หัวข้อ: "ต้นพระศรีมหาโพธิ์" สหชาติ ๑ ใน ๗ สิ่ง ของพระพุทธองค์ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 27 สิงหาคม 2555 18:43:40 .
(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSBvQiSUFHezuEyvSeyJshM3Vz2Pe8WdKl0vEa8JQyaPdQENAZCvg) ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ไม้มงคลในพระพุทธศาสนา ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ถือเป็นต้นไม้ประจำพระพุทธองค์ เนื่องจากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้แจ้งพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณเพื่อประโยชน์แก่เวไนยสัตว์ ณ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ในวันเพ็ญ (ขึ้น ๑๕ ค่ำ) เดือนวิสาขมาส ก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี ในตอนเช้าประทับภายใต้ต้นอชปาลนิโครธ หลังจากทรงรับข้าวมธุปายาสจากนางสุชาดา ทรงกระทำภัตตกิจแล้วทรงอธิษฐานลอยถาดในแม่น้ำเนรัญชรา ในช่วงบ่ายทรงสรงสนานพระวรกายแล้วเสด็จข้ามแม่น้ำเนรัญชรามายังฝั่งตะวันตก ทรงรับหญ้าคา ๘ กำ จากโสตถิยะพราหมณ์ แล้วทรงอธิษฐานปูลาดเป็นอาสนะประทับนั่ง ณ ภายใต้ต้นอัสสัตถพฤกษ ซึ่งเป็นต้นไม้ใหญ่มีใบดกหนา แผ่กิ่งก้านสาขากระจายออกไปทั้ง ๔ ทิศ เป็นวิชัยบัลลังก์อันรุ่งโรจน์กว่าหมู่ไม้ทั้งหลายในบริเวณนั้น เมื่อทรงประทับนั่งหันพระปฤษฎางค์ไปทางต้นอัสสัตถะนั้น ผินพระพักตร์สู่ทิศตะวันออก ทรงเริ่มตั้งความเพียรด้วยการอธิษฐานพระทัยอย่างมั่นคงว่า “กามํ ตโจ นหารู จ อฏฺฐิ จ อวสิสฺสตุ อวสฺสุสฺสตุ เม สรีเร สมฺพนฺตํ มํสโลหิตํ (สพฺพํปิ หิทํ สรีเร มํสโลหิตํ อุปสุสฺสตุ) แม้เนื้อและเลือดจะเหือดแห้งไป เหลือเพียงหนัง เอ็น และกระดูก ก็ตามที เรายังไม่บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณตราบใด จะไม่ลุกจากที่นี่ตราบนั้น” (องฺ.ทุก.๒๐/อุปญฺญาตสูตร,ชา.อ./อวิทูเรนิทาน) หลังจากนั้นทรงรำลึกถึงพระบารมีทั้ง ๑๐ หรือทศบารมี ที่พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญมาแล้ว ในอดีตจนชนะมารทั้งปวงภายใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ตั้งแต่ดวงอาทิตย์ยังไม่ลับขอบฟ้า และทรงบำเพ็ญเพียรทางจิตอย่างต่อเนื่องจนทรงบรรลุในเวลาใกล้รุ่งอรุณแห่งราตรีวันเพ็ญวิสาขะนั้น พระองค์ก็ได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ภายใต้ร่มไม้อัสสัตถพฤกษ์โพธิ์ หรือต้นพระศรีมหาโพธิ์ นั้น พุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่าได้รับทราบว่า ในตำราพระพุทธประวัติทั้งหลายได้มีการกล่าวตรงกันว่า ต้นพระศรีมหาโพธิ์นั้น เป็นสหชาติ ๑ ใน ๗ สิ่งของพระพุทธองค์ คือ ๑.พระเทวีมารดา พระราหุล ๒.พระอานนท์ พระอนุชา ๓.นายฉันนะ ๔.กาฬุทายีอำมาตย์ ๕.พระยาม้ากัณฐกะ ๖.ต้นพระศรีมหาโพธิ์และ ๗.ขุมทรัพย์ทั้ง ๔ บรรดา ๗ สิ่งนี้ เกิดขึ้นในวันเดียวกันกับพระพุทธองค์ประสูติ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ณ พุทธคยา ประเทศอินเดีย นี้ ได้มีการสืบทอดกันมาจากต้นที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับตรัสรู้ นับถึงต้นปัจจุบันมีช่วงอายุที่สืบทอดกันมา ๔ ต้น ดังนี้ ต้นที่ ๑ เริ่มในสมัยพุทธกาล จนถึงสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช เป็นระยะเวลา ๒๕๒ ปี ต้นที่ ๒ เริ่มสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช สิ้นสุดลงสมัยของกษัตริย์ฮินดู รัฐเบงกอล พระนามว่า “ศาศางกา” มีอายุราว ๘๑๗-๘๙๑ ปี ต้นที่ ๓ เริ่มรัชสมัยพระเจ้าปูรณวรมากษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์เมารยะ ทรงปลูกขึ้นแทนต้นที่ ๒ มาสิ้นสุดในสมัยอินเดียอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ มีอายุราว ๑,๒๕๘ – ๑,๒๗๘ ปี ต้นที่ ๔ นายพลเซอร์ คันนิ่งแฮม นักโบราณคดีชาวอังกฤษ ปลูกขึ้นแทนต้นที่ ๓ เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๒๓ ถึงปัจจุบัน (พ.ศ.๒๕๕๔) อายุได้ ๑๓๑ ปี ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ถือเป็นสิ่งสักการบูชารำลึกถึงพระพุทธองค์ ประเภท บริโภคเจดีย์ ซึ่งมีการกล่าวไว้ว่า ในสมัยหนึ่ง พระอานนท์ได้นำความขึ้นกราบทูลถามพระพุทธองค์ว่า ควรจะทำการสักการบูชาสิ่งใด เพื่อเป็นเครื่องน้อมรำลึกถึงพระพุทธองค์ในขณะที่พระพุทธองค์มิได้ประทับอยู่และทรงประทาน พระดำรัสแนะนำพระอานนท์ถึงเจดีย์ ๓ ชนิด คือ ๑. สารีริกธาตุ หรือธาตุเจดีย์ ๒. บริโภคเจดีย์ ๓. อุทเทสิกเจดีย์ พระพุทธองค์ได้ตรัสกับพระอานนท์ว่าสารีริกธาตุ จะมีได้ก็ต่อเมื่อตถาคตปรินิพพานแล้วเท่านั้น บริโภคเจดีย์ เครื่องบริขารใช้สอยก็ทรงยังต้องใช้อยู่เป็นประจำ ส่วนไม้พระศรีมหาโพธิ์ที่ตถาคตตรัสรู้นั้น เป็นเจดีย์ได้ทุกเมื่อ เมื่อพระอานนท์ได้สดับดังนั้น จึงกราบทูลขอพระพุทธานุญาตว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ขอนำเอาเมล็ดพันธุ์ไม้ศรีมหาโพธิ์นั้นมาปลูกไว้ภายในบริเวณวัดพระเชตวันนี้ เพื่อเป็นพุทธบูชานียสถานแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย จักได้กระทำการสักการบูชารำลึกถึงพระพุทธองค์ในคราวที่พระพุทธองค์เสด็จจาริกไปยังสถานที่อื่นพระพุทธเจ้าข้า” ซึ่งพระพุทธองค์ทรงอนุญาต เพราะเหตุที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์มีความหมาย และมีความเกี่ยวข้องกับสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงถือเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นอนุสาวรีย์ของพระพุทธองค์ เป็นเจดีย์ที่ควรแก่การเคารพสักการะเป็นสัญลักษณ์ประจำพระพุทธศาสนามาแต่ครั้งโบราณกาล ที่มา : วารสารสายตรงศาสนา ปีที่ ๙ ฉบับที่ ๑ "การปลูกพันธุ์ต้นกล้าพระศรีมหาโพธิ์" หน้า ๔๐-๔๒ จัดพิมพ์เผยแพร่โดยกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม |