[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 กรกฎาคม 2553 19:15:18



หัวข้อ: ศีล ๕ ละเอียดอ่อนกว่าที่คิด โดยแม่ชีทศพร
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 กรกฎาคม 2553 19:15:18
[ โดย อ.ไกร จากบอร์ดเก่า ]



ศีล  ๕  ละเอียดอ่อนกว่าที่คิด

        “วันนี้โยมรับศีล  ๕  รึยัง  ถ้ายังก็ให้อาราธนาศีล  ๕  ถ้าอยู่ที่วัดก็สามารถรับกับ
   พระภิกษุสงฆ์  แต่ถ้าอยู่ที่บ้านโยมก็รักษาศีล  ๕  เองก็ได้นะ  ให้อาราธนาศีล  ๕  
   เองในใจ  วันนี้เราจะตั้งใจรักษาศีล”  แม่ทศพรมักจะให้คำแนะนำ ทุกๆคนเวลาคนเหล่า
   นี้เข้ามาหาเพื่อปรึกษาข้อปฏิบัติธรรม ศีล 5 จะได้เป็นเสมือนรั้วคอยป้องกันเราให้หลีก
   ไกลจากอันตรายอานิสงส์ของการรักษาศีล5 ที่เป็นศีลของฆราวาส ถ้าสามารถรักษา
   ได้อย่างครบถ้วนไม่ด่างพร้อย ก็ทำให้บุคคลผู้นั้นถึงพระอรหันต์ได้ในชาตินี้

   ศีล5 จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก...น้อย แต่เป็นเรื่องใหญ่...กว่าที่คิด

        ศีลข้อที่ 1 อย่าเบียดเบียนซึ่งกันและกันw
   เดี๋ยวนี้เวลาคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะแม่บ้านยุคนี้พอได้ เวลาเข้าครัวทำอาหารให้สมาชิก
   ในบ้านรับประทานก็เดินทางไปหาซื้อข้าว ปลา เนื้อสัตว์และพืชผักในห้างสรรพสินค้า
   มากกว่าการไปจ่ายของที่ตลาดสด ภายให้ห้างสรรพสินค้าก็จะตระเตรียมเนื้อสัตว์ทุก
   ประเภทไว้ให้พร้อมตั้งแต่เนื้อวัว เนื้อหมู ไก่ กุ้ง ปลา ปู ฯลฯ แม่บ้านสามารถซื้อเนื้อ
   สัตว์กลับเอามาเตรียมทำกับอาหารได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งวิถีชีวิตแบบนี้แตกต่างไป
   จากชาวบ้านในอดีตที่บางบ้านจะต้องลงมือฆ่ากุ้ง หอย ปู ปลา รวมถึงเป็ดไก่แทบทุกวัน
   เพื่อใช้เป็นอาหารให้คนในครอบครัว ครั้นพอถึงวันโกน วันพระ บรรดาชาวบ้านก็จะหอบ
   ลูกจูงหลานไปเข้าวัดฟังธรรมรับศีล 5 จากหลวงปู่หลวงตาที่วัดประจำหมู่บ้าน ในวันนี้
   เองก็จะงดการฆ่าสัตว์ทั้งปวง

   แม่ชีทศพรกล่าวไว้ว่าคนในยุคนี้ส่วนใหญ่ในสังคมเป็นสุจริตชนจึงแทบไม่ได้ฆ่าสัตว์
   มาประกอบอาหารและแน่นอนว่าจะไม่ผิดศีลข้อที่ 1 ด้วยการฆ่ามนุษย์ทำให้สามารถ
   รักษาศีลข้อที่ 1 ไว้ได้ แต่องค์ประกอบของศีลข้อ 1  ไม่ใช่มีความหมายแค่
   “การห้ามฆ่าสัตว์ทุกประเภท” เพียงอย่างเดียว ความหมายในเชิงลึกของศีลข้อที่ 1
   คือ ห้ามทำการสิ่งใดทั้งทางกาย วาจาและใจ ในการเบียดเบียนผู้อื่น สัตว์อื่นให้เดือดร้อน

   การที่เราไม่ได้ฆ่ายุง ไม่ได้ฆ่าแมลง แต่ทุกๆวันเราเบียดเบียนผู้อื่นทางการกระทำ
   ใช้วาจาเชือดเฉือนให้ตายทั้งเป็นเจ็บปวดหัวใจ ทำให้เขาเสื่อมเสีย ทำให้เขาทุกข์ร้อน
   นี่ก็ถือว่ากรรม ทำให้เขาได้รับความทุกข์เป็นการเบียดเบียนด้วยการกระทำ เป็นเรื่องที่
   เห็นกันเป็นปกติในชีวิตประจำวันที่พบเห็นอยู่ในครอบครัว ที่ทำงาน เช่น พ่อกับแม่เคย
   ทำปู่กับย่าเอาไว้ พอมาถึงลูก ลูกก็ทำกับพ่อกับแม่บ้าง การพูดจาถากถางกันการทำ
   แบบนี้เรียกว่าผิดศีลข้อที่ 1 เพราะเป็นการเบียดเบียนซึ่งกันและกัน แม้จะไม่ได้เอา
   ไม้ไปตีให้เจ็บ แต่ก็พูดให้เจ็บใจแบบนี้ตายทั้งเป็น หรือแม้แต่เราไปใช้หรือจ้างวานให้
   คนอื่นไปทำร้าย หรือฆ่าผู้อื่นตามคำสั่งเราก็เป็นการผิดศีลข้อที่ ๑ เช่นกัน

    กรรมของคนอยากดัง..ให้ร้ายป้ายสี

        เด็กนักเรียนหยิบหนังสือการ์ตูนบนแผงหนังสือมาเปิดอ่าน ส่วนผู้หญิงข้าง ๆ ก็หยิบ
   นิยายรักวัยรุ่นขึ้นมาดูเล็กน้อยก่อนที่จะจ่ายเงินให้กับเจ้าของ ขณะที่คนอื่น ๆ ก็สาละวนดู
   หนังสือบนแผงไปตามความสนใจของตนเอง ทุกวันนี้มีนิตยสาร หนังสือพิมพ์ข่าว บันเทิง
   เศรษฐกิจ ตลาดหุ้น นิยาย การ์ตูน ฯลฯ มากมายในท้องตลาด เป็นเรื่องที่เขียนขึ้นมา
   เองบ้าง สร้างจากจินตนาการบ้าง เขียนจากข้อเท็จจริงบ้าง บางเล่มก็เป็นโลกีย์ล้วน ๆ
   แฉสันดานดิบของมนุษย์

   ทุกวันนี้สังคมมนุษย์กลายเป็นสังคมที่เสพข่าวสารและข้อมูลจำนวนมาก ข้อมูลข่าว
   สารดังกล่าวบางทีก็สร้างพิษร้ายในใจของคน บางครั้งเพื่อความอยากเด่นอยากดังก็มี
   การสร้างข่าวใส่สีโจมตีผู้อื่นเพื่อขายข่าว ขายหนังสือ ซึ่งมีผลให้ผู้เสียหายได้รับความ
   เดือดร้อนทั้งทางตรงและทางอ้อม คนบางคนก็เล่นงานคนอื่นด้วยการเขียนบัตรสนเท่ห์
   ซึ่งลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายผิดศีลข้อที่ ๑ เบียดเบียนทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน
   แม้จะไม่ได้ฆ่าให้ตาย แต่ก็ทำให้ตายทั้งเป็น

   แม่ชีทศพร กล่าวตักเตือนว่าต่อให้เราเกลียดใคร ไม่ชอบใคร อิจฉาริษยาใครก็ตาม
   ก็อย่าไปทำร้ายคนอื่นเด็ดขาดโดยอธิบายว่า “โยมอย่าเขียนบัตรสนเท่ห์ไปทำร้ายคน
   อื่นเลย อย่าเขียนหนังสือกลั่นแกล้งคนอื่น ลำพังเพียงแค่โยมไม่ชอบขี้หน้าเขาไม่ว่า
   จะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม แล้วเก็บเอาอารมณ์มาครุ่นคิด อยากแก้แค้น มันก็กลายเป็น
   ไฟเผาในใจให้ร้อนรน มันทุกข์ เป็นอกุศลจิต”

   แต่นับว่ายังเป็นเพียงอาการที่เกิดขึ้นในใจที่โยมยังไม่ได้ลงมือกระทำออกด้วยกาย
   ทันทีที่เราหยิบปากกาเขียนหนังสือหรืออักษรขึ้นมา มันแปรความคิดเป็นการกระทำ
   พลังงานของจิตมันเปลี่ยนเป็นการกระทำ ตรงนี้ให้ผลมากและยิ่งถ้าเราได้ส่งข้อความ
   นี้ออกไปให้บุคคลที่สามได้อ่านหรือออกสู่สาธารณชน มันคือการลงมือพยายามเพื่อ
   ให้ผลของอกุศลกรรมบรรลุเป้าหมายมีผู้เสียหายเกิดขึ้น ซึ่งผู้เสียหายก็คือเจ้าหนี้ของเรา
   และเราก็มีกรรมที่เป็นอกุศลจิตที่เราเพียรสร้างเองผูกทบเข้าไปในดวงจิตอีกปม มันก็
   เลยซับซ้อนกันแบบนี้

   แม่ชีทศพร กล่าวว่า เราจะทำอะไรก็ตาม เราจะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เราทำ
   เช่นเราเขียนหนังสือ เราก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เราเขียน งานเขียนของเราจะต้อง
   ไม่ไปทำร้ายใครให้เดือดร้อน ในบางกรณีที่ใครก็ตามเขียนหนังสือขึ้นมาขายโดย
   เอาเรื่องคนอื่นมาเขียนให้ได้รับความเสียหาย โดยไม่มีมูลความจริง เช่น ข่าวสังคม
   ข่าวดารา ข่าวลือ หนังสือโจมตีด่ากัน ใบปลิวโจมตีงานหรือบุคคลอื่น ๆ แล้วทำให้
   เขาคนนั้นได้รับความเสียหาย ทำให้ถูกตราหน้าจากสังคมทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นความจริง
   ตามข่าว และที่ร้ายไปกว่านั้น ทำให้เขาตกงานหรือหางานทำไม่ได้ เขาเดือดร้อนคน
   เดียวก็เป็นบาปพอแล้วแต่ถ้าเขาคือหัวหน้าครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบอีกหลายชีวิต
   ก็ยิ่งบาปเพิ่มขึ้นอีก และถ้าคนที่ถูกใส่ร้ายป้ายสีเป็นคนดีมีศีลธรรม เป็นคนที่สร้าง
   คุณูปการให้กับสังคมก็ยิ่งเพิ่มความหนักของกรรมเข้าไปอีกชั้นหนึ่ง

   ขอให้ลองสังเกตดูสังคมเดี๋ยวนี้หนังสือทางโลกที่วางขายกันเกลื่อนตลาด
   มีหลากหลายประเภท หนังสือเหล่านี้สามารถที่จะพิมพ์และวางขายกันได้อย่างเสรี
   ในขณะเดียวกันอะไรก็ตามที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสอนให้คนทำความดี สอนความ
   รักความเมตตาให้เกิดขึ้นในสังคมโดยมีหลักศาสนาเข้ามาผูกพันโดยมุ่งหวังจะให้
   เกิดประโยชน์กับทุกเพศและทุกวัย บางครั้งก็มีการนำเสนอหลักธรรมคติข้อคิดใน
   การดำเนินชีวิตออกมาในรูปแบบของการ์ตูน นิยาย นิทาน ก็ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์
   อย่างเข้มข้นโดยไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงความมุ่งหวังที่จะเห็นเด็กไทยใน
   สังคมมีคุณภาพทางอารมณ์ที่ดีขึ้น

   การเขียนข้อความที่ให้ร้ายคนอื่นโดยที่ไม่มีมูลความจริงเช่น บัตรสนเท่ห์
   หนังสือโจมตี คนที่ทำแบบนี้ไม่สามารถก้าวพ้นความอิจฉา ริษยา ในจิตใจตนเอง
   คนเหล่านี้ขาดความเมตตาในใจ ซึ่งการที่จะแก้ก็คือการเจริญเมตตาภาวนาให้เกิด
   ขึ้นในจิตใจให้สม่ำเสมอ เพราะการไม่เจริญเมตตาภาวนาในใจแล้ว จิตที่เป็นอกุศล
   เพราะความอิจฉาริษยา มันจะส่งผลให้ชีวิตไม่ก้าวหน้า มีความล้มเหลวในทางความรัก
    ความน่าเชื่อถือไปตลอด

ขอบคุณแหล่งที่มา : http://www.thossaporn.com/article_detail.php?id_edit=29 (http://www.thossaporn.com/article_detail.php?id_edit=29)