[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ) => ข้อความที่เริ่มโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 มิถุนายน 2553 15:31:12



หัวข้อ: โลกเข้าไกล้กลียุค เทคโนโลยีเจริญแค่ใหนก็ยังล่มสลาย ถ้าจิตไม่ใหญ่ ใจไม่มีธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 มิถุนายน 2553 15:31:12
[ โดย อ.มด บอร์ดเก่า ]


(http://labs.divx.com/files/pictures/Stargate-Atlantis-stargate-atlantis-634697_1600_1200.preview.jpg)
 
 
กลียุค

มีช่วงหนึ่งที่หลวงปู่ได้พูดถึงวิกฤตการณ์ต่างๆที่อาจทำให้เกิดความสับสน แก่โลกและสังคมได้ในอนาคตว่า

"...พวกเรามีปัญญาญาณ พอที่จะรับรู้สิ่งต่างๆที่จะอบรมสั่งสอน หรือถ่ายทอดจากครูบาอาจารย์ได้เยอะแยะ กาลข้างหน้า สังคมและโลก กำลังจะสับสน มันจะเกิด"กลียุค" ถ้าพวกเราเรียนรู้อย่างจริงๆจังๆ มหาสติปัฏฐานที่เรามี หรือกำลังฝึกอยู่นี้ มันสามารถช่วยโลกได้"

"ถ่ายทอดเข้าไปสู่สังคมข้างนอก ให้มีสติยั้งคิด จะทำ พูด คิด ก็ต้องไม่ผิดพลาด ความรัก โลภ โกรธ หลง ทั้งหลายที่กำลังเร่าร้อนอยู่ในสังคม มันจะลดน้อย ถดถอยลงไป ความยื้อแย่ง อวดดี อวดฉลาด แก่งแย่งชิงดี เอารัดเอาเปรียบ แล้วโหดร้าย อาฆาตพยาบาท ฆ่าหั่นกัน มันก็จะลดน้อยลงไป การฝึกมหาสติเป็นสูตรที่ยิ่งใหญ่ ที่สามารถจะช่วยสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ภัยได้ ถ้าเราฝึกมันอย่างจริงๆจังๆ..."

"...ช่วงชีวิตของพวกเรานี้ เราจะเห็นกลียุคของโลก ถ้าวันนี้เราไม่รู้จักเตรียมตัว ฝึกความมีสติ ถึงวันกลียุคของโลกแล้ว เราจะช่วยตัวเองไม่ได้ และก็เป็นภาระแก่สังคม ต้องรู้จักฝึกเพื่อไปช่วยโลกและสังคมได้บ้าง ลำพังหลวงปู่คนเดียว คงทำอะไรไม่ได้มากเท่าไหร่ ทุกคนที่นั่งอยู่นี่ มีส่วนช่วยโลกและจักรวาล และปลูกฝังลูกหลาน ญาติผู้ใกล้ชิด หลวงปู่ไม่อยากเห็นกลียุคของโลกและสังคมเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า..."

"นักปกครองของโลกคิดว่า วิธีนี้รักษาความตั้งมั่นของจักรวรรดิ วิธีนั้นรักษาความยิ่งใหญ่ของประเทศตน แต่จริงๆแล้วหารู้ไม่ว่าที่ผ่านมา จักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่และตั้งมั่นของประเทศที่เขาล่มสลาย มันมีดีกว่าปัจจุบันเยอะแยะ วิวัฒนาการของคนยุคสมัยก่อน ถึงขนาดไม่ต้องมีภาษาพูด ใช้จิตคุยกัน มันก็มีเยอะแยะ แต่ก็ล่มลงไปในจักรวรรดินั้น แล้วเราก็ไม่ใช้ตัวอย่างอย่างนี้สำหรับการศึกษา ค้นคว้า เพื่อเป็นครูสอนเรา เรากำลังจะเดินอยู่กับที่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในความผิดพลาด เสียหาย โดยมีความอยาก ความมีกิเลส และตัณหาอุปาทาน มาเป็นเครื่องชี้นำความเจริญของวัตถุและบุคคล รวมทั้งจักรวรรดิของตน สุดท้ายก็มีความล่มสลายในที่สุด"

"ที่ผ่านมาเราก็ทำอย่างนี้มาตลอด จักรวรรดิแต่อดีตที่ล่มสลายไปแล้ว ก็มีความเจริญถึงขีดสุด ถึงขนาดเขาสร้างพระอาทิตย์ขึ้นใช้ได้ ลองไปค้นดูก็ได้ว่ามีไหม โดยสร้างใช้ถึง ๗ ดวงได้ ภายในจักรวรรดิของตน (ข้อมูลเพิ่มเติมจะนำเสนอในโอกาสต่อไป : ผู้เขียน) ใช้พลังงานที่มีอยู่ในดวงอาทิตย์ที่สร้างขึ้นนั้น มาแปรสภาพเป็นพลังงานทุกอย่างที่ตัวเองจะใช้ และสุดท้าย ก็โดนเผาไหม้เพราะดวงอาทิตย์ และล่มสลายตามอายุขัยและความอยากของตน ขนาดจักรวรรดิที่เจริญสูงสุดยังล่มสลายมาแล้ว แล้วโลกกับสังคมก็กำลังจะเดินเข้าไปสู่ตรงนั้นอีก"

"วิธีเดียวที่จะช่วยโลกได้ คือ ความร่มเย็นเป็นสุข จากจิตวิญญาณที่ใสสะอาดและสงบ หลวงปู่ไม่ได้มุ่งหวังให้ไปสู่ยุคทอง ยุคทองของพระศรีอริยเมตไตรย ที่มีแต่ความสุขสมบูรณ์"

"พวกเรามีโอกาส ก็เร่งปฏิบัติ อย่างน้อยก็ช่วยตัวเองให้พ้นจากทุกข์ภัยและสัตว์ อย่างน้อยก็ภัยที่เกิดจากอารมณ์เลวร้ายที่มาฉุดกระชากลากถู ไปทำชั่ว ไม่ดี ไม่งาม ทั้งหลาย โลกและสังคมก็จะร่มเย็น กลียุคก็จะไม่ปรากฏ..."

ถ้าเราศึกษาพระไตรปิฎก ไตรภูมิพระร่วง และพระเจ้าห้าร้อยชาติ ก็จะรู้ว่า พระสาวกทุกพระองค์ทำบุญร่วมกับพระพุทธเจ้า ทำบุญร่วมชาติกันมา หลวงปู่บอกไว้ในวันอบรมพระวิปัสสนาจารย์ว่า "พวกท่านต้องเกิดร่วมกับผม เกลียดอย่างไรก็ต้องเกิดกับผม รักผมอย่างไรก็ต้องเกิดร่วมกับผม เพราะท่านอยู่กับผม ฟังธรรมที่ผมสอน ถึงจะเกลียด จะรัก ก็ต้องเกิดร่วมกัน เพราะมันเป็นกรรม กรรมที่ผูกพันกันมา พยายามขยันทำดีหน่อย พยายามฝึกให้เป็นส่วนที่ดี สุดท้ายจะรู้ว่า ชีวิตนี้เป็นเรื่องที่หวังได้ ความสุขของชีวิตสามารถที่จะสร้างสรรค์ขึ้นมาได้"

จะทำดีก็ตาม ทำชั่วก็ตาม ถ้าได้มีโอกาสฟังธรรมของกันและกัน มีโอกาสสร้างสัมพันธไมตรีต่อกัน หรือสร้างความโกรธแค้นต่อกัน ต้องได้มีโอกาสกลับมาเกิด เจอกัน ส่วนจะเจอในสถานภาพของความสุขหรือทุกข์นั้น หลวงปู่บอกว่า สุดแท้แต่กรรมใครกรรมมัน แต่อย่างไรก็หนีกันไม่พ้น สุดแต่ว่าจิตเราตั้งความปรารถนาไว้ตรงไหน


 ;D

http://gotoknow.org/blog/dhamma-isara-2/58895 (http://"http://gotoknow.org/blog/dhamma-isara-2/58895")