[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

รู้เหตุของความทุกข์ สุข จนกระทั่งสามารถที่จะดับ

เหตุของความทุกข์ สุขนั้น ได้ตามพระธรรม

เมื่อโลกสันนิวาส อันไฟลุกโพลงอยู่เป็นนิตย์,

พวกเธอยังจะร่าเริง บันเทิงอะไรกันหนอ ? เธอ

ทั้งหลายย่อมถูกความมืดปกคลุมแล้ว ทำไมจึงไม่แสวง

หาประทีปเล่า ?

ความยินดี ชื่อว่า อานนฺโท ในพระคาถานั้น. พระผู้มีพระภาคเจ้า

ตรัสเป็นคำอธิบายไว้ดังนี้ว่า เมื่อโลกสันนิวาสนี้ อันไฟ ๑๑ อย่าง มี

ราคะเป็นต้นลุกโพลงแล้วเป็นนิตย์ เธอทั้งหลายจะมัวร่าเริงหรือเพลิด-

เพลินอะไรกันหนอ ? นั่นไม่สมควรทำเลย มิใช่หรือ ? ก็เธอทั้งหลาย

อันความมืดคืออวิชชาซึ่งมีวัตถุ ๘ ปกคลุมไว้ เหตุไรจึงไม่แสวงหา คือ

ไม่ทำประทีปคือญาณ(ปัญญา)เพื่อประโยชน์แก่การกำจัดความมืดนั้นเสีย ?


เอาบุญมาฝากได้สร้างบทสวดมนต์เป็นธรรมทาน

ฟังธรรมศึกษาธรรม ที่ เว็ปสุขใจ และเว็ปอื่น

ได้เผยแพร่บทสวดมนต์ ได้สนทนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์

กับผู้คนแปลกหน้าได้ชี้แนะข้อธรรมกับเขา

ได้สวดมนต์ต่อหน้าองค์พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์

ถึงแม้จะทำได้เพียงเท่านี้แต่จะพยายามปฏิบัติต่อไป

เท่าที่กำลังกาย - กำลังทรัพย์ที่มีอยู่

ภิกษุทั้งหลายเพราะบุคคลอาศัยคนอื่น

ไม่สามารถเพื่อจะมีสวรรค์หรือมรรคเป็นที่ไปในเบื้องหน้าได้

ฉะนั้น.........ตนนั่นแหละเป็นที่พึ่งของตนคนอื่นจะทำอะไรได้  

ดังนี้แล้วตรัสพระคาถานี้ว่า.........................................

อตฺตา หิ อตฺต โน นาโถ โก หิ นาโถ ปโร สิยา

อตฺตนา หิ สุทนฺเตน นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ

ตนแลเป็นที่พึ่งของตน - บุคคลอื่นใครเล่า - พึงเป็นที่พึ่งได้

เพราะบุคคลมีตน - ฝึกฝนดีแล้ว - ย่อมได้พึ่ง - ที่บุคคลได้โดยยาก