[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะจากพระอาจารย์ => ข้อความที่เริ่มโดย: -NWO- ที่ 25 มิถุนายน 2555 01:58:19



หัวข้อ: หลวงปู่มั่นจำแนกระหว่างมนุษย์กับเทวดาใครได้อรรถาธรรมมากกว่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: -NWO- ที่ 25 มิถุนายน 2555 01:58:19
หลวงปู่มั่นจำแนกระหว่างมนุษย์กับเทวดาใครได้อรรถาธรรมมากกว่ากัน

(http://www.tadarab.com/wp-content/uploads/2012/06/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%993.jpg)

ท่านหลวงตามหาบัว ถ่ายทอดคำพูดของหลวงปู่มั่นที่เล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า
การติดต่อและการแสดงธรรมระหว่างมนุษย์กับเทวดามีความแตกต่างกันมาก
เวลาแสดงธรรมให้เทวดาฟังไม่ว่าเบื้องบน เบื้องล่าง หรือรุกขเทวดา พวกนี้ฟังเข้าใจง่ายกว่ามนุษย์หลายเท่า พอแสดงจบลงเสียงสาธุการ 3 ครั้ง กระเทือนโลกธาตุ ขณะที่เทพทุกชั้นภูมิมาเยี่ยมก็มีการเคารพพระอย่างยิ่ง ไม่เคยเห็นแม้พวกเทพรายหนึ่งแสดงอาการไม่ดีงามกายในใจ ทุกอาการของเทพอ่อนนิ่มเหมือนผ้าพับไว้เหมือนกันในขณะนั้น ขณะที่มาก็ดี ขณะฟังธรรมก็ดี ขณะจะจากไปก็ดี เป็นความเรียบร้อยและสวยงามไปตลอดสาย


แต่เวลาแสดงธรรมให้ชาวมนุษย์ฟังกลับไม่เข้าใจกัน แม้อธิบายซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจ นอกจากจะไม่เข้าใจแล้ว ยังคิดตำหนิผู้แสดงอยู่ภายในอีกด้วย ว่าเทศน์อะไรฟังไม่รู้เรื่องเลย สู้องค์นั้นไม่ได้ สู้องค์นี้ไม่ได้ บางรายยังอดเอากิเลสหยาบๆ อยู่ภายในของตัวออกอวดไม่ได้ว่า สมัยเราบวชยังเทศน์เก่งกว่านี้เป็นไหนๆ คนฟังฮากันตึงๆด้วยความเพลิดเพลิน ไม่มีอาการง่วงเหงาหาวนอนเลย ยิ่งเทศน์โจทย์สองธรรมมาสน์ด้วยแล้ว คนฟังหัวเราะกันไม่หุบปากตลอดกัณฑ์ บางคนก็คิดว่าคนร่ำลือกันว่าท่านเก่งมากทางรู้วาระจิตคน ใครคิดอะไรขึ้นมาท่านรู้ได้ทันที แต่เวลาเราคิดอะไรๆท่านไม่เห็นรู้บ้างเลย ถ้ารู้ก็ต้องแสดงออกบ้าง บางรายมาจะจับผิดพลาดด้วยความอวดตัวว่าฉลาดอย่างพอตัว ผู้นั้นไม่มีความสนใจต่อธรรมเอาเลย แม้จะแสดงให้ผู้อื่นฟังด้วยวิธีใดๆ ที่เขานั่งฟังอยู่ด้วยในขณะนั้น ก็เหมือนเทน้ำใส่หลังหมานั่นเอง มันสลัดทิ้งหมดทันทีไม่มีน้ำเหลืออยู่บนหลังมันแม้แต่หยดเดียว


หลวงปู่ท่านว่า ถ้าไม่จำเป็นจริงๆก็ไม่เทศน์ เพราะการเทศน์เป็นเหมือนโปรยยาพิษทำลายคนผู้ไม่มีความเคารพอยู่ภายใน ส่วนธรรมนั้นยกไว้ว่าเป็นธรรมที่ยอดเยี่ยมจริงๆ มีคุณค่ามหาศาลสำหรับผู้ตั้งใจและมีเมตตาเป็นธรรม ไม่อวดรู้อวดฉลาดเหนือธรรม ตรงนี้แลสำคัญมาก ขณะที่นั่งฟังอยู่ด้วยกันหลายคน ผู้ร้อนจนแทบละลายตายไปก็มี ผู้เย็นจนตัวจะเหาพขึ้นอากาศก็มี มันผิดกันที่ใจดวงเดียวนี้เท่านั้น นอกนั้นไม่สำคัญ เราจะพยายามอนุเคราะห์เพื่อผ่อนหนักให้เป็นเบาก็ไม่มีทาง เมื่อใจไม่ยอมรับแล้ว แม้จะพยายามคิดว่า ถ้าไม่เกิดประโยชน์ก็ไม่อยากให้เกิดโทษ แต่ก็ปิดไม่อยู่ เพราะผู้คอยจะสร้างบาปสร้างกรรมนั้นเขาสร้างอยู่ตลอดเวลา แบบไม่สนใจอะไรกับใครทั้งนั้น


การเทศน์สั่งสอนมนุษย์ก็นับว่ายากอยู่ไม่น้อย เวลาเขามาหาเราซึ่งไม่กี่คน โดยมากต้องมียาพิษแอบติดตัวมาจนได้ ไม่มากก็พอให้รำคาญใจได้ ถ้าเราจะสนใจรำคาญอย่างโลกๆ ก็ต้องได้รำคาญจริงๆแต่นี่ปล่อยตามบุญตามกรรม เมื่อหมดหนทางแก้ไขแล้วก็เห็นว่าเป็นกรรมของสัตว์


ผู้ตั้งใจมาแสวงหาอรรถหาธรรม หาบุญหากุศล ด้วยความเชื่อบุญเชื่อกรรมจริงๆก็มี นั่นน่าเห็นใจและน่าสงสารเขามาก แต่มีจำนวนน้อย ผู้มาแสวงหาสิ่งไม่เป็นท่าและไม่มีขอบเขตนั้นรู้สึกมากเหลืหูเหลือตาพรรณาไม่จบ ฉนั้นจึงชอบอยู่แต่ในป่าในเขา อันเป็นที่สบายกายสบายใจทำความเพียรได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่มีสิ่งรบกวนให้ลำบากตาลำบากใจมองไปทางไหน คิดเรื่องอะไรเกี่ยวกับอรรถธรรมก็ปลอดโปร่งโล่งใจมองดูและฟังเสียงสัตว์สาราสิงห์ พวกบ่างค่างปางชะนีที่หยอกเล่นกันทั้งห้อยโหนโยนตัวและกู่ร้องโหยหวน หากันอยู่ตามกิ่งไม้ชายเขา ลำเนาป่า ยังทำให้เย็นตาเย็นใจไปตาม โดยมิได้มีความรู้สึกว่าอะไรต่อเรา ต่างตัวต่างหากินและปีนขึ้นลงไปตามประสาสัตว์ ทำให้รู้สึกในอิริยาบทและความเป็นอยู่ทุกด้านสดชื่นผ่องใสและวิเวกวังเวง หากจะมีอันตรายเกิดขึ้นมาในเวลานั้น ก็เป็นไปด้วยความสงบสุขทางกายและจิตใจ ไม่เกลื่นกล่นวุ่นวายตามแบบธรรมชาติ คือมาคนเดียวไปคนเดียว


โดยมากพระสาวกอรหันต์ ท่านนิพพานแบบนี้กันทั้งนั้น เพราะกายและจิตของท่านไม่มีความเกลื่นกล่นวุ่นวายมาแอบแฝงมีกายอันเดียว จิตดวงเดียว และมีอารมณ์เดียว ไม่ไหลบ่าหาความทุกข์ไม่สั่งสมอารมณ์ใดๆ มาเพิ่มเติมให้เป็นการหนักหน่วงถ่วงตน ตรงกันข้ามกับที่ว่าหนักเท่าไหร่ยิ่งขนมาเพิ่มขึ้น เพราะท่านเบาเท่าไหร่ยิ่งขนออกจนไม่มีอะไรจะขน แล้วก็อยู่กับความไม่มีทั้งๆที่ผู้รู้ว่าไม่มีคือใจก็มีอยู่กับตัว คือไม่มีงานจะขนออก และขนเข้าอีกต่อไป เรียกว่าบรรลุถึงขั้นคนว่างงาน ใจว่างงานศาสนาถือว่า การว่างงานแบบนี้มีความสุขอันยิ่งใหญ่ ผิดกับโลกที่ผู้ว่างงานกลายเป็นคนมีทุกข์เพิ่มมากขึ้น เพราะไม่มีทางไหลมาแห่งโภคทรัพย์

ที่มา : หนังสือประวัติ ข้อวัตรและปฏิปทา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บันทึกโดยหลวงตามหาบัว