[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: sometime ที่ 31 พฤษภาคม 2553 18:15:34



หัวข้อ: The Personal Magnet
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 31 พฤษภาคม 2553 18:15:34
(http://seesod.com/storage34/QnuOr4s28T1275304781/l.jpg)

http://www.fungdham.com/download/song/allhits/17.wma



เรื่องที่มีคนเมตตากรุณา เห็นอกเห็นใจนั้นเป็นเพราะ คุณธรรมความดีของตนเอง หลายประการด้วยกัน เป็นต้นว่า วิริยะ อุตสาหะ บากบั่นเข้มแข็ง แรงกล้า และจิตใจเมตตากรุณาไม่เย่อหยิ่งจองหอง เป็นเหตุให้ผู้ที่แวดล้อมอยู่เกิดความเมตตากรุณารักใคร่เห็นอกเห็นใจ คิดที่จะช่วยเหลือ
คนซึ่งมี กิริยามารยาทอ่อนโยน สุภาพ นิ่มนวล ย่อมเป็นที่เสน่หารักใคร่ของคนที่ได้พบเห็นและพยายามที่จะช่วยเหลือนี่เป็น Personal Magnet คือ................................................................
เสน่ห์ในตัวของตัวเอง เพราะฉะนั้น จงพยายามรักษาคุณสมบัติดังกล่าวนี้ไว้ จะเป็นครื่องช่วยตัวเองให้บรรลุความสำเร็จสมประสงค์ทุกประการทุกกาลเวลา ทั้งปัจจุบันและอนาคต



.....................................เมตตา....................................



อย่ากลัว จงรักษาตัวให้บริสุทธิ์ ไม่มีอะไรทำอันตรายได้
จงจำไว้ว่า ถ้าปรารถนาความเมตตาและความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ก็ควรส่งกระแสใจที่ประกอบด้วยความเมตตา และความเห็นอกเห็นใจไปยังท่านเหล่านั้น แล้วก็จะได้รับความเมตตาและความเห็นอกเห็นใจไปยังท่านเหล่านั้น แล้วก็จะได้รับความเมตตาและความเห็นอกเห็นใจจากท่านเหล่านั้นเช่นเดียวกัน นี่เป็นกฎของจิตตานุภาพ แล้วความสำเร็จทั้งหลายที่ปรารถนา ก็จะบังเกิดแก่ตนสมประสงค์ทุกประการเป็นแน่นอน ไม่ต้องสงสัยเลย


หัวข้อ: Re: The Personal Magnet
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 31 พฤษภาคม 2553 18:23:47
(http://seesod.com/storage34/QnuOr4s28T1275304781/l.jpg)



..........................................สบายใจ..............................................


คำว่าไม่สบายใจ อย่าใช้ และอย่าให้มีขึ้นในใจต่อไป  Let it go and get it go ! ปล่อยให้มันผ่านไปอย่ารับเอาความไม่ สบายใจไว้ถ้าเผลอไปมันแอบเข้ามาอยู่ในใจได้พอ มีสติรู้สึกตัวว่าความไม่สบายใจเข้ามาแอบอยู่ในใจ ต้อง Get it out!  ขับมันออกไปทันทีอย่าเลี้ยงเอาความไม่สบายใจไว้ในใจมันจะเคยตัว ทีหลังจะเป็นคนอ่อนแอออดแอด  ทำอะไรผิดพลาด นิด ๆ หน่อย ๆ ก็ไม่สบายใจเคยตัวประสาทสมองไม่ปกติ
เป็นเหตุให้ร่างกายผิดปกติ พลอยไม่สงบไม่สบายไปด้วยทำให้สมองทึบไม่ปลอดโปร่งเป็น habit ความเคยชิน ที่ไม่ดี เป็นอุปสรรคกีดขั้นขวางสติปัญญา ไม่ให้ปลอดโปร่งแจ่มใส ต้องฝึกหัดแก้ไขปรับปรุงจิตใจเสียใหม่ ทั้งก่อนที่จะทำอะไร หรือกำลังกระทำอยู่และเมื่อเวลากระทำเสร็จแล้ว ต้องหัดให้จิตใจแช่มชื่นรื่นเริงเกิด ปิติปราโมทย์เป็นสุขสบายอยู่เสมอเป็นเหตุให้เกิดกำลังกายกำลังใจ Enjoy living มีชีวิตอยู่ ด้วยความเบิกบานสมองจึงจะเบิกบานจะศึกษาเล่าเรียนก็เข้าใจจำได้ง่าย เหมือนดอกไม้ที่แย้มเบิกบานต้อนรับ หยาดน้ำค้างและอากาศอันบริสุทธิ์ฉะนั้น



............................................สันติสุข........................................



พระพุทธเจ้าสอนว่า นตฺถิ สนฺติปรมํ สุขํ สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี หมายความว่า ความสุขอื่นมี เช่น ความสุขในการดูละคร ดูหนังในการเข้าสังคม Social ในการมีคู่รักคู่ครอง หรือในการมีลาภยศ ได้รับความสุข สรรเสริญ และได้รับความสุขจากสิ่งเหล่านี้ ก็สุขจริง แต่ว่าสุขเหล่านี้มีทุกข์ซ้อนอยู่ทุกอย่าง ต้องคอยปรับปรุงกันอยู่เสมอ
ไม่เหมือนกับความสุขที่เกิดจากสันติ ความสงบ ซึ่งเป็นความสุขที่เยือกเย็นและไม่ซ้อนด้วยทุกข์ และไม่ต้องแก้ไขปรับปรุงตกแต่งมาก
เป็นความสุข ที่ทำได้ง่าย ๆ เกิดกับกายใจของเรานี่เอง อยู่ในที่เงียบ ๆ คนเดียวก็ทำได้ หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมสังคมก็ทำได้ ถ้าเรารู้จักแยกใจ หาสันติสุข กายนี้ก็เพียงสักแต่ว่า อยู่ในที่ระคนด้วยความยุ่งสิ่งแวดล้อมเหล่านั้นไม่ยุ่งมาถึง ใจ
แม้เวลาเจ็บหนัก มีทุกขเวทนาปวดร้าวไปทั่วกายแต่เรารู้จักทำใจให้เป็นสันติสุขได้ ความเจ็บนั้นก็ไม่สามารถจะทำให้ใจเดือดร้อนตามไปด้วย
เมื่อใจ สงบแล้ว กลับจะทำให้กายนั้นสงบ หายทุกขเวทนาได้ด้วย
และประสบสันติสุข ซึ่งไม่ มีสุขอื่นยิ่งกว่าสันติสุขนั้น พระพุทธเจ้าสอนให้ฝึกเป็น ๓ ทาง คือ....................................................


หัวข้อ: Re: The Personal Magnet
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 31 พฤษภาคม 2553 18:28:52
(http://seesod.com/storage34/QnuOr4s28T1275304781/l.jpg)



สอนให้สงบกาย วาจา ด้วยศีล ไม่ทำโทษทุจริตอย่างหยาบที่เกิดทางกายวาจา เป็นเหตุให้เกิดสันติสุขทางกาย วาจา เป็นต้น
สอนให้ฝึกหัดให้เกิด สันติสุขทางใจ ด้วย สมาธิ หัดใจไม่ให้คิดถึงเรื่องความกำหนัด ความโกรธ ความโลภ ความหลง ความกลัว ความฟุ้งซ่านรำคาญ
ความลังเลใจ ทำให้ใจไม่เด็ดเดี่ยว ไม่เด็ดขาด เมื่อละสิ่งเหล่านี้ได้ เป็นเหตุให้ใจสงบ เป็นสันติสุขทางจิตใจอีกประการหนึ่ง
ทรงสอนให้ฝึกหัดให้เกิด สันติสุขทางทิฏฐิ ความเห็น ตด้วยปัญญา พิจารณาให้เห็นว่า สรรพสิ่งทั้งหลายไม่แน่นอน เป็นอนิจจัง ไม่เที่ยง คงทนอยู่ไม่ได้ ต้องเสื่อมสิ้นแปรปรวน ดับไปเรียกว่าเป็นทุกข์ ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชา อ้อนวอนขอร้อง เร่งรัด ให้เป็นไปตามความประสงค์ท่านเรียกว่า อนัตตา
เมื่อเรารู้เห็นความเป็นจริงเช่นนี้ จะทำให้จิตใจของเราเข้มแข็งมั่นคง เด็ดเดี่ยวไม่หวั่นไหวไปตามเหตุการณ์ทั้งหลาย เพราะรู้เห็นตามความเป็นจริงด้วยปัญญา ว่าสิ่งเหล่านั้นมันไม่แน่นอน มันคงอยู่ไม่ได้ ต้องเปลี่ยนแปลง เสื่อมสิ้นดับไป ไม่อยู่ในอำนาจฝ่าฝืนของเรา อย่าไปเร่งรัดให้เสียกำลังใจคง รักษาใจให้เป็นอิสระมั่นคงอยู่เสมอ ไม่หวั่นไหวไปตามเหตุการณ์เหล่านั้น เป็นเหตุให้ใจตั้งอยู่ในสันติสุข เป็นอิสระ เกิดอำนาจทางจิต Mind Power ที่จะใช้ทำกรณียะอันเป็นหน้าที่ของตนได้สำเร็จสมประสงค์




นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํ.................สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี




It needs a Peaceful Mind to support a Peaceful Body,and it needs a Peeaceful Body to support a Peaceful Mind and it needs Both Peaceful Body and mind to attain all success that which you wish.




หัวข้อ: Re: The Personal Magnet
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 31 พฤษภาคม 2553 18:36:13
(http://seesod.com/storage34/QnuOr4s28T1275304781/l.jpg)



..................................ทำอะไรไม่ผิดเลยก็คือไม่ทำอะไรเลย...................................


จงระลึกถึงคติพจน์ ว่า Do no wrong is do nothing ! ทำ อะไรไม่ผิดเลย ก็คือไม่ทำอะไรเลย
ความผิดนี้ แหละ เป็นครูอย่างดี ควรจะรู้สึกบุญคุณของตัวเอง ที่ทำอะไรผิดพลาด และควรสบายใจที่ได้พบกับอาจารย์ผู้วิเศษ คือความผิด จะได้
ตรงกับคำว่า เจ็บ แล้วต้องจำ ! ตัวทำเอง ผิดเอง นี้แหละเป็นอาจารย์ผู้วิเศษ เป็น Good example ตัวอย่างที่ดี เพื่อจะได้จดจำไว้สังวรระวังไม่ให้ผิดต่อไป แล้วตั้งต้นใหม่ด้วยความไม่เลินเล่อเผลอประมาท อดีตที่ผิดไปแล้วก็ผ่านพ้นล่วงเลยไปแล้ว แต่อาจารย์ผู้วิเศษยังคงอยู่คอยกระซิบเตือนใจอยู่เสมอทุกขณะว่า ระวัง ! อย่าประมาทนะ ! อย่าให้ผิดพลาดเช่นนั้นอีกนะ !


ผิดหนึ่งพึง -> จดไว้ ->ในสมอง

เร่งระวังผิด -> สอง - >ภายหน้า

สามผิดเร่ง คิดตรอง จงหนัก เพื่อนเอย

ถึงสี่อีกทีห้า หกซ้ำอภัยไฉน !


จงสังเกตพิจารณาดูให้ดีเถิด จะเห็นได้ว่า นักค้นคว้าวิทยาศาสตร์ทางโลกก็ดี และท่านผู้วิเศษที่เป็นศาสดาจารย์ในทางธรรมทั้งหลายก็ดี ล้วนแต่ผ่านพ้นอุปสรรค ความผิดพลาดนับครั้งไม่ถ้วนมาแล้วด้วยกันทุกท่าน



.......................................DO NO WRONG IS DO NOTHING..................................



คัดลอก(พิมพ์)จากหนังสือ โอวาท ของท่าน พระธมฺมมวิตกฺโก วัดพระเทพศิรนทราวาส