หัวข้อ: พระฉัพพรรณรังสีที่แผ่จากพระกายพระพุทธเจ้า ๖ ประการ เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 11 มิถุนายน 2555 13:04:36 พระฉัพพรรณรังสีที่แผ่จากพระกายพระพุทธเจ้า
(http://www.dhammathai.org/imagebuddha/70.gif) ฉัพพรรณรังสี คือแสงสว่างที่พวยพุ่งออกจากจุดกลางเป็นรัศมี ๖ ประการ ซึ่งเปล่งออกจากพระสรีรกายของพระพุทธเจ้า คือ ๑. นีละ เขียวเหมือนดอกอัญชัน ๒. ปีตะ เหลืองเหมือนหรดาลทอง ๓. โลหิตตะ ขาวเหมือนแผ่นเงิน ๕. มัญเชฏฐะ สีหงสบาทเหมือนดอกเซ่งหรือหงอนไก่ ๖. ปภัสสระ เลื่อมพรายเหมือนแก้วผลึก สีทั้ง ๖ นี้ไม่ได้พุ่งออกเป็นสี ๆ ดังที่แยกไว้นี้ แต่แผ่ออกมาพร้อมกันในหนังสือปฐมสมโพธิกถา ฉบับสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส กล่าวถึงพระฉัพพรรณรังสีที่แผ่ซ่านออกจากพระกายพระพุทธเจ้า ไว้ดังนี้ "ในลำดับนั้น พระฉัพพรรณรังสีก็โอภาสแผ่ออกจากพระสริรกาย อันว่านิลประภาก็เขียวสดเสมอด้วยสีแห่งดอกอัญชัน มิฉะนั้นดุจพื้นแห่งเมฆแลดอกนิลุบลแลปีกแห่งแมลงภู่ ผุดออกจากอังคาพยพในที่อันเขียวแล่นไปจับเอาราวป่า แลพระรัศมีที่เหลืองนั้นมีครุวนา ดุจสีหรดารทองแลดอกกรรณิการ์แลกาญจนปัฏอันแผ่ไว้ พระรัศมีออกจากพระสริรประเทศในที่อันเหลืองแล้ว แล่นไปสู่ทิศานุทิศต่าง ๆ พระรัศมีที่แดงอย่างพาลทิพากรแลแก้วประพาฬ แลกุมุทปทุมกุสุมชาติ โอภาสออกจากพระสริรอินทรีย์ในที่อันแดงแล้วแล่นฉวัดเฉวียนไปในประเทศที่ทั้งปวง พระรัศมีมีที่ขาวก็ขาวดุจดวงรัชนิกร แลแก้วมณี แลสีสังข์ แลแผ่นเงิน แลดวงดาวพกาพฤกษ์ พุ่งออกจากพระสริรประเทศในที่อันขาวแล้วแล่นไปในทิศโดยรอบ พระรัศมีหงสสิบาทก็พิลาสเล่ห์ดุจสีดอกเซ่ง แลดอกชบา แลดอกหงอนไก่ออกจากรัชกายรุ่งเรืองจำรัส พระรัศมีประภัสสรประภาครุนาดุจสีแก้วพลึกแลแก้วไพฑูริย์เลื่อมประพระฉัพพรรณรังสีทั้ง ๖ ประการแผ่ไพศาลแวดล้อมไปโดยรอบพระสกลกายยินทรีย์ กำหนดที่ ๑๒ ศอก โดยประมาณ อันว่าศศิสุริยประภาแลดาราก็วิกลวิการอันแสง เศร้าสีดุจหิ่งห้อยเหือดสิ้นสูญ มิได้จำรูญไพโรจโชติชัชวาล" รัศมีเฉกเช่นฉัพพรรณรังสีนี้มีเฉพาะพระพุทธเจ้าและเทวดาเท่านั้น นอกจากนี้ก็เกิดแต่ธรรมชาติเช่นสีรุ้งที่เรียกกันเป็นสามัญว่ารุ้งกินน้ำ หรือ พระจันทร์ พระอาทิตย์ทรงกลด ที่ออกจากเทวดานั้นจะเห็นได้ดังที่พรรณนาไว้ในพระสูตรต่าง ๆ ในเวลาที่เทวดามาเฝ้าพระพุทธเจ้าดังนี้ มีเทวดาตนหนึ่งมีรัศมีสว่างจ้าเข้ามายังพระเชตวัน ทำพระเชตวันให้สว่างไสวไปทั่วบริเวณ เข้าเผ้าพระทุทธเจ้าที่ประทับความสว่างของรัศมีนั้น ไม่เหมือนแสงเดือนแสงตะวัน หรือไม่เหมือนแสงไฟ เป็นแสงสว่างที่เสมอกันทั้งหมด และเป็นแสงสว่างที่ไม่มีเงาเหมือนแสงอื่นเป็นแสงที่แผ่ไปติดอยู่ทั่วบริเวณ มีข้อความในปฐมสมโพธกถา ปริเฉทที่ ๑๓ ธรรมจักรปริวรรตว่าดังนี้ "ฝ่ายอุปกาชีวเดินมาโดยทุราคมวิถีทางไกล หว่าง คยาประเทศเขตเมืองราชคฤห์กับมหาโพธิญาณ ติดต่อกัน แลเห็นไพสณฑ์สถานอันโอฬารไพโรจน์พรรณราย ด้วยข่ายฉัพพรรณรังสีโสณิวิลาส ปรากฏโดยทิวาทัศนาการทั้งพสุธารแลอากาศโอภาสด้วยพระรัศมีมีพรรณแห่งละ ๖ อย่าง ทั่วทั้งทิศล่างและทิศบน มาสัมผัสกายตนประหลาดมหัศจรรย์ไม่เคยได้พบเห็นเป็นเช่นนี้มาแต่ก่อน ถ้าจะเป็นเพลิง ไฉนกายอาตมาจึงไม่ร้อนกระวนกระวายแม้จะเป็นน้ำ ไฉนกายอาตมาจะไม่ชุ่มชื้นเย็นนี่จะเป็นสิ่งอันใดยิ่งสงสัยสนเท่ห์จิต จึงเพ่งพิศไปข้างโน้นข้างนี้ ก็เห็นองค์พระผู้ทรงสวัสดิ์ภาคย์เสด็จบทจรมา รุ่งเรืองด้วยพระสิดิฉันธมหาหว่างติสสุระ ลักษณะแลพระพยามประภาโอภาสเบื้องบน พระสุริย ก็ช่วงโชติด้วยพระเกตุมาลา ครุนาดุจทองทั้งแท่งประดับด้วยฉัพพรรณรังสี รังสีแสงไพโรจน์จำรัส" หัวข้อ: Re: พระฉัพพรรณรังสีที่แผ่จากพระกายพระพุทธเจ้า ๖ ประการ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 11 กรกฎาคม 2555 11:29:12 .
ฉัพพรรณรังสี คนทั่วไปเมื่อเพียรพยายามทำสิ่งใดแล้ว ได้รับผลตามที่ตั้งใจไว้ อาจแสดงออกได้หลายลักษณะเช่น ยิ้ม หัวเราะ น้ำตาไหลด้วยความปลื้มปีติ แต่หากเป็นพระพุทธเจ้าแล้วจะเกิดเป็นฉัพพรรณรังสีออกมาจากพระวรกายของพระองค์ ฉัพพรรณรังสี หรือ ฉัพพรรณรัศมี คือ รัศมีที่เปล่งออกมาจากพระวรกายของพระพุทธเจ้าในโอกาสต่าง ๆ มี ๖ สี คือ ๑. นีลรัศมี รัศมีสีนิลเหมือนดอกอัญชัน เปล่งออกจากพระเกศา พระมัสสุ และจากดวงพระเนตรส่วนที่เป็นสีนิล ๒. ปีตรัศมี รัศมีเหลืองเหมือนหรดาลทอง เปล่งออกจากพระฉวี และจากดวงพระเนตรส่วนที่เป็นสีเหลือง ๓. โลหิตรัศมี รัศมีสีแดงเหมือนตะวันอ่อน เปล่งออกจากพระมังสะ พระโลหิต และจากดวงพระเนตรส่วนที่เป็นสีแดง ๔. โอทาตรัศมี รัศมีสีขาวเหมือนแผ่นเงิน เปล่งออกจากพระอัฐิ พระทนต์ และดวงพระเนตร ส่วนที่เป็นสีขาว ๕. มัญเชฐรัศมี รัศมีสีหงสบาทเหมือนดอกเซ่งหรือหงอนไก่ เปล่งออกจากส่วนต่าง ๆ ของพระวรกาย ๖. ประภัสสรรัศมี รัศมีเลื่อมพรายเหมือนแก้วผลึก เปล่งออกจากส่วนต่าง ๆ ของพระวรกาย พระพุทธเจ้าทรงเปล่งพระรัศมีนี้เป็นครั้งแรก ขณะประทับอยู่ที่โคนต้นโพธิ์หลังตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณบรรลุเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ตามหลักฐานในคัมภีร์พระพุทธศาสนาระบุว่า พระรัศมีเกิดมาจากการที่พระองค์ทรงเกิดปีติโสมนัสในการพิจารณาธรรมที่ได้ตรัสรู้ ทำให้เกิดมีพระรัศมี ๖ สี เปล่งออกจากพระวรกาย เกิดเป็นอัศจรรย์ส่งผลให้เทวดาในหมื่นโลกธาตุทราบว่า พระองค์ได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ต่อมาจากนั้นก็มีระบุถึงว่า พระพุทธเจ้าทรงเปล่งฉัพพรรณรังสีในโอกาสสำคัญต่าง ๆ อาทิ เมื่อคราวเสด็จไปรอรับพราหมณ์กัสสปะแห่งแคว้นมคธและพระเจ้ากัปปินะแห่งเมืองกุกกุฎวดีที่เดินทางมาขอบวชกับพระองค์ พระพุทธเจ้าประทับเปล่งฉัพพรรณรังสีรออยู่ใต้ต้นไม้ข้างทางผ่าน เพื่อให้ทั้ง ๒ ท่านได้รู้ว่าพระองค์คือพระศาสดาที่ตนกำลังต้องการพบ ฉัพพรรณรังสีนี้เกิดแก่สมเด็จพระสัมมาสัมมาพุทธเจ้าเท่านั้น ไม่มีแก่พระสาวก. อ้างอิง : ๑. คอลัมน์ “องค์ความรู้ภาษาไทย” หน้า ๒๒ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันพฤหัสบดีที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ๒. พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ขออนุญาตบันทึกสาระดังกล่าวในกระทู้นี้ค่ะ เพราะเห็นว่ามีความเกี่ยวพันเนื่องกัน |