[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 09 พฤษภาคม 2555 21:18:45



หัวข้อ: ประวัติ พระครูนิสัยจริยคุณ (หลวงพ่อโอด)
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 09 พฤษภาคม 2555 21:18:45
เกจิชื่อดัง
หลวงพ่อโอด
พระครูนิสัยจริยคุณ


(http://www.sookjai.com/external/lp-oad/4.jpg)

วัดจันเสน  อำเภอตาคลี  จังหวัดนครสวรรค์


ชาติภูมิ

พระครูนิสัยจริยคุณ ฉายา ปญฺญาธโร  นามเดิม วิสุทธิ์   สกุล แป้นโต  แต่ชาวบ้านทั่วไปนิยมเรียกท่านว่า “หลวงพ่อโอด”  ท่านเกิดในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๖)  เมื่อวันที่ ๒๘  ธันวาคม ๒๔๖๐  ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนยี่  ปีมะเส็ง ณ บ้านเลขที่ ๑๐๓ หมู่ที่ ๗ (บ้านหัวเขา)  ตำบลตาคลี  อำเภอตาคลี  จังหวัดนครสวรรค์  โยมบิดาชื่อ นายชิต  แป้นโต  โยมมารดาชื่อ  นางต่วน  แป้นโต    ท่านเป็นบุตรลำดับที่ ๕  ในจำนวนพี่น้องร่วมบิดามารดา จำนวน ๗ คน คือ

๑.  นายดำ         แป้นโต                      ถึงแก่กรรม  
๒.นางหนู     เกรียงไกรเพชร      ถึงแก่กรรม  
๓.นายกุหลาบ     แป้นโต            ถึงแก่กรรม  
๔.นางพยอม แป้นโต      ถึงแก่กรรม  
๕.พระครูนิสัยจริยคุณ        มรณภาพ  
๖.นางหลอม     แป้นโต      ถึงแก่กรรม  
๗.นายออน     แป้นโต      ถึงแก่กรรม  


การศึกษาเบื้องต้น
ท่านสำเร็จการศึกษา วิชาสามัญประถมบริบูรณ์  จากโรงเรียนวัดหัวเขา  อำเภอตาคลี  จังหวัดนครสวรรค์

เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์
พ.ศ. ๒๔๘๑ อายุครบบวช  ท่านได้อุปสมบท ณ พระอุโบสถวัดหัวเขา  อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันเสาร์  แรม ๗ ค่ำ เดือน ๖ ปีขาล  ตรงกับวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๔๘๑  โดยมี พระธรรมไตรโลกาจารย์ (ยอด) วัดเขาแก้ว  อำเภอพยุหะคีรี  เป็นพระอุปัชฌาย์   พระครูนิปุณธรรมธร  วัดตาคลี เป็นพระกรรมวาจาจารย์  พระครูพิพัทธศีลคุณ วัดหัวเขา ตาคลี เป็นพระอนุสาวนาจารย์   ได้รับฉายาว่า “ปญฺญาธโร”

เส้นทางธรรม
ภายหลังอุปสมบท ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย  และการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ที่สำนักเรียนวัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ  
จนปี  พ.ศ. ๒๔๘๔ (อายุพรรษา  ๓)  สอบได้เปรียญธรรมเอก จากสำนักเรียนวัดมหาพฤฒาราม เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ  

- พ.ศ. ๒๔๘๙  เป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดหนองสีนวน  อำเภอตาคลี  จังหวัดนครสวรรค์
- พ.ศ. ๒๔๙๓  ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดจันเสน  อำเภอตาคลี เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๙๓
 และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลจันเสน เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ศกเดียวกัน
- พ.ศ. ๒๔๙๖  ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ และเป็นศึกษาอำเภอตาคลี  (ฝ่ายสงฆ์) เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๔๙๖
- พ.ศ. ๒๕๐๐  จัดตั้งสำนักสอนวิปัสสนากรรมฐานขึ้นที่วัดจันเสน  ให้การอบรมทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์
- พ.ศ. ๒๕๐๕  ไปศึกษาอบรมวิปัสสนากรรมฐาน ที่สำนักวิปัสสนาวิเวกอาศรม  จังหวัดชลบุรี  
- พ.ศ. ๒๕๐๖  เข้าศึกษาอบรมวิปัสสนาเพิ่มเติมอีก ที่สำนักวิปัสานาวิเวกอาศรม  จังหวัดชลบุรี เป็นเวลา ๑ พรรษา  
 (เล่ากันว่าท่านมีความชำนาญ  มีพลังจิตกล้าแข็ง สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ในอดีต และในอนาคตได้อย่างแม่นยำ  
 และในระหว่างเข้าพรรษาท่านจะนั่งปฏิบัติกรรมฐานติดต่อกัน ๗ วัน โดยไม่ลุกออกมาจากกุฏิ)
- พ.ศ. ๒๕๑๐  ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะอำเภอตาคลี
- พ.ศ. ๒๕๑๖  ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอตาคลี
- พ.ศ. ๒๕๑๗  เป็นผู้วางระเบียบสภาบริหารคณะสงฆ์อำเภอตาคลี

สมณศักดิ์
-  พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นตรี
-  พ.ศ. ๒๕๑๐  ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นโท
-  พ.ศ. ๒๕๒๐ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นเอก
-  พ.ศ. ๒๕๒๗  ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ

เกียรติคุณพิเศษ
- ได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาในหลักสูตรโรงเรียนพระสังฆาธิการส่วนกลางที่วัดสามพระยา  กรุงเทพฯ
- เป็นกรรมการที่ปรึกษาสภาตำบลจันเสน
- ได้รับพระราชทานโล่ในการสนับสนุนอบรมหลักสูตรพิเศษสมุนไพร ในโครงการพระราชดำริสวนป่าสมุนไพร

ท่านพระครูนิสัยจริยคุณ (หลวงพ่อโอด) เป็นพระเถระดีในสังฆมณฑล เป็นผู้มีศีลาจารวัตร ประพฤติปฏิบัติดีตามพระธรรมวินัย  มีวิจารณญาณอันถ่องแท้ ทราบความดีตามความเป็นจริง จึงสร้างความดีทั้งเป็นรูปธรรมและนามธรรม เช่น สร้างสิ่งก่อสร้างในพระศาสนา และสิ่งก่อสร้างเป็นกุศลสาธารณประโยชน์ อันเป็นรูปธรรมหรือดีนอก และอบรมพัฒนาจิตใจให้สว่าง สงบ ร่มเย็น อันป็นนามธรรมหรือดีใน ดังปรากฎผลงานของพระเดชพระคุณท่านดังนี้  

ผลงานด้านการศึกษาและสาธารณูปการ
๑. เป็นพระอาจารย์สอนปริยัติธรรม วัดดอนยานนาวา  เขตยานนาวา  กรุงเทพฯ
๒. เป็นพระอาจารย์สอนธรรมวัดหัวเขาตาคลี  วัดหนองสีนวล  วัดจันเสน  อำเภอตาคลี  
๓. เป็นเจ้าสำนักเรียนวัดจันเสน
๔. เป็นกรรมการตรวจประโยคนักธรรมสนามหลวง
๕. เป็นกรรมการศึกษาประชาบาล
๖. เป็นผู้ริเริ่มจัดหาทุนก่อตั้งโรงเรียนมัธยมประจำตำบล  โรงเรียนจันเสนเอ็งสุวรรณอนุสรณ์  โรงเรียนประดับวิทย์  อำเภอตาคลี  โรงเรียนบ้านหมี่  อำเภอบ้านหมี่  จังหวัดลพบุรี
๗. ซ่อมแซมถนนจากคลองชลประทานถึงวัดจันเสน ระยะทาง ๑.๕ กิโลเมตร
๘. ร่วมจัดตั้งมูลนิธิโรงพยาบาลสงฆ์สวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ และโรงพยาบาลบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี
๙. ร่วมหาทุนซื้อเครื่องมือแพทย์โรงพยาบาลอำเภอตาคลี

ผลงานการเผยแผ่ธรรมะ
พ.ศ. ๒๕๐๐  ภายหลังจากท่านเข้ารับการอบรมปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานจากวัดมหาธาตุฯ  กรุงเทพมหานคร  ท่านได้จัดตั้งสำนักวิปัสสนาขึ้นที่วัดจันเสน  และเปิดให้การอบรมอย่างต่อเนื่องตลอดมาแก่บรรพชิตและคฤหัสถ์ผู้มีความสนใจเข้าปฏิบัติธรรม จนมีผู้เข้ารับการปฏิบัติเป็นจำนวนมาก  นอกจากนี้ท่านยังรับนิมนต์ไปอบรมวิปัสสนากรรมฐานยังสถานที่ต่าง ๆ  

อุบายสอนธรรม
คราวหนึ่ง โยมป๊อ  ซึ่งมีเชื้อสายจีนอยู่ในตลาดจันเสน  ทุกวันจะเข้ามาตระเตรียมอาหารเพลเลี้ยงพระที่วัดเป็นประจำ  เมื่อเลี้ยงพระเสร็จแล้วอาหารในส่วนที่เหลือหลวงพ่อก็จะอนุญาตให้แม่ครัวนำไปกินที่บ้านได้  ชาวบ้านที่ไม่ค่อยหวังดีก็ติฉินนินทาหาว่าแม่ครัวนำของวัดไปกิน  เมื่อโยมป๊อรู้ว่าถูกชาวบ้านนินทาก็เกิดความไม่สบายใจ นำความที่ชาวบ้านกล่าวหามาพูดให้หลวงพ่อฟัง  เมื่อหลวงพ่อฟังแล้วไม่ว่ากระไร ลุกขึ้นเข้าไปในห้องพระหยิบก้อนกรวดมาสองก้อนส่งให้โยมป๊อ ให้พกติดตัวไว้ตลอดแล้วชาวบ้านจะเลิกพูดไปเอง  เมื่อโยมป๊อรับก้อนกรวดกราบลาหลวงพ่อมาแล้ว  กลับคิดขึ้นมาได้เองว่าการที่หลวงพ่อมอบก้อนกรวดให้นั้นคงจะหมายถึงให้ทำใจหนักแน่นเข้าไว้เหมือนกรวดทรายแล้วจะดีไปเอง

พระครูนิวิฐธรรมขันธ์  เจ้าอาวาสวัดจันเสน   ได้บอกเล่าถึงการสอนธรรมะของหลวงพ่อโอดที่ใช้สอนแก่ชาวบ้านเป็นประจำ มักจะใช้เป็นคาถามหานิยมให้ภาวนาเป็นประจำคือ ทา ปิ อะ สะ  ซึ่งแฝงไว้ด้วยธรรมะ  ถ้าใครปฏิบัติเป็นประจำก็จะมีแต่มิตรชีวิตก็จะเจริญรุ่งเรืองดี

ผลงานด้านสิ่งก่อสร้างในพระพุทธศาสนา
หลวงพ่อโอด ได้เป็นผู้ริเริ่มนำสร้างพระอุโบสถทรงไทย  พระมหาธาตุเจดีย์ศรีจันเสน  ศาลาการเปรียญ หอระฆัง  เสนาสนะที่อยู่อาศัย  กุฏิสงฆ์ทรงไทย  โรงฉันและโรงทาน   เรือนพักรับรอง (ตึกนิสิสสามัคคี)   โรงเรียนพระปริยัติธรรม  และอื่น ๆ ไว้มากมายภายในวัดจันเสน  เพื่อให้เป็นสถานที่สัปปายะในการประกอบศาสนกิจ  ปฏิบัติธรรมสร้างบุญบารมี  แก่พระภิกษุสามเณร  อุบาสก อุบาสิกา และศาสนชนทั่วไป

ผลงานด้านอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม
ปี ๒๕๑๑ ภายหลังจากกรมศิลปากร  ร่วมกับมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา ได้มาทำการขุดค้นทางโบราณคดีบริเวณเมืองโบราณจันเสน  หลวงพ่อโอดเห็นความสำคัญของโบราณวัตถุที่ขุดขึ้นมาได้ จึงทำการรวบรวม และดำริก่อตั้งพิพิธภัณฑ์จันเสนสำหรับเป็นสถานที่รวบรวมสงวนรักษา และเพื่อประโยชน์ในการศึกษา ค้นคว้าวิจัย  

อนึ่ง หลังจากเสร็จสิ้นพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารดังกล่าวได้เพียง ๑๕ วัน หลวงพ่อโอดก็ถึงแก่มรณภาพ   หลวงพ่อเจริญ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมาจึงได้ดำเนินการก่อสร้างต่อตามเจตนารมย์ของหลวงพ่อโอด  จนอาคารแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๙  ใช้งบประมาณก่อสร้าง ๔๑ ล้านบาทเศษ  (เป็นเงินได้จากบรรดาศิษยานุศิษย์มีจิตศรัทธาร่วมก่อสร้าง  มิได้ใช้งบประมาณของทางราชการสมทบแต่อย่างใด)  ทั้งนี้ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  สยามบรมราชกุมารี  เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอาคารดังกล่าว    และทางวัดได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมและศึกษา เมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๔๐  เป็นต้นมาจนกระทั่งทุกวันนี้


(http://www.sookjai.com/external/lp-oad/9.jpg)

พิพิธภัณฑ์จันเสน  ภายในวัดจันเสน  ตำบลจันเสน  อำเภอตาคลี  จังหวัดนครสวรรค์  



ด้านความสัมพันธ์ชุมชน
ก่อนที่หลวงพ่อโอดจะมาจำพรรษาที่วัดจันเสนนั้น วิถีชีวิตของชาวบ้านจันเสนจะแบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่าส มีก๊กนายทุน  ก๊กนักเลง ก๊กการพนัน ซึ่งไม่ถูกกัน  ทำให้กำลังของชุมชนอ่อนด้วยมาก  เมื่อหลวงพ่อโอดมาอยู่ที่วัดจันเสนในปี พ.ศ. ๒๔๙๓  ท่านได้ใช้อุบายต่าง ๆ ในการรวบรวมก๊กเหล่าต่าง ๆ จนสามารถรวมพลังชุมชนให้เป็นหนึ่งได้สำเร็จในปี พ.ศ. ๒๔๙๖  ทำให้ชุมชนจันเสนเป็นปึกแผ่น และรวมพลังช่วยเหลือกันจนถึงปัจจุบัน  นับเป็นคุณูปการอันใหญ่หลวงของท่าน

บั้นปลายสังขาร
พ.ศ. ๒๕๑๔ - พ.ศ. ๒๕๓๒  สุขภาพของท่านไม่แข็งแรงด้วยโรคภัยเบียดเบียน  ต้องเข้าโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์บ่อยครั้ง  และรักษาต่อในกรุงเทพฯ อีกหลายแห่ง  ต้องทำการล้างไต  ด้วยอาการของโรคเบาหวาน ซึ่งบางขณะเบาหวานสูงถึง ๔๐๐ กว่า

ปี ๒๕๓๒  อาการอาพาธด้วยโรคเบาหวาน ซึ่งท่านเป็นมานานนับสิบปี ในครั้งนี้ กำเริบเป็นลำดับจนไตไม่ทำงาน  สุดวิสัยที่แพทย์จะเยียวยารักษา  ท่านจึงถึงแก่มรณภาพ  ด้วยอาการไตวาย  ในวันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันที่ ๑๗  กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๒  เวลา ๑๙.๐๐ น.  ที่โรงพยาบาลบ้านหมี่  จังหวัดลพบุรี  สิริรวมอายุได้  ๗๒  ปี ๖ เดือน   พรรษา ๕๐



พระครูนิสัยจริยคุณ (หลวงพ่อโอด)  ท่านได้ประพฤติพรหมจรรย์มาช้านาน   นับว่าท่านได้บำเพ็ญกุศลกรรมอันยิ่งใหญ่ไว้ในพระพุทธศาสนาและสังคมอันหาได้ยากยิ่งรูปหนึ่งของคณะสงฆ์


“ปูชา จ ปูชะนียานํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ”



โดย กิมเล้ง   : http://www.sookjai.com (http://www.sookjai.com)

ที่มา :   - หมายเหตุ...พระครูนิสัยจริยคุณ (หนังสือที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพพระครูนิสัยจริยคุณ - หลวงพ่อโอด)
          - เจ้าหน้าที่ประจำพิพิธภัณฑ์จันเสน (น้องตาล)   ในนามของ sookjai.com. ขอขอบคุณหนูตาลมากที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติม


        


หัวข้อ: Re: ประวัติ พระครูนิสัยจริยคุณ (หลวงพ่อโอด)
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 09 พฤษภาคม 2555 21:49:02
รูปหลวงพ่อโอด (เพิ่มเติม)

(http://www.sookjai.com/external/lp-oad/1.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/lp-oad/2.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/lp-oad/3.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/lp-oad/4.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/lp-oad/5.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/lp-oad/6.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/lp-oad/7.jpg)

(http://www.sookjai.com/external/lp-oad/8.jpg)



หัวข้อ: Re: ประวัติ พระครูนิสัยจริยคุณ (หลวงพ่อโอด)
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกไก่ ที่ 14 พฤษภาคม 2555 17:15:32
พิพิธภัณฑ์จันเสนตั้งอยู่ที่ตำบลจันเสน อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. จัดแสดงโบราณวัตถุตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ประมาณ 3500 ปี นอกจากนี้ยังจัดแสดงโบราณวัตถุในสมัยทวารวดี จนถึงปัจจุบัน ถ้าท่านใดสนใจเข้าเยี่ยมชมก็เรียนเชิญได้เลยค่ะ ทางพิพิธภัณฑ์จันเสนยินดีต้อนรับค่ะ เอาไว้โอกาสหน้าจะนำเรื่องราวดีๆของจันเสนมาเล่าอีกนะคะ