[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ไปเที่ยว => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 05 มิถุนายน 2555 16:01:08



หัวข้อ: กิมเล้งลุยต่างแดน พาชมหมากรุกสวิตเซอร์แลนด์
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 05 มิถุนายน 2555 16:01:08

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/93656354107790_1.jpg)
หมากรุก ของชาวสวิตเซอร์แลนด์  พบเห็นทั่วไปตามสวนสาธารณะ  
สถานที่...ริมทะเลสาบประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ค้นหาข้อมูลหมากรุกยุโรปยังไม่ได้....ก็มาว่ากันเรื่องหมากรุกไทย
 
หมากรุกไทย   เป็นกีฬาในร่มอย่างหนึ่งที่คนไทยนิยมเล่นกันมาช้านาน  ถือเป็นการเล่นที่ต้องใช้ความคิดชั้นเชิงกลเม็ดอันเป็นศิลปะอย่างเยี่ยมยอดประเภทหนึ่ง  การเล่นนี้เป็นการเอาชนะกันระหว่างบุคคลผู้มีสติปัญญาสองคนหรือสองฝ่าย  ฝ่ายที่มีเชาว์ปัญญาชั้นเชิงหรือความรอบคอบสูงกว่า ย่อมเป็นฝ่ายชนะอย่างไม่ต้องสงสัย นอกจากจะยอมอ่อนข้อให้อีกฝ่ายหนึ่งเพื่อไมตรีจิตมิตรภาพ  แม้จะเป็นการอ่อนข้อก็เป็นไปอย่างมีชั้นเชิงเช่นกัน ไม่ใช่อ่อนข้อให้ดื้อๆ

สมัยก่อน เชื่อกันว่าไม่ควรนำหมากรุกมาเล่นในบ้าน เพราะมีคำว่ารุก ซึ่งอาจทำให้เกิดความวุ่นวายทะเลาะวิวาท  คนในบ้านเอาแต่ “รุก”  ไม่ยอมถอยหรือออมชอมเข้าหากัน เราจึงเห็นเล่นกันตามที่สาธารณะ วัดวาอาราม  สโมสร ฯลฯ   แต่ในปัจจุบัน คนรุ่นใหม่นำเอาหมากรุกฝรั่ง หมากรุกจีน  หมากฮอส ฯลฯ มาเล่นในบ้านกันเป็นเรื่องธรรมดาๆ  ไม่ถือหรือไม่เห็นเป็นเรื่องเสียหายที่จะเล่นหมากรุกไทยในบ้าน

แหล่งผลิตนักหมากรุกมือเยี่ยมเห็นจะได้แก่ วัด และราชสำนัก   สำหรับตามวัดนั้นมีเล่นกันอย่างกว้างขวางทั้งเวลาปกติ  เวลามีงาน เช่น งานวัด งานบวช และงานศพ   เจ้าภาพเกรงจะเหงามักหาหมากรุกมาให้เล่นกันได้อย่างสนุกสนานตลอดรุ่ง   สมภารบางรูปเป็นนักเลงหมากรุกมือฉกาจ (ชั้นเซียน)  เพราะฝึกฝนมาตั้งแต่หนุ่ม บางองค์ใจเย็นอารมณ์ดี แต่พอถึงเรื่องหมากรุกกลับเป็นอีกคนหนึ่งไปคือกลายเป็นคนใจร้อนรุนแรง มีทิฐิกล้า

มีเรื่องเล่าว่า สมภารรูปหนึ่งชอบเล่นหมากรุกมาก พบคนแปลกหน้ามักเชิญให้เล่นหมากรุกด้วยเสมอ  

คราวหนึ่งไปเจอนักเลงหมากรุกมือแข็งเข้า สมภารแพ้ห้ากระดานรวด ตามเกณฑ์ถ้าแพ้ติดกันสามกระดานถือว่าไม่ต้องแข่งต่อไปแล้วเพราะไม่มีทางสู้  แต่สมภารรูปนี้ไม่ยอมแพ้จะขอเล่นต่อไป อีกฝ่ายจะขอเลิกก็ไม่ยอมต้องเล่นให้ตนเป็นฝ่ายชนะบ้างจึงยอมให้เลิก

ในราชสำนัก เคยมีปรากฏเรื่องเล่า สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า(รัชกาลที่ ๖) โปรดหมากรุกไม่น้อย ยามว่างจากพระราชกิจและการทรงพระอักษรจะทรงมาเล่นหมากรุกกับมหาดเล็กเพื่อทดสอบเชาวน์ปัญญามหาดเล็กของพระองค์อยู่เสมอ  ผู้ใดเล่นดีมีฝีมือจะพระราชทานรางวัลอย่างจุใจ  

ยาขอบ นักประพันธ์เอกของไทยเคยเล่าประวัติส่วนตัวสมัยเมื่อคราวอยู่กับพระยาบริหารนัครินทร์ว่า ท่านเจ้าคุณโปรดหมากรุกมาก  มักให้โอกาสเด็กๆ ในปกครองของท่านไปเล่นหมากรุกด้วย ถ้าเล่นเสมอหรือชนะจะได้รางวัลกระดานละ ๑ บาท (สมัยหกสิบกว่าปีมาแล้ว นับว่าไม่น้อยทีเดียว)  ถ้าแพ้เจ้าคุณขอเขกศีรษะเป็นค่าโง่ ๑ ป๊อก  ยาขอบคุยต่อไปว่า ตนเป็นคนเดียวที่ถูกเจ้าคุณเขกศีรษะน้อยที่สุด ทั้งๆ ที่เป็นรุ่นเล็กที่สุด และมักจะได้เงินไปใช้จ่ายเป็นพิเศษเสมอ อย่างไรก็ดีมีเจ้าคุณขี้แพ้ชวนตีบางคน  เมื่อชนะจะเขกหัวเด็ก ๑ ป๊อก ถ้าเวลาแพ้บ้างก็จะเขกหัวเด็ก ๒ ป๊อก

หมากรุกดั้งเดิมมีประวัติความเป็นมาอย่างไร  มีที่นับถือกันว่าได้ความชัดเจนน่าเชื่อถือที่สุดคือพระนิพนธ์ของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ซึ่งทรงแปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ ......”การเล่นหมากรุกปรากฏว่ามีมาในประเทศอินเดียช้านานนับได้พันปี  พวกชาวอินเดียอ้างว่าหมากรุกเกิดขึ้นครั้งพระรามไปล้อมเมืองลงกา นางมณโฑเห็นทศกัณฐ์เดือดร้อนรำคาญในการที่จะต้องเป็นกังวลคิดต่อสู้สงคราม ไม่มีเวลาเป็นผาสุก นางรู้ว่าจะชักชวนทศกัณฑ์ให้พักผ่อนด้วยประการอย่างอื่นก็คงไม่ยอม จึงเอากระบวนการทำสงครามคิดทำเป็นหมากรุก พวกชาวอินเดียกล่าวกันมาดังนี้  แต่ชื่อที่เรียกว่าหมากรุกเป็นคำของไทยเราเรียก  พวกชาวอินเดียเขาเรียกหมากรุกว่า  ‘จตุรงค’  เพราะเหตุคิดเอากระบวนพล ๔ เหล่าทำเป็นตัวหมากรุก คือ หัสดี พลช้าง  (ได้แก่โคน) ๑  อัศว พลม้า ๑  โรกะ  พลเรือ ๑ (พลเรือ นั้นอธิบายว่าเพราะคิดขึ้นที่เกาะลงกา  จึงใช้เรือแทนรถ) ปาทิกะ พลราบ (ได้แก่เบี้ย) ๑  มีราชา (ขุน)  เป็นจอมพล ตั้งเล่นกันบนแผ่นกระดาน อันปันเป็นตาราง ๖๔ ช่อง (อย่างกระดานหมากรุกทุกวันนี้).....


ข้อมูล :  สมบัติ  จำปาเงิน,  กีฬาไทย.  กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น, ๒๕๔๙

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/71232217467493_2.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/97724997335010_3.jpg)
ข้ามสะพานเข้าสู่เมืองLUGANO สองข้างทางเป็นทะเลสาปทิวทิศน์สวยงาม
(ไปทางไหนก็สวยงามสะอาดตา)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/28246627541051_13.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/45094833316074_14.jpg)
ไร่องุ่นแบบขั้นบันไดตามไหล่เขา

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/43649799169765_4.jpg)

ริมทะเลสาปเมือง LUGANO  อากาศหนาวเย็น  มีฝนตกเล็กน้อย
แทบทุกประเทศในแถบยุโรป มักมีฝนตกพรำๆ ละอองบางเบา จึงควรพกหมวกหรือร่มกันฝนติดตัวไว้เสมอ

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/57895475750168_5.jpg)
ธงชาติสวิตฯ ปลิวไสวเหนือร้านค้าจำหน่ายของที่ระลึกริมทะเลสาปLUGANO [/size

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/19920570196376_9.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/18079967382881_10.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/74825424287054_11.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/83572898515396_12.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/70699716193808_7.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/15836619958281_8.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/21023699558443_15.jpg)