หัวข้อ: “หุ่นพยนต์” มนตราแห่ง “ขุนช้างขุนแผน” ศาสตร์ไม้เด็ดเปลี่ยนหุ่นหญ้าเป็นกองทัพ เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 10 มีนาคม 2566 12:49:48 (http://www.sookjaipic.com/images_upload/55198623612523__696x364_Copy_.jpg)
ภาพวาด "ขุนแผนทำพิธีตั้งจิตภาวนา นั่งย่างกุมารทอง" จิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องขุนช้างขุนแผน ที่ระเบียงคดรอบวิหารหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ จังหวัดสุพรรณบุรี เขียนโดย เมืองสิงห์ จันทร์ฉาย “หุ่นพยนต์” มนตราแห่ง “ขุนช้างขุนแผน” ศาสตร์ไม้เด็ดเปลี่ยนหุ่นหญ้าเป็นกองทัพสุด OP ผู้เขียน - กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม เผยแพร่ - วันพฤหัสที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2566 “หุ่นพยนต์” หมายถึง “รูปที่ผู้ทรงวิทยาคมเอาวัตถุมาผูกขึ้นแล้วเสกเป่าให้เป็นเหมือนรูปที่มีชีวิต” โดยคำว่า พยนต์ (อ่านว่าพะยน) หมายถึง “สิ่งที่ผู้ทรงวิทยาคมปลุกเสกให้มีชีวิตขึ้น” หุ่นพยนต์ นับเป็นศาสตร์แห่งไสยอีกประการหนึ่ง โดยนำวัสดุประเภทต่างๆ มาขึ้นรูปเป็นหุ่น อาจเป็นคนหรือสัตว์ก็ได้ แล้วทำพิธีปลุกเสกให้มีคุณในด้านต่างๆ ตามปรารถนา ความเชื่อเรื่องหุ่นพยนต์ปรากฏในสังคมมาช้านานย้อนไปถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา ดังปรากฏในเสภาเรื่อง “ขุนช้างขุนแผน” สำหรับหุ่นพยนต์ในเสภาขุนช้างขุนแผนนั้นจะเป็นการนำหญ้ามามัดเป็นรูปหุ่นเหมือนคน จากนั้นลงคาถาอาคมเสกให้มีชีวิต มีอาวุธ มีพละกำลัง ฟันแทงไม่เข้า ฯลฯ จุดมุ่งหมายที่ทำหุ่นพยนต์ขึ้นก็เพื่อใช้สู้รบหรือส่งข่าวสาร โดยผู้ใช้ศาสตร์นี้คือ “ตระกูลพลาย” อันได้แก่ พลายแก้ว (ขุนแผน) พลายงาม และพลายชุมพล พลายแก้ว เมื่อตอนที่ขุนแผนยังเป็นเณรแก้ว ได้จากวัดป่าเลไลยมายังวัดแคเมืองสุพรรณบุรี แล้วได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับสมภารชื่อคง จากนั้นก็ร่ำเรียนวิชาต่างๆ หนึ่งในนั้นคือการผูกพยนต์ หรือทำหุ่นพยนต์ ดังว่า “โบกปัดพัดวีพระอาจารย์ ให้สำราญรื่นจิตรพิสมัย ปฏิบัติมิให้ขัดข้องเคืองใจ สมภารแนะนำให้ไม่ช้าการ สะกดทัพจับพลทั้งปลุกผี ผูกพยนต์ฤทธีกำแหงหาญ ปัถมังกำบังตนทนทาน สะเดาะดาลโซ่กุญแจประจักษ์ใจ” [ตอนที่ 5 ขุนช้างขอนางพิม] หุ่นพยนต์ของขุนแผนได้ออกศึกครั้งแรกเมื่อตอนขุนแผนรบกับขุนช้าง โดยก่อนหน้านั้น ขุนแผนลักพาตัวนางวันทองจากเรือนของขุนช้างแล้วหลบหนีเข้าป่า ขุนช้างจึงนำกำลังพลราว 500 ออกติตตามไล่ล่า เมื่อขุนแผนทราบว่าขุนช้างยกพลมาหมายชิงตัวนางวันทองคืน จึงทำหุ่นพยนต์ขึ้นมาต่อสู้ ดังว่า “จึงสั่งพรายให้ถอนหญ้าแพรกส่ง ปลงอารมณ์โอมอ่านพระคาถา กลายเป็นคนพลันมิทันช้า สาตราง้าวทวนก็ถ้วนตน” [ตอนที่ 19 ขุนช้างตามนางวันทอง] ขุนแผนสร้างกองทัพหุ่นพยนต์ขึ้นแล้วก็สั่งให้รั้งรอไว้ก่อน จากนั้นขุนแผนจึงบุกไปรบกับฝ่ายขุนช้าง เมื่อล่อไพร่พลขุนช้างมาได้แล้ว ขุนแผนจึงสั่งกองทัพหุ่นพยนต์เข้าโจมตี ทำให้ฝ่ายขุนช้างแตกพ่ายล้มตายไปมาก เพราะหุ่นพยนต์มีฤทธิ์เดชฟันแทงไม่เข้า ดังว่า “ขุนแผนครั้นเห็นพวกละว้า เกลื่อนกลุ้มกันมาเป็นหมู่ใหญ่ จึงเรียกหุ่นพลันทันใด ให้ไล่พลขุนช้างกลางที่รบ พวกหุ่นโห่ฮึกสะอึกจับ รบรับชุลมุนฝุ่นตรลบ ละว้าตายก่ายมอญลงนอนซบ บ้างตลบลุกแทงเข้าแย้งรับ แทงหุ่นหยุ่นหยุ่นไม่ยักเข้า หุ่นกลับฟันเอาดังฉาดฉับ พวกขุนช้างแตกพ่ายกระจายยับ ขุนช้างกลับช้างขี่หนีออกมา” [ตอนที่ 19 ขุนช้างตามนางวันทอง] ต่อมา ขุนช้างกลับมาฟ้องต่อพระพันวษา ใส่ความว่าขุนแผนซ่องสุมพรรคพวกไว้ในป่าเป็นการเหิมเกริมอันตราย พระพันวษาจึงมอบหมายให้ทหารนำกำลังราว 5,000 ไปตามจับขุนแผน ซึ่งครั้งนี้ขุนแผนก็ต้องทำกองทัพหุ่นพยนต์ขึ้นมาสู้อีกครั้งหนึ่ง ดังว่า “ถอนหญ้ามามัดเป็นหุ่นพลัน ถ้วนพันวางเรียงเคียงกันไป แล้วเสกบริกรรมสำทับ เกิดเป็นไฟวับวับดังจะไหม้ เอานํ้ามนตร์ประหุ่นลงทันใด ไฟดับหุ่นหายกลายเป็นคน มีอาวุธครบมือถือประจำ แต่งตัวกำยำอย่างพหล ต่างเคารพนบนอบยอบตน ขุนแผนสั่งหุ่นพลไปทันที คอยอยู่ต่อกูเรียกให้รบ จึงตลบไล่พลให้ป่นปี้ ว่าแล้วก็ขับพาชี เร็วรี่เร่งออกนอกพนา ฯ …….. ว่าพลางทางร่ายพระคาถา เรียกหุ่นหนุนมาเป็นหมู่หมู่ ออกจากดงรังสะพรั่งพรู โห่ร้องก้องกู่เป็นโกลา ขุนแผนขับม้าเข้าถาโถม จู่โจมห้ำหั่นฟันทัพหน้า พวกหุ่นวิ่งกลมดังลมพา แซงสองข้างม้ามาทันใด ฤทธิมนตร์บนฟ้าเวหาพยับ มืดกลุ้มคลุ้มคลับสะท้านไหว แผ่นดินดังจะควํ่าคะมำไป เพราะพระมนตร์ดลให้บันดาลเป็น อาสาหกเหล่าเข้าต้านต่อ หอบหืดขึ้นคอสู้เต็มเข็ญ ดังฟันหินบิ่นหักกักกระเด็น ไม่เข้าหุ่นหมุนเผ่นเข้าฟาดฟัน ดาบหอกตอกป่ายประกายวาบ หอกดาบหักร่นจนถึงกั่น ปืนจังกาง่านกยกยิงยัน โผงถูกลูกนั้นกระดอนมา ปืนตับกลับซ้ำเข้าต้ำตึง ไม่หวาดไหวไล่อึงเข้ามาหา จนสิ้นสุดอาวุธแลสาตรา พวกอาสาย่นแยกแตกกระจุย” [ตอนที่ 20 ขุนช้างฟ้องว่าขุนแผนเป็นขบถ สมเด็จพระพันวษา] หอกหรือดาบก็ฟันแทงไม่เข้า แม้แต่กระสุนปืนนั้นเล่าก็ไม่อาจระคายผิวหุ่นพยนต์ได้ ฝ่ายขุนช้างจึงพ่ายแพ้ขุนแผนอีกครา (http://www.sookjaipic.com/images_upload/53239406148592__1024x635_Copy_.jpg) ภาพประกอบเนื้อหา – ภาพขุนแผน พลายงามไปทัพ จากจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องขุนช้างขุนแผน ที่ระเบียงคดรอบวิหารหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ จังหวัดสุพรรณบุรี เขียนโดย เมืองสิงห์ จันทร์ฉาย เมื่อ พ.ศ.2548 พลายงาม นอกจากขุนแผนจะเป็นผู้ทำหุ่นพยนต์ได้แล้ว บุตรชายคือ พลายงาม ที่เกิดแต่นางวันทอง ก็ได้ร่ำเรียนศาสตร์นี้มาจากทองประศรี (แม่ของขุนแผน) อีกด้วย ดังว่า “อันเรื่องราวกล่าวความพลายงามน้อย ค่อยเรียบร้อยเรียนรู้ครูทองประศรี ทั้งขอมไทยได้สิ้นก็ยินดี เรียนคัมภีร์พุทธเพทพระเวทมนตร์ …….. ทั้งเรียนธรรมกรรมฐานนิพพานสูตร ร้องเรียกภูตพรายปราบกำราบผี ผูกพยนต์หุ่นหญ้าเข้าราวี ทองประศรีสอนหลานชำนาญมา” [ตอนที่ 24 กำเนิดพลายงาม] พลายขุมพล บุตรชายอีกคนของขุนแผนคือ พลายชุมพล ที่เกิดแต่นางแก้วกิริยา ก็มีวิชาอาคมการทำหุ่นพยนต์เช่นกัน เมื่อตอนที่พลายชุมพลอาศัยอยู่ที่เมืองสุโขทัยก็หวนคิดถึงครอบครัว จึงมัดหญ้าเป็นรูปยักษ์ เสกคาถา ซัดข้าวสารใส่ จนร่างสูงใหญ่เทียมภูผา แล้วสั่งให้ถือหนังสือไปให้ขุนแผนผู้เป็นพ่อยังเมืองกาญจนบุรี ตอนนั้น ขุนแผนกับพลายงาม (พระไวย) บาดหมางกันอย่างรุนแรง ขุนแผนจึงส่งหนังสือไปยังพลายชุมพลว่าให้ตระเตรียมกองทัพหุ่นพยนต์ลงมาทำศึกสู้รบกับพลายงาม ดังว่า “เจ้าก็เรืองฤทธาวิชาการ ถึงผูกหุ่นยักษ์มารใช้มาได้ จงคิดผูกหุ่นพลสกลไกร ปลอมเป็นมอญใหม่ยกลงมา …….. เห็นกับพ่อขอให้พลายชุมพล เจ้ารีบผูกหุ่นยนต์ยกลงมา ฯ” [ตอนที่ 39 ขุนแผนส่องกระจก] พลายชุมพลได้รับหนังสือจากขุนแผนก็ทราบเรื่องราวปัญหาระหว่างบิดากับพี่ชาย จึงคิดช่วยขุนแผนทำศึก แล้วจึงเสกกองทัพหุ่นพยนต์ไว้เตรียมรบ ดังว่า “ครั้นแล้วเกี่ยวหญ้ามาฉับพลัน ผูกหุ่นถ้วนพันไว้กับที่ ซัดข้าวสารเสกประสิทธี หุ่นก็มีชีวิตขึ้นเป็นคน สองมือถือเครื่องสาตราวุธ อุตลุดอึงป่าโกลาหล ต่างนบนอบหมอบไหว้พลายชุมพล เจ้าขึ้นนั่งยังบนหลังกะเลียว แล้วสั่งหุ่นมนตร์พลไพร่ จะยกไปเป็นทัพขับเคี่ยว ให้โห่เสียงมอญใหม่ให้กราวเกรียว กำชับสั่งคำเดียวเป็นสำคัญ” [ตอนที่ 39 ขุนแผนส่องกระจก] ศึกหุ่นพยนต์ พลายชุมพลปลอมตัวเป็นแม่ทัพมอญยกมาทำศึก ฝ่ายพระพันวษาก็ส่งพลายงามออกมาสู้ แล้วจึงเกิดเป็นศึกหุ่นพยนต์ครั้งใหญ่ เพราะต่างก็ปลุกเสกทำหุ่นพยนต์มารบกันทั้งสองฝ่าย พลายชุมพลและพลายงามต่างใช้ศาสตร์แห่งไสยเข้าต่อสู้ พลายงามซัดข้าวสารใส่ กองทัพของพลายชุมพลก็กลับกลายเป็นหญ้าดังเดิม พลายชุมพลเป่ามนตราคาถาใส่บ้าง กองทัพของพลายงามก็กลับคืนสภาพเป็นหญ้า ดังว่า “พวกหุ่นหมุนร่าเข้าฝ่าฟัน คนขยั้นย่นย่อรอระอา ฮึดฮัดขัดใจไล่พิฆาต ไม่ไหวหวาดอ้ายมอญนี่หนักหนา พระไวยเห็นพลร่นลงมา มือขวาคว้าซัดข้าวสารไป พอข้าวมนตร์หล่นต้องหุ่นชุมพล กลายเป็นหญ้ายับป่นไม่ทนได้ ชุมพลชักม้าผ่าพลไกร เป่าไปด้วยพระเวทวิทยา ต้องพวกหุ่นมนตร์พลพระไวย ก็ย่อยยับกลับไปเป็นฟ่อนหญ้า สองนายบ่ายห้ามโยธา ก็รั้งราหยุดรบประจัญบาน ฯ” [ตอนที่ 40 พระไวยแตกทัพ] และในการศึกครั้งนี้ พลายงามเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับพลายชุมพล นอกจากเสภาขุนช้างขุนแผน หุ่นพยนต์ยังปรากฏในเรื่อง “พระอภัยมณี” และมีลักษณะคล้ายกันคือ หุ่นทำจากหญ้า ลงคาถาอาคมเสก และเอาไว้ใช้ในศึกสงคราม |