกทีละ 10 ได้ผลลัพธ์คือ 0 จึงตกเศษ 0 แต่ตำราท่านไม่ได้ทำนายคนตกเศษ 0 เพราะทำนายตั้งแต่ 1-10 เมื่อตำราไม่ได้ทำนาย เศษ 0 ไว้ และหม่อมหลวงเนื่องก็ไม่ได้อธิบายเช่นกัน จึงเข้าใจได้ว่า เมื่อคำนวนถึงเลข 10 แล้ว อาจจะยึดเอาเลขนั้นเป็นเลขตกเศษเลยเสียกระมัง และตามตำราท่านทำนายเลขตกเศษของแต่ละคน ดังนี้ เศษ 1 เสาเรือนไฟไหม้ ชะตาร้ายทั้งชายหญิง ไร้เรือนที่พึ่งพิง ที่พึ่งพักสำนักเนา จะร่อนเร่ระเหระหน เร่งเจียมตนอย่าดูเบา เพราะว่าชะตาเรา โทษประกอบจึงเกิดกรรม เศษ 2 จะครองไข้ มีโรคภัยสิงประจำ หยูกยาจะหาทำ บ่ถูกแท้จนแก่ตาย เศษ 3 ความสบาย มีข้าควายและเกวียนวัว พอสมสกุลตัว เท่าที่ทายสถานกลาง เศษ 4 มีข้าครอก อเนกนอกคนานาง อุปถัมภ์ล้วนสำอาง บ่ไข้ชุกบ่ทุกข์เป็น เศษ 5 ชะตากลับ ทุนทรัพย์จะแสนเข็ญ ภายหลังชะตาเป็น ทุนทรัพย์นับอนันต์ เศษ 6 จะยกญาติ เป็นเชื้อชาติประเสริฐสรรค์ เงินตรายศถาพลัน ทุนทรัพย์ลำดับมี เศษ 7 นั้นผ้าขาด จะนุ่งห่มก็เต็มที ภัตราย่อมราคี ระคายคับทั้งทรัพย์สิน เศษ 8 จะเปรื่องยศ จะปรากฏในแผ่นดิน ทรัพย์ศฤงคารสถานถิ่น ทั้งอำนาจและวาสนา เศษ 9 กินข้าวกลางตลาด เสมอชาติสุนัขา ถึงจะมีวาสนา ต้องประกอบทำงานการ เปรียบตระกูลวณิพก ถึงต่ำตกก็บ่นาน ดั่งนักเลงสุราบาน พอขวนขวายใส่ท้องตน เศษ 10 ดังนกแขกเต้า ทำรวงรังไว้บังฝน แสวงดีย่อมมีผล อย่าคลุกเคล้ากับเหล่าพาล เหมือนปักษีอันมีปีก รู้หลบหลีกธนูพราน ถ้าประมาทจะเสียการ ถึงชอกช้ำระกำกาย หม่อมหลวงเนื่องอธิบายว่าการทำนายดวงเช่นนี้เป็นเพียงการทำนายพื้นฐานดวง มิใช่การทำนายทุกข์ หาเคราะห์ร้าน เคราะห์ดี หรือหาโชคหาชัย แต่ท่านเองก็ยอมรับว่าการนับเศษเลขนี้แม่นนัก คนรอบข้างท่านก็มีชีวิตไปตามพื้นดวงนั้น ๆ ไม่ผิดตามคำทำนายเลย เมื่อดูดวงชะตาตนเองเสร็จแล้วก็อย่าได้วิตกหรือลำพองไปนัก ดวงก็เป็นเพียงศาสตร์ทำนายชีวิตแขนงหนึ่ง สิ่งที่จะกำหนดชีวิตของเราอย่างแท้จริงและเห็นเป็นรูปธรรมนั้นมิใช่ดวงชะตาหรือเวรกรรมนำพาแต่ชาติปางก่อน แต่คือตัวของเรานั่นเอง |