[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ จิบกาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: -NWO- ที่ 27 กรกฎาคม 2555 12:19:07



หัวข้อ: 15 ความจริงเกี่ยวกับเด็กอักษรศาสตร์ (ม.ศิลปากร)
เริ่มหัวข้อโดย: -NWO- ที่ 27 กรกฎาคม 2555 12:19:07
15 ความจริงเกี่ยวกับเด็กอักษรศาสตร์ (ม.ศิลปากร)

(http://www.weloveshopping.com/shop/allforbear/AFB_FB0008.jpg)


1.) ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นเด็กอักษรฯ ซึ่งทุกคนต้องนึกภาพฝันไว้ว่า นักศึกษาคณะอักษรศาสตร์นั้นจะต้องเป็นเลิศด้านภาษา พูดภาษาอังกฤษน้ำไหลไฟดับกันทุกคน แต่หารู้ไม่ว่ามีเด็กอักษรฯจำนวนมากที่ตกภาษาอังกฤษและเกลียดภาษาอังกฤษเข้าไส้ถึงขั้นไม่ยอมลงทะเบียนเรียน ทั้ง ๆ ที่ภาษาอังกฤษเป็นวิชาบังคับและหากไม่ลงก็จะไม่จบแต่ก็มีคนที่ยอมเรียนไม่จบหรือจบช้าเพียงเพราะไม่อยากเรียนภาษาอังกฤษมาแล้ว

2.) เมื่อนึกภาพสาวอักษรฯ หนุ่ม ๆ อาจจะนึกภาพสาว ๆ หุ่นนางแบบ หน้าคม ผมเป๊ะ สวยปิ๊งที่มีแฟนคุมกันทุกคน ทว่าความเป็นจริงแล้ว สาว ๆ เหล่านั้นมีอยู่จริงในคณะไม่เท่าไหร่ เพราะประชากรส่วนใหญ่ของคณะอักษรศาสตร์นั้นก็เป็นนักศึกษาธรรมดา ๆ ที่ไม่ได้สวยเลิศและไม่มีใครจีบอีกต่างหาก จะจีบกันเองก็ยากเพราะผู้ชายอักษรชอบเด็ก ครั้นจะจีบหนุ่มต่างคณะก็ยากเพราะเค้าก็คบกันเองทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้สาวอักษรจึงมีจำนวนคนโสดเยอะ…มาก

3.) เชื่อหรือไม่ คณะอักษรศาสตร์ยุคแรก ๆ มีวิชาเอกที่ชื่อว่า เอกคณิตศาสตร์

4.) วิชาเอกในฝันของนักศึกษาอักษรฯของแทบทุกคนในตอนแรกที่เข้ามาเรียนคือวิชาเอกภาษาอังกฤษ แต่เมื่อเรียนไปเรื่อย ๆ หากรุ่นพี่ถามอีกครั้ง จะมีคนตอบคำตอบเดียวกันน้อยลงเรื่อย ๆ จนเมื่อถึงเวลาเข้าเอกตอนปีสองเทอมสอง จะเหลือเด็กที่เรียนเอกภาษาอังกฤษกันจริง ๆ แค่ไม่ถึง 50 คนเท่านั้น

5.) ภาควิชาที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในหมู่ชายแท้แห่งอักษรคือ ภาคภูมิศาสตร์ เพราะเป็นภาควิชาที่ดู “แมน” ที่สุดแล้ว

6.) คณะอักษรศาสตร์เป็นคณะที่มีจำนวนนักศึกษาชายเรียนน้อยมาก หากคิดเป็นสัดส่วนผู้ชายต่อผู้หญิงแล้ว จัดได้ว่ามีจำนวนเป็น 1:10 เลยทีเดียว ดังนั้น จึงไม่แปลกหากจะบอกว่าผู้ชายอักษรฯค่อนข้างที่จะเจ้าชู้ไม่แพ้ผู้ชายคณะไหน เผลอ ๆ อาจจะโชคดีกว่าด้วยซ้ำเพราะมีผู้หญิงให้เลือกไม่ซ้ำหน้า

7.) นอกจากจำนวนผู้ชายในคณะอักษรฯที่มีอยู่น้อยมากอยู่แล้ว หลาย ๆคนในกลุ่มนี้ที่ไม่ใช่ชายแท้มักจะหน้าตาดีเสียส่วนใหญ่ ทำให้สาว ๆ โอดครวญกันถ้วนหน้าเพราะหนุ่มหน้าเกาหลีที่เห็นวันเปิดเรียนภายหลังกลายเป็นสาวน้อยนุ่งกระโปรงทรงสอบในวันหลัง

8.) คณะอักษรศาสตร์มีชื่อภาษาอังกฤษว่า “Arts” ซึ่งนอกจากจะ อาร์ต หรือ “ติสต์” แล้ว ยังเป็นคณะเดียวในมหาวิทยาลัย นอกเหนือจากคณะจิตรกรรม หรือ สถาปัตย์ ฯลฯ ที่สามารถแต่งชุดไปรเวทมาเรียนหรือสอบกลางภาคได้แบบ “ไม่แคร์สื่อ”

9.) รู้หรือไม่ คณะอักษรศาสตร์ไม่มีการว้าก เพราะอาจารย์ในคณะไม่เห็นด้วยกับระบบว้าก แต่อย่างไรก็ดี ก็ยังมีการแอบว้ากลับ ๆ ของนักศึกษาชายและนักศึกษาเพศที่สามแบบเฉพาะกิจอยู่

10.) ชาวอักษรฯมีคำศัพท์ที่ใช้เรียกเพื่อน ๆ น้อง ๆ เพศที่สามอย่างน่ารักน่าชังว่า “นะจ๊ะ” ฉะนั้นหากมาศิลปากรแล้วได้ยินคำนี้ก็ไม่ต้องงงถ้ามีคนเดินมาทักว่าเป็นนะจ๊ะหรือเปล่านะจ๊ะ

11.) เพลงประจำมหาวิทยาลัยศิลปากรคือเพลง “Santa Lucia” ซึ่งเป็นเพลงภาษาอิตาเลียน เพราะผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเป็นศาสตราจารย์ชาวอิตาเลียนนาม ศาสตราจารย์คอราโด เฟโรจี (ศิลป์ พีระศรี) อย่างไรก็ตาม กลับไม่มีภาควิชาภาษาอิตาเลียนที่เปิดให้เรียนกันที่คณะอักษรศาสตร์ แต่มีเปิดที่คณะโบราณคดีแทน

12.) เพลง “กลิ่นจันทร์” ซึ่งเป็นเพลงที่นิยมร้องกันในมหาวิทยาลัยนั้นมีที่มาจากคณะอักษรศาสตร์ผู้ประพันธ์ก็คือ คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ ซึ่งเป็นอดีตอาจารย์ที่คณะอักษรศาสตร์นี่เอง หากยังไม่คุ้นชื่อ หากได้ยินชื่อ ว.วินิจฉัยกุล หรือ แก้วเก้า ก็อาจจะถึงบางอ้อ เพราะท่านเป็นนักเขียนคนดังแห่งวงการน้ำหมึกของไทยท่านหนึ่ง

13.) รู้หรือไม่ นวนิยายเรื่อง “น้ำใสใจจริง” นั้นผู้ประพันธ์เป็นอดีตอาจารย์ที่คณะอักษรฯ ใช้โครงเรื่องจากลักษณะนิสัยของเด็กในคณะ สถานที่ในคณะอักษรศาสตร์ แม้กระทั่งฉบับภาพยนตร์ก็เป็นคณะอักษรฯที่นี่เช่นกัน

14.) คณะอักษรฯยุคแรก ๆ นั้นมีชายผ้าเหลืองเดินให้ว่อน … เพราะพระภิกษุ สามเณรในยุคนั้นนิยมมาเรียนที่คณะอักษรศาสตร์เป็นจำนวนพอสมควรเลยทีเดียว จึงไม่แปลกสำหรับคนในสมัยนั้นที่จะนั่งเรียนกับพระ และมีเพื่อนที่เรียกคนอื่น “โยม” แทน “เธอ”

15.) ภาควิชาที่ขึ้นชื่อว่าเข้มมากที่สุดภาคหนึ่งในคณะอักษรฯคือภาคภาษาญี่ปุ่น ส่วนภาคที่ขึ้นชื่อว่าแข็งที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือภาคฝรั่งเศส แต่หากถูกถาม ทุกคนจะร้อง ว้าว! หากคุณตอบว่าอยู่ภาคภาษาอังกฤษ




บทความ :  พี่นิ้ง  อักษรศาสตร์ ศิลปกร