[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: sometime ที่ 27 มิถุนายน 2553 22:04:36



หัวข้อ: รองเท้าของฉัน - ขนมปังของฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 27 มิถุนายน 2553 22:04:36



(http://www.thaiplumvillage.org/thpv_images/header/dharmatalk_lp_ocean_01.png)



(http://img1.imagehousing.com/1/967155b759e4dc1a85da724c8ea765c0.jpg)

http://www.fungdham.com/download/song/allhits/20.wma



ธรรมสวัสดียามเช้าเมื่อคืนมีเรื่องที่น่าสนใจเกิดขึ้นกับนักบวช ที่มาประชุมกันที่หอประชุมแห่งนี้ เพื่อจัดเตรียมกิจกรรมภาวนา หลังประชุมเสร็จพอตอนกลับที่พัก หลวงพี่พบว่ารองเท้ารองเท้าของหลวงพี่ไม่อยู่ที่นั่น หลวงพี่รักรองเท้าคู่นี้ เพราะรองเท้าทำให้หลวงพี่มีความสุขมาก และหลวงพี่ก็มีรองเท้าอยู่แค่คู่เดียวเท่านั้นหลวงพี่เดินอยู่สองสามรอบเพื่อหารองเท้าให้พบในขณะที่มองหารองเท้าก็มองเท้าคนอื่นไปด้วยเพื่อดูว่าใครอาจสวมรองเท้าหลวงพี่ติดไป รองเท้าคู่นี้นำความสุขมาให้กับหลวงพี่มาก ในฤดูร้อนก็ให้ความเย็นสบาย พอถึงฤดูหนาวก็ให้ความอบอุ่นจะวิ่งก็ได้ จะเดินก็ดี หรือแม้แต่ปีนเขาก็ใช้งานได้ดี รองเท้าคู่นี้เป็นดั่งเพื่อนสนิทของหลวงพี่ หลวงพี่จึงรู้สึกว่า ว้า ! เศร้าจังที่รองเท้าหายไป
รองเท้าคู่นี้เป็นสีน้ำตาลเข้ากันได้ดีกับสีจีวรของนักบวช ถ้าจะซื้อที่อเมริกาก็คงราว 25 เหรียญ แต่ตอนที่คนนำมาถวายหลวงพี่ ก็คิดแค่ 3 เหรียญเท่านั้น(หลวงพี่ยิ้มขำตัวเอง)หลวงพี่รู้สึกเศร้าเพราะว่ารองเท้าคู่นี้นำความสุขมาให้หลวงพี่เป็นอย่างมาก น่าเศร้าที่ต้องมาจากกัน

แล้วก็มีหลวงพี่พระเถรวาทเดินผ่านมา ทุกท่านต่างก็เดินเท้าเปล่าแต่ทุกท่านกลับดูมีความสุขมาก หลวงพี่บอกกับตัวเองทำไมเราช่างเขลานักหลวงพี่
ที่นี่ไม่เห็นต้องใช้รองเท้าเลย ท่านก็มีความสุขได้หลวงพี่จึงเริ่มเดินเท้าเปล่า โดยที่ไม่สนใจรองเท้าอีกแล้ว การเดินเท้าเปล่านั้นเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก ระหว่างเดินกลับที่พัก พระภิกษุณีที่พบระหว่างทางก็ทักทายแล้วถามว่าทำไมหลวงพี่เดินโดยไม่ สวมรองเท้าหล่ะ แล้วหลวงพี่จะทำอย่างไร หลวงพี่ตอบไปว่าผมไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวก็โอเค พระภิกษุณีท่านตอบว่า อย่าเลย อย่าเดินเท้าเปล่าเลย เดี๋ยวจะไปหารองเท้ามาให้ เอาง่าย ๆ ซักคู่หนึ่งจากห้องน้ำมาให้ใช้ไปชั่วคราวก่อน หลวงพี่ก็ใช้รองเท้าที่มีไว้ให้เปลี่ยนใส่ก่อนเข้าห้องน้ำ ซึ่งก็ใช้งานได้ดี อย่างไรก็ดี ตอนที่กลับมาที่หอประ
ชุมอีกครั้ง หลวงพี่ก็ยังอดใจไม่ได้ที่จะเดินหาอีกสักรอบหนึ่งเผื่อจะเจอ ถ้าดูอย่างผิวเผินดูเหมือนหลวงพี่จะทำใจได้แล้ว
แต่ถ้ามองอย่างลึกซึ้งเข้าไปในใจ
หลวงพี่ยังมีความทุกข์กับเรื่องรองเท้า หลวงพี่ยังเพียรหาต่อไป แต่หาอย่างไรก็หาไม่เจอ
เช้านี้หลวงพี่ใช้วิถีการปฏิบัติที่ปฏิบัติกันที่หมู่บ้านพลัมก็คือ ยืมรองเท้าหลวงพี่หลวงน้อง ใส่ชั่วคราวไปก่อน (หลวงพี่ยิ้ม) หลวงพี่รูปอื่นท่านก็แนะนำบอกให้หลวงพี่แสดงปาถกฐาธรรม เล่าเรื่องการยืมรองเท้าของหลวงพี่หลวงน้อง ให้ผู้เข้าปฏิบัติธรรมฟัง ว่านี่คือวิถีการปฏิบัติของเราในการแบ่งปัน และเป็นดั่งกันและกัน (หลวงพี่ยิ้มขำ) เมื่อมีใครยืมรองเท้าของคน ๆ หนึ่งไป คน ๆ นั้นก็จะไปยืมรองเท้าของอีกคนหนึ่ง แล้วก็จะยืมต่อกันไปเป็นทอด ๆ (หลวงพี่ยิ้ม)

ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้านี้หลวงพี่ได้มองอย่างลึกซึ้งจนเห็นว่าหลวงพี่ได้พึ่งพา และผูกพันกับรองเท้ามากแค่ไหน หลวงพี่ยินดีและยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น แท้จริงแล้วการเป็นนักบวช เราก็แทบไม่มีอะไรอยู่แล้ว เรามีจีวรอยู่ 3 ชุด มีบาตรสำหรับฉันอาหารและที่กรองน้ำให้สะอาดสำหรับดื่มก็เท่านั้นเอง ของที่นอกเหนือจากนั้นล้วนเป็นของที่มีไว้ใช้ ถึงคราวจะไปก็ปล่อยให้ไป การมีรองเท้าเป็นเรื่องวิเศษ แต่ถึงไม่มีรองเท้าหลวงพี่ก็ยังเดินได้ หลวงพี่ยังเดินบิณฑบาตรได้ หรือแม้ไม่มีอาหาร หลวงพี่ก็ยังเดินบิณฑบาตรเพื่อรับอาหารได้


หัวข้อ: Re: รองเท้าของฉัน - ขนมปังของฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 27 มิถุนายน 2553 22:13:56
(http://www.thaiplumvillage.org/thpv_images/header/dharmatalk_lp_ocean_01.png)

(http://img1.imagehousing.com/1/967155b759e4dc1a85da724c8ea765c0.jpg)



ตอนที่หลวงพี่มาถึงเมืองไทยใหม่ ๆ ใครเห็นบาตรของหลวงพี่ก็จะกล่าวว่า บาตร ของท่านเล็กจังเลย เวลาออกไปเดินบิณฑบาตร ไม่น่าจะพอฉัน ตอนที่ไปแสดงธรรมที่เวียดนามหลวงพี่ก็บิณฑบาตรด้วยบาตรใบขนาดย่อม ๆ นี่แหละเวลาที่บาตรเต็มแล้ว หากยังมีผู้คนที่ต้องการใส่บาตรหลวงพี่จะมอบของในบาตรที่เกินมาให้กับคนต่อไปที่หลวงพี่พบ นี่เป็นการฝึกปฏิบัติกับการให้อย่างหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเวลาที่มีคนซัก 12 คนเข้ามาใส่บาตรพร้อม ๆ กัน ครู่เดียวของที่ใส่บาตรก็กองสูงถึงนี่แล้ว(หลวงพี่ยกมือขึ้นระดับคาง) ขนาดบาตรนั้นใหญ่เพียงพอสำหรับอาหารแค่เพียงพอให้ดำรงชีพอยู่ได้ ในชีวิตเรานั้น มีของที่เราชอบและก็ไม่ชอบ มีบางอย่างที่น่าสนใจเกิดขึ้นในขณะที่หลวงพี่รับบาตร มีคนมาถวายขนมปังแบบฝรั่งเศสชิ้นโต ๆ พร้อมกับชีส หลวงพี่รู้สึกยินดีมากเพราะไม่ได้เห็นขนมปังฝรั่งเศสชิ้นโต ๆ มานานแล้ว พอบาตรเต็มแล้ว แต่คนต่อไปกำลังจะถวายข้าวหลวงพี่ก็คิดในลใจ อืม...นี่ขนมปังฝรั่งเศสเชียวนะแต่หลวงพี่ก็ต้องมอบสิ่งที่หลวงพี่รักให้กับผู้อื่นไป เราคิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายหรือเรื่องยากที่จะทำเช่นนั้น
(หลวงพี่ยิ้มขำตัวเอง ทำท่าปิดตา แล้วยื่นมือออกมา)หลวงพี่ต้องปิดตาก่อนยื่นให้ หลวงพี่ต้องทำเช่นนี้อยู่หลายรอบ
ท้ายสุดแล้วหลวงพี่ก็มีข้าวมีผักเป็นอาหารแบบเวียดนามซึ่งจริง ๆ แล้วก็รสชาติดี แต่ก็ยังคิดถึงขนมปังที่ได้รับมาและมอบกลับไป ในใจก็นึกถึงภาพ
หลวงพี่ท่านอื่นที่กำลังมีความสุขกับขนมปัง เมื่อมองอย่างลึกซึ้งเข้าไปในใจ หลวงพี่ตระหนักรู้ถึงเมล็ดพันธุ์ที่เรียกว่าความโลภกำลังแสดงตัวให้หลวงพี่ เห็น หลังฉันอาหารเช้า หลวงพี่สวดบทพิจารณาหลังรับประทานอาหารก่อนเดินเป็นแถวออกจากหอฉัน ผู้คนมากมายยังคงรออยู่ข้างนอก ทันใดนั้นเองก็ได้มีชายสูงอายุท่านหนึ่งเดินตรงเข้ามาหาหลวงพี่ ชายผู้นั้นยื่นถุงพลาสติกสีชมพูให้หลวงพี่พร้อมกับกล่าวว่านี่เป็นของ สำหรับท่านลองเดาดูสิว่ามีอะไรอยู่ในถุงใบนั้น ขนมปังฝรั่งเศสทั้งชิ้น หั่นไว้พร้อมรับประทาน แล้วก็ภาชนะใบย่อมที่บรรจุไว้ด้วยชีสฝรั่งเศส เพราะฉะนั้นเราต้องระวังเวลาที่เราปรารถนาอะไรสักอย่าง เพราะสิ่งที่เราปรารถนามักจะเกิดขึ้นจริง (หลวงพี่ยิ้มแจ่มใส) เราต้องมองอย่างลึกซึ้งเข้าไปในหัวใจเราเอง ว่าเรากำลังปรารถนาอะไรอยู่ เพราะเราปรารถนาสิ่งใดสิ่งนั้นมักจะเกิดขึ้น


หัวข้อ: Re: รองเท้าของฉัน - ขนมปังของฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 27 มิถุนายน 2553 22:19:12
(http://img1.imagehousing.com/1/967155b759e4dc1a85da724c8ea765c0.jpg)



(http://www.thaiplumvillage.org/thpv_images/header/dharmatalk_lp_ocean_01.png)



เพื่อน ๆ ผู้เข้าปฏิบัติชอบเรื่องที่หลวงพี่เล่าไหมเด็ก ๆ ล่ะสนุกไหม อีกสักครู่เด็ก ๆ จะไปอยู่ในโปรแกรมสำหรับเด็ก ๆ แล้วอย่าลืมปฏิบัติกันนะ มองเข้าไปในหัวใจของพวกเรา ดูว่าเรากำลังปรารถนาอะไร เพราะว่าเราอาจจะได้สิ่งนั้น ขอให้เราฟังเสียงระฆังกัน เด็ก ๆ ที่รัก
ขอให้ตั้งใจฟังเสียงระฆังก่อนลุกขึ้นพร้อม ๆ กันเพื่อทำความเคารพให้กับผู้ใหญ่
ก่อนเด็ก ๆ จะออกไปเล่นข้างนอก หลวงพี่ขอเล่าต่ออีกสักนิด เมื่อเช้าตอนที่หลวงพี่มาที่ห้องประชุมแห่งนี้ หลวงพี่ได้พบรองเท้าอยู่หน้าห้อง (หลวงพี่ยิ้ม) หลวงพี่หวังว่าท่านที่ยืมรองเท้าไปชั่วคราว จะมีความสุขกับรองเท้า คราวหน้าถ้าต้องการยืมใช้อีกหลวงพี่ยินดีเสมอ (หลวงพี่ยิ้มแจ่มใส)



(:LOVE:)ขอให้เด็ก ๆ ทุกคนมีความสุข (:LOVE:)


การมีรองเท้าเป็นเรื่องวิเศษ

แต่ถึงไม่มีรองเท้า

หลวงพี่ก็ยังเดินได้

หลวงพี่ยังเดินบิณฑบาตรได้

หรือแม้ไม่มีอาหาร

หลวงพี่ก็ยังเดินบิณฑบาตร

เพื่อรับอาหารได้


.....................................ประวัติหลวงพี่มหาสมุทรธรรม...........................


หลวงพี่มหาสมุทรธรรม (Dhamma Ocean) เป็นชาวออสเตรเลีย เกิดในปี พ.ศ.2518 ท่านบวชกับหลวงปู่ ติช นัท ฮันห์ ที่หมู่บ้านพลัม ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี พ.ศ.2540 และได้รับตะเกียงธรรมาจารย์ ปี พ.ศ.2546 ก่อนบวช ท่านได้ศึกษาพุทธศาสนาทั้งแนวเถรวาทและมหายาน ท่านมีความสามารถและความรู้รอบตัว ปัจจุบันท่านจำวัดอยู่ที่สถานปฏิบัติธรรม Deer park ประเทศสหรัฐอเมริกา


ขอขอบคุณ http://www.thaiplumvillage.org (http://www.thaiplumvillage.org) (หมู่บ้านพลัม)