[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ใต้เงาไม้ => ข้อความที่เริ่มโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 13 กรกฎาคม 2553 10:41:10



หัวข้อ: อึ้ม! จะเล่าให้ฟัง....
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 13 กรกฎาคม 2553 10:41:10
(http://www.3bq.com/vb/imgcache2/912.gif)

คุณๆ เคยไหม?...

ที่ต้องจากใครสักคนจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม...

แม้เวลาจะผ่านไปก็ไม่อาจจะ­ลืมเลือนเลย

ในบางเวลาที่เหงาๆ....ก็จะหวนคำนึึง

เหมือนเปิดลิ้นชักแห่งความทรงจำ..ภาพต่างๆจะพรั่งพรูออกมา

จากมโนสำนึก..ที่เป็นเงาในใจ

พร้อมกับหยาดน้ำใสๆเอ่อล้นดวงตา....

ใช่!อดีตก็เป็นเหมือนเงา..มันมีที่ซึ่งมันควรอยู่..คือข้างหลัง

และการจะทำได้เช่นนั้น...เราจำเป็นต้องหันหน้าเข้าหาแสงสว่าง

อย่ากลัวว่าเงาจะหายไป..ไม่มีทางจะเป็นไปได้อย่างนั้น

บางเวลามันอาจจะลางเลือน..จนเราเกือบมองไม่เห็น

แต่มันก็ยังคงอยู่ในแบบของมัน

และเราก็ไม่ควรพยายามลบลืมมัน..ด้วยเหตุผลอย่างเดียวกันนั้น

เราจะก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าอย่างถูกทางได้อย่างไร

ถ้าสายตาและหัวใจเรา..ยังมองอยู่ข้างหลัง?

อันที่จริง..เราก็ควรมองดูข้างหลังบ้างนะ..แต่ไม่ใช่เพราะพะวักพะวงกับเงา

เราควรเหลียวมองเพื่อทบทวนว่า เส้นทางที่ผ่านมานั้น..

เราได้หลงลืมอะไรไปบ้าง?

ซึ่งมีประโยชน์และควรเก็บเกี่ยวเอาไว้

แต่ก็ไม่ใช่เพื่อให้เราหาทางกลับไปไขว่คว้าอีกนั่นแหละ..

เพราะนั่นก็เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เช่นกัน

บางทีสิ่งที่เราควรทำและทำได้..

คงเป็นการมองหาสิ่งที่เคยผิดพลาดคราวก่อน..ในเวลาปัจจุบัน

เพราะเมื่อเราไม่พลั้งพลาดในเวลาปัจจุบันแล้ว..

ในเวลาที่วันพรุ่งนี้เดินทางมาถึง..วันนี้ของเราก็คงกลายเป็นอดีตที่สวยงาม

ที่มองกลับไปครั้งใด..ก็สมบูรณ์และน่าชื่นชม"

http://youtu.be/S_7Ps0lDvCo

หมายเหตุ ..สี่บรรทัดแรกจาก ลุงวินทร์ เลียววาริณ
ขอบคุณสาระดีจากคุณตาเทวดา....ค่ะ
ขอบคุณเพลงเพราะๆ จาก YouTube.


หัวข้อ: Re: อึ้ม! จะเล่าให้ฟัง....
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 19 กรกฎาคม 2553 06:34:27
มนุษย์เป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้น
แล้วมนุษย์ก็ทำให้บรรยากาศอันสวยงามของธรรมชาติหมดไป
ใครๆ ก็อยากมายลโฉมธรรมชาติอันงดงาม และเงียบสงบกันทั้งนั้น

ฟ้าเริ่มสาง..กลุ่มหมอกปลิวว่อนอยู่เหนือผิวน้ำ เสมือนอยู่ในสรวงสวรรค์ไม่มีผิด
ในม่านหมอกที่ปลิวไสว มีหงส์สีขาวและดำหลายคู่ลอยวน
เหมือนดินแดนแห่งเทพนิยายในฝัน..จริงๆ

หงส์ลอยมาเป็นคู่ๆ………เห็นแล้วอิจฉาสิ้นดีเลย………
แต่มิตรภาพของเพื่อนๆ
ก็ทำให้เราคลายความเหงาได้เช่นกัน

(http://www.bloggang.com/data/euthanasia/picture/1228040977.jpg)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 19 กรกฎาคม 2553 09:26:37




(http://photos.xihalife.com/wallpapers/images/186_640.jpg)

ขอบคุณนะคะ...



หัวข้อ: Re: อึ้ม! จะเล่าให้ฟัง....
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 19 กรกฎาคม 2553 11:03:32
(http://p.webshots.com/ProThumbs/41/54941_wallpaper280.jpg)

เช้าวันใหม่กับอ้อมกอดแห่งความฝัน

อุ่นไอรายล้อมดั่งสายหมอกตัดผ่านแสงตะวันสีรุ้ง
ยามเช้าและการสัมผัสในห้วงแห่งความหวั่นไหว ว่างเปล่า

บางครั้งจิตใจที่แข็งแกร่งกลับอ่อนโยนและฉ่ำชื่นเหมือนหยดน้ำค้าง
และในขณะเดียวกัน หลายครั้งที่อ่อนแอเกินไปจนไม่อาจหยัดยืน….

การเริ่มต้นของวันใหม่..
คงไม่ได้แตกต่างกับการเริ่มต้นของชีวิต

ยามเช้าที่สดใสกับชีวิตที่ผลิบาน
อากาศที่แสนบริสุทธิ์กับชีวิตที่งดงาม

การก้าวล่วงแห่งเวลา สิ่งที่ดำเนินไปค่อยๆผ่าน
ช่างบอบบาง สดใส และงดงาม

ผ่านผันจนเข้มแข็งทรงพลังแห่งอุดมคติที่ร้อนรุ่ม
เปลี่ยนไปจวบจนว่างเปล่าและหวาดกลัว

หวั่นไหวทั้งกายและใจ ในความเงียบ
ไม่มีวันใหม่ในวันพรุ่งอีกแล้ว..

เมื่อความมืดครอบคลุมและโอบรัด
ลมหายใจของกาลเวลามองผ่านชีวิต

ความอบอุ่นจากความเดียวดายที่เรียกหา
แอบอิงแผ่วเบา และงดงาม..

…………หนุ่มใต้ใจดี…………

(http://www.design-warez.ru/uploads/posts/2009-10/1255029247_42421591_1239533609_37625247_achtergrond.gif)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 06 สิงหาคม 2553 11:41:38
ยามสายของวันหนึ่ง..
ในวันที่ฟ้าสว่างไสวกับสายลมที่พัดแผ่วเบา
กลิ่นอายของยามเช้าที่เพิ่งผ่านพ้นไป..ยังคงหอมกรุ่น

หยดน้ำค้างเล็กๆ ยังพอทำให้ชุ่มชื่นอยู่บ้าง
ก่อนที่มันจะระเหยไปกับกาลเวลา
วันต่อวัน...

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/925/13925/images/ans222086.jpg)

ยามเช้าและยามสาย
สิ่งที่บอกได้ถึงความแตกต่างของวิถีเฉกเช่นชีวิต
การเปลี่ยนแปลง…ความเบื่อหน่าย

…ในบางขณะที่เดียวดายลำพัง

…ในบางขณะที่ด้วยกันตลอดเวลา

(http://sl.glitter-graphics.net/pub/1024/1024014p7fz7jhlrw.gif)

ถ้วยกาแฟใบเดิมที่ยังวางอยู่
หนังสือเล่มเก่าๆเล่มนั้นที่อ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เก้าอี้สีขาวผุพัง…

ดอกกุหลาบสีชมพู 
เริ่มเหนื่อยล้าที่จะเบ่งบาน
กลีบเล็กเล็กเริ่มที่จะโรยรา..ร่วงหล่น
มันคงไม่แยแสในดวงอาทิตย์ที่สาดแสง
และคงไม่อาจรอแสงจันทร์อันงดงามนั้น
ไม่รออีกแล้วคนดูแลรดน้ำพรวนดิน
ไม่ต้องการผีเสื้อตัวเดิมที่ดอมดมเกสรในยามเช้าของทุกวัน…………

(http://farm4.static.flickr.com/3300/3573228320_30ed246a96.jpg)

มันช่างแตกต่าง..
ในขณะที่ยามสายของวันหนึ่ง
กาแฟถ้วยเดิมยังคงวางอยู่
และหนังสือเล่มนั้นยังคงถูกเปิดอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า..………

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/995/19995/images/oop/er/ero/09.jpg)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 06 สิงหาคม 2553 16:48:15
(http://byfiles.storage.live.com/y1p-kEyW86nioaKyWQ2FXdjppJRngOBU7H27vINnZTK4_j4EUXcETBvoGWgYkb0b-MuPnT9fufg-Cc)


 ;D ;D ;D ;D ;D





หัวข้อ: Re: แสงทองในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 19 สิงหาคม 2553 20:02:00
หากอยากให้ความฝันเป็นจริง
อย่านอนนิ่งลุกตื่นฟื้นใหม่
ตามเส้นทางเดินดำเนินไป
ก้าวเท้าเข้าใกล้ย่อมได้มา

พบเจอพลัดพรากหลายหน
กี่คนคุ้นเคยได้คบหา
ร่องรอยทรงจำในสายตา
เยียวยารูปร้างระหว่างรื้อ

รับรู้ว่าทุกสิ่งล้วนผันแปร
เป็นความเที่ยงแท้ที่ยึดถือ
เฉกเช่นสายลมในกำมือ
เพียงชื่อและนามคอยตามเตือน

ตะวันรุกไล่สลายหมอก
ชะล้างช้ำชอกคลายเคลื่อน
เว้นที่รอคอยผู้มาเยือน
ณ เรือนแห่งหวังกำลังใจ

…………………….
วรรณ วริญญา


(http://bms.24open.ru/images/b201bf50b87338ede90afdf3975a2ca0)



หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 03 กันยายน 2553 10:18:14
ตะวันสาย ปลายนา ไม่ว้าเหว่
กาเหว่าร้อง กู่ไกล จากชายทุ่ง
หมอกยามรุ่ง ห่อหุ้ม คลุมบ้านป่า
ฝูงนกยาง เหินเวหน บนนภา
ลมเหน็บหนาว เข้าทักทาย กายสะท้าน
ทรวงหวั่นหวั่น วูบไหว ให้หม่นหมอง
ฤดูเปลี่ยน เวียนผัน ตามครรลอง
ความคาดหวัง เหมือนฝัน ยังวนเวียน
วันนี้คือ พรุ่งนี้ ของวันก่อน
สายธาร กาลเวลา ผันเปลี่ยน
ตรึกตรองมอง ดูเพื่อน รู้เรียน
เฝ้าขีดเขียน ตำนาน แห่งวันวาน


(http://news.trekaseen.com/wp-content/uploads/2010/11/DSC_1904.jpg)



หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 03 กันยายน 2553 14:12:27

(http://thummada.com/php_upload4/autumn1.JPG)


ใบไม้เปลี่ยนสีสันในวันหนาว
ดั่งส่งข่าวความเปลี่ยนแปลงแห่งโลกหล้า
เขียวส้มแดงเหลืองลออต่อสายตา
ยืนต้นท้าลมหนาวทุกคราวปี

แต่หัวใจของฉันนั้นเที่ยงแท้
ไม่ผันแปรเช่นใบไม้หลากสี
ยังคงรักศรัทธาปรารถนาดี
ทุกถิ่นที่เส้นทางยังคงทน

pilgrim


(http://thummada.com/php_upload4/Copy%20of%202145217170_671f873d88.jpg)
http://www.thummada.com/cgi-bin/iB315/ikonboard.pl?act=ST;f=14;t=1783;st=80 (http://www.thummada.com/cgi-bin/iB315/ikonboard.pl?act=ST;f=14;t=1783;st=80)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 04 กันยายน 2553 16:39:42
พระอาทิตย์ฉายแสงแห่งอรุโณทัย
สลับกับ
พระจันทร์ที่ทอแสงเรืองรองอยู่บนฟากฟ้าไกล  
นี่คือ
วัฏฐจักรแห่งกาลเวลา

(http://img0.liveinternet.ru/images/attach/c/0//47/187/47187640_ch.gif)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 07 กันยายน 2553 11:48:20
(http://funlove.at.ua/_ph/107/2/277141118.gif)

ยามรุ่งสาง
บนระเบียงริมชายหาด...
เธอทอดสายตาเหม่อมองไปยังท้องทะเล เบื้องหน้า...
น่าแปลก..ที่เขากลับรู้สึกว่าสายลมนั้น..ได้พัดพาเอาความเศร้าเข้ามาด้วย

เสี้ยวหน้าทางด้านข้างของเธอดูสวยจับตา...
ดวงตาเรียวยาวสีน้ำตาลถูกล้อมกรอบด้วยขนตางอนหนาเป็นแพ
จมูกโด่งเป็นสันพองามทอดรับกับริมฝีปากอิ่มสีแดงระเรื่อ
คางเล็กๆ นั้นทำให้ใบหน้าของเธอดูจิ้มลิ้มพริ้มเพรา
ผิวขาวเนียนละเอียดมีเลือดฝาดดูผุดผาด
เธออยู่ในเสื้อเชิ๊ตสีขาวตัวยาวเพียงครึ่งขา

เส้นผมที่พริ้วไหวนุ่มละมุนราวกับกลุ่มไหมเนื้อดี
ผมสีน้ำตาลอ่อนยาวสยายถึงกลางหลัง
ปลายผมเป็นเกลียวคลื่นเล็กๆ ดูยุ่งเล็กน้อย
เธอดูสวยบอบบางน่าทนุถนอมแต่กลับดูเซ็กซี่อย่างน่าประหลาด

- -โฮ่งๆๆ โฮ่งๆๆ - -

เจ้าวิกส์เห่าเสียงดัง ชายม่านไหวพึ่บพั่บ
แต่ยังคงนอนหมอบอยู่หน้าประตูดูนายของมันนั่งเศร้า..
มันจ้องมองอย่างเหงาหงอย มันคงรู้สึกเศร้าและหดหู่ตาม

(http://fantasyflash.ru/anime/newy/image/newy97.gif)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 20 ตุลาคม 2553 19:42:12
(http://wallpaper.yenta4.com/pic/thumbnail/11/69/154f52dc6b8235db8c162d4187bfe6ac.jpg)

เถาเครือดาว …ความสุขที่เลือกได้

เถาสีเขียวเข้มเดินทางมาถึงกึ่งกลางตะแกรงเหล็ก
ใบคล้ายรูปหัวใจและใยม้วนคล้ายมือจับเกาะลวดไว้แน่น
ได้แค่สั่นไหวเมื่อมีลมพัดผ่านมาทักทาย
ยอดเรียวเขียวอ่อน ชวนให้คันมือ

นึกอยากเด็ดยอดงามมาใส่มาม่าสักมื้อ
แต่พอนึกถึงถิ่นที่อยู่และรากกำเนิด กลับทำให้ต้องชะงักมือไว้
เสียดาย…ตำลึงต้นนั้นไม่น่าเลือกถังขยะใบนี้เป็นที่พักพิง

แวบหนึ่งในสำนึก
คล้ายได้ยินเสียงใครสักคนแว่วมา
“ผู้หญิงก็เหมือนไม้เลื้อย ใกล้อะไรก็เกาะอย่างนั้น”
สำนวนนี้มักจะถูกใช้ในแง่ลบ
เปรียบไม้เลื้อยเหมือนผู้หญิงใจง่าย

หากจะมองในอีกแง่ของจิตวิทยาทางเพศคือความจริง
ผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนโยน อ่อนไหวและต้องการที่พักพิงมั่นคงแข็งแรง

หากเมื่อใดที่ได้ตกลงปลงใจเลือกคนที่ยึดเกาะไว้ร่วมชีวิตแล้ว
ก็จะมั่นคงและสัตย์ซื่อต่อคนที่เธอได้ฝากชีวิตนั้นไว้ตลอดไป

บ่อยครั้งที่ไม้เลื้อยบางต้นต้องเหี่ยวเฉาและบางครั้งถึงกับตาย
เมื่อย้ายเธอไปเกาะสิ่งอื่นจากสิ่งที่เธอเคยยึดเหนี่ยว
“ยอมตายเสียดีกว่า ถ้าให้ฉันเปลี่ยนใจ”

ผู้หญิงหลายคนก็เด็ดเดี่ยวเช่นนั้น
ลองได้ลงหลักปักฐานกับใครสักคนไปแล้ว
จากหนึ่งย่านแตกขยายจนเป็นกอเถาเขียวครึ้มคลุมครึ่งตะแกรงถังขยะ
มันคงเติบโตขึ้นด้วยน้ำปุ๋ยอินทรีย์จากสิ่งปฏิกูลที่ใครๆ พากันมาทิ้งไว้ที่นี่

ใบเขียวสด ยอดเขียวอ่อนชวน ล่อตา ล่อใจ
แต่ไม่มีใครสักคนกล้าเด็ดมากิน
จนวันคืนล่วงผ่าน ตราบเช้าวันหนึ่ง
ดอกขาวพราวห้าแฉกบานเด่นโดดขึ้นจากเถาใบเขียว

“ ตำลึงออกดอกเป็นดาว ! ”
ฉันอุทานในใจ

ยิ่งลองไล้ไปตามเรือนยอด ยิ่งเห็นความสวยงามและอ่อนช้อยของเถาตำลึงและเรียวดอก
ดอกดาวสีขาวและเถาใบสีเขียวแต่งตะแกรงถังขยะ
ให้ดูคล้ายกระเช้าของขวัญใบโต

ขณะภายในนั้นล้นไปด้วยขยะและสิ่งปฏิกูลเน่าเหม็น
จะมีสายตาคู่ใดชื่นชมดอกตำลึงข้างถังยะเหมือนที่ฉันมองไหม
แค่ดอกไม้ดอกเล็กๆ ที่บานอยู่ท่ามกลางขยะเหม็นโชย
สีขาว ไม่อาจช่วยให้มันดูบริสุทธิ์ชวนชมในสายตาผู้คน
เมื่อรากและที่พักพิงของมันอยู่กับสิ่งที่ใครๆ ต่างพากันรังเกียจ !
บางชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเติบโตอย่างงดงามได้

เช้านี้ ฉันเลือกที่จะมองข้ามถังขยะ
เอาใจไปใส่ให้กับดอกตำลึงรูปดาวดวงนั้น

พรุ่งนี้และวันต่อไป
ฉันคงจะได้เห็นเถาเครือดาวบานสะพรั่ง
นั่นเป็นความรื่นรมย์และสุขเล็กๆ ของฉันในวันนี้
โดยที่ไม่ต้องเด่นหาเอาจากที่ใดเลย…

Posted by ดาวปลาตะเพียน

(http://dookdik.kapook.com/upload/whatsnew/33592.gif)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 20 ตุลาคม 2553 22:30:25
จากเรื่องเถาเครือดาว ความสุขที่เลือกได้ (rep บน)

ผมชอบอารมณ์ขันเล็ก ๆ ของผู้แต่งตอนต้นเรื่องที่ว่า


อ้างถึง
นึกอยากเด็ดยอดงามมาใส่มาม่าสักมื้อ

แต่พอนึกถึงถิ่นที่อยู่และรากกำเนิด กลับทำให้ต้องชะงักมือไว้


อ่านแล้วถึงกับยิ้มเลยทีเดียว

แต่เอ... จะมีใครนั่งอมยิ้มเหมือนผมไม๊นะ

หรือเราขำไปคนเดียว

55555




หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 21 ตุลาคม 2553 21:19:26
(http://www.yenta4.com/cutie/upload/581/1581/4b68060a31929.jpg)

นกขมิ้นเหลืองอ่อน
นกก็ต้องบินไปเพื่อเรียนรู้โลกกว้าง
บินไปเรื่อยๆ บางทีก้บอกตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่า

บินไปไหน   ไปทำไม..
เหนื่อย....แต่ก็ไม่เคยหยุดบิน
เพื่อนฉันอิจฉาที่ฉันได้มีโอกาสได้ออกไปเรียนรู้โลกกว้าง

ในขณะที่เขาไม่เคยออกบินไปไหนเลย
คนเราถ้าออกไปอยู่ไกลบ้านก็จะได้ "ดวงตา" คือมองเห็นโลกกว้าง

แต่ก็จะไม่มี "ราก" คือย้ายไปเรื่อยๆ ไม่ได้หยุด
ในทางตรงกันข้าม ถ้าอยู่กับบ้านก็จะมีราก คือมีความอบอุ่น ผูกยึดกับถิ่นเกิด

แต่ก็จะไม่ได้ดวงตา ไม่ได้พบเห็นอะไรที่แตกต่างจากสังคมคุ้นเคย
ก็เหมือนกับนกขมิ้นเหลืองอ่อน ย้ายรังนอน...

บินไปเรื่อยๆ....ไร้จุดมุ่งหมายที่ชัดเจน
ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะไปไหน แต่ก็ยังคงบินต่อไป
จนมืดค่ำ..เอหรือว่าฉันหลงทาง?

เพลงนกขมิ้นท่อนหนึ่งที่ว่า..

"ยามนี้เราหลงทาง กลางค่ำ
ยินเสียงร่ำ คำบอก เจ้าช่อไม้ดอกเอ๋ย
เจ้าดอก..ขจร..ฉันร่อนเร่พเนจร
ไม่รู้จะนอนไหนเอย..เอ๋ย.โอ้หัวอกเอย"

Posted by คืนรัง


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 26 ตุลาคม 2553 16:08:24
เจ้าพระยาราตรีคลี่ม่านแก้ว นวลจันทร์แวววาววับสลับสวย
คลื่นน้อยน้อยเลี้ยวลดระทดระทวย ลมระรวยร่ายร่ำอยู่ร่ำไป

น้ำค้างค่ำฉ่ำชื้นสะอื้นหล่น หนาวเหน็บจนกายสั่นทรวงหวั่นไหว
แว่วเพลงหวนครวญหามาไกลไกล เสนาะในลำนำหวนคำนึง

ละอองหมอกขาวล่องลอยฟ่องคว้าง คิดยิ่งอ้างว้างจิตยิ่งคิดถึง
หนาวอารมณ์ข่มจิตพิษรักตรึง จากคนซึ่งกำลังไกลจากใจจำ

โดย ธัญญา ธัญญามาศ

(http://www.bloggang.com/data/oley/picture/1185948443.jpg)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 26 ตุลาคม 2553 16:25:09
บทข้างบนเพราะมากเลยครับ

ขอบคุณครับ อ.ขม


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 28 ตุลาคม 2553 09:22:13
สันโดษโดยว้าเหว่การเร่ร่อน รินเพลงพรคลอขับหลับสะอื้น
นกหลงป่าร้อนรนขนเปียกชื้น เย็นหยาดรื้นน้ำค้างกลางหมู่ดาว

เมื่อขอบฟ้ารอบข้างยังกว้างอยู่ สำนึกรู้ปีกเจ็บและเหน็บหนาว
รู้ว่าเหนื่อยรู้ว่าล้ากว่าทุกคราว แต่การก้าวกลับหลังยังไม่มี

เปิดโอกาสให้ตามความจองหอง หากจะต้องตายเพราะสู้บินอยู่นี่
ให้มันซ้ำให้มันสามากกว่านี้ ทุกสิ่งที่ประทับรอยคับแค้น

เมื่อดวงดาวทิศนี้หรี่แสงโรจน์ ตัดสินแรงหฤโหดให้โลดแล่น
แสวงหาแม่บทไว้ทดแทน แผลลึกแก่นสันดานที่ผ่านมา

ขอบฟ้ายังกว้าง..โดย สรสิทธิ์ สุนทรเกศ

(http://www.design-warez.ru/uploads/posts/2009-11/1258766602_lebedka.gif)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 29 ตุลาคม 2553 07:55:05
อรุณอุ่นแรงแสงแดดคม ปลิดทิ้งใบสักถมทับทวี
เพื่อดอกจะผลิผลจะเผย ลูกเอ๋ยใบใดใครเป็นพี่
เลือดเนื้อของแม่คนดี ยอมพลีชีวิตอุทิศคล้อย

บางกิ่งของแม่แก่ระกะ ก็จะตามเจ้าอย่าเศร้าหมอง
กล้าเกิดกล้าตายอย่างไตร่ตรอง กล้าปองปรารถนาค่าแห่งตน
เพียงไม้ กวาดไม้ กระจายกลิ้ง กรวดทรายพรายพริ้งขึ้นอีกหน

สัมผัสแห่งเท้าเพรากมล โลกยิ้มแยบยลลมชื่นเย็น
ร่มลานอาศรมกับใจใส รุ่มร้อนใดใดมิได้เห็น
พิงสักพักไม้กวาดปาดเหงื่อกระเซ็น ร่วงเป็นกวาดเห็นแก่นสุขแท้

โดย ศิวกานท์ ปทุมสูติ

(http://www.design-warez.ru/uploads/posts/2010-02/1265195724_70fd954780c4.gif)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 30 ตุลาคม 2553 09:54:47
ศรัทธาแห่งเธอคือน้ำค้าง เปราะบางบนใบหญ้ายอดเขา
หวาดแดดหวั่นลมรุกเร้า จึงหวังยุดฉุดเช้าให้ยาวยืน

เธอก้าวเข้ามาถึงครานี้ ไม่มีไม่เห็นเส้นทางอื่น
จนหายไปในฉันและวันคืน กลืนทั้งชีวิตจิตวิญญาณ

น้ำค้างที่รักของใบหญ้า ที่สุดแดดจ้าจักพร่าผลาญ
หรืออาจบางทีมิช้านาน ความเป็นเราจะร้าวรานเพราะตั๊กแตน

ฉันอยากให้เธอเตรียมใจ วันหนึ่งเราจะไร้กันไกลแสน
ทั้งมิอาจกำหนดสิ่งทดแทน นอกจากแก่นชีวันแห่งมรรคา

เรามีกันและกันในวันนี้ เพื่อไม่มีกันและกันในวันหน้า
ฝึกไม่มีทั้งที่มีอยู่ปรีดา เพื่อยิ้มกับน้ำตาเมื่อลาร้าง

เธอก้าวเข้ามาแต่ครานั้น ในทางที่ฉันสรรค์สร้าง
ยอมพลีชีวิตอุทิศวาง ให้ฉันนำทางทุกย่างก้าว

อย่ากลัวแดดแรงเลยที่รัก แดดจะฟักฟูมเธอ..อกฟ้ากว้าง
ฟ้าโอบกอดน้ำค้างบนยอดหญ้าเสมอมา ให้มนุษย์เห็นซึ่ง " สั จ ธ ร ร ม "

โดย ศิวกานท์ ปทุมสูติ

(http://variety.teenee.com/saladharm/img9/75233.jpg)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 01 พฤศจิกายน 2553 13:08:18
กอดฉันไว้แน่นแน่นนะแขนน้อย เราจะลงเรือลอยสานฝันเกี่ยว
จะพาเธอเลาะลัดตัดคดเคี้ยว ประเดี๋ยวก็จะถึงบึงเวิ้งว้าง

ที่นั่นตะวันรุ่งจะเรืองแสง รอนักเสาะแสวงดวงใจสว่าง
นกฟ้ากาน้ำจะนำทาง ไปสู่ความลึกกว้างอันพร่างพราย

ระวังนะที่รักกายใจเรา เนื้อเรามิใช่เหล็กบอบช้ำง่าย
พบมัจฉาปลาปูอย่าดูดาย อาจบางทีคิดร้ายทำลายเอา

กอดฉันไว้แน่นแน่นนะแขนน้อย เรือจะคล้อยคลองคดและโขดเขา
ลมจะพัดเมฆจะพาฟ้าทึมเทา จะเพียงหยอกเพียงเย้าให้เรายล

ดูโน่นสิ..ฟ้าถักรุ้ง เรือฝันกำลังมุ่งไม่สับสน
อยากฝันก็หลับตาเถอะนฤมล ฝันถึงสุขสมใจนะคนดี

โดย ศิวกานท์ ปทุมสูติ

(http://photo.ma-bimbo.com/2/567/moy/452868.jpg)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 01 พฤศจิกายน 2553 15:25:01


(http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2007/06/D5533584/D5533584-39.jpg)

น้ำค้างที่รัก
ด้วยจิตพิสุทธิ์เป็นเดิมพัน

ฉันอยากให้เธอเตรียมใจ วันหนึ่งเราจะ ไร้ กันไกลแสน
ทั้งมิอาจกำหนดสิ่งทดแทน นอกจากแก่นชีวันแห่งมรรคา

เรามีกันและกันในวันนี้ เพื่อไม่มีกันและกันในวันหน้า
ฝึกไม่มีทั้งที่มีอยู่ปรีดา เพื่อยิ้มกับน้ำตาเมื่อลาร้าง

ธมกร [ศิวกานท์ ปทุมสูติ] , ๒๕๔๙

 (:LOVE:)   (:BH:)   (:LOVE:)

(http://www.bloggang.com/data/excuseme/picture/1183211981.gif)
http://www.oknation.net/blog/krugarn (http://www.oknation.net/blog/krugarn)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 03 พฤศจิกายน 2553 10:13:10
(http://i007.radikal.ru/0910/cc/8a290badc922.gif)

รุ่งสาง..
พระอาทิตย์เหนือท้องทะเลตรงเบื้องหน้า...เปล่งแสงแรกทาทับขอบฟ้า..
ขับให้ปุยเมฆ ขาวละมุนมีสีเหลืองแซมทองดูสวยอร่ามตา
ในยามเช้า แสงแดดอ่อนๆ โลมไล้ผิวกาย ทำให้ใบหน้าดูมีเสน่ห์ชวนมอง
ในความทรงจำ..แม้เคยเลือนลางคล้ายความฝัน..กลับชัดเจน
ด้วยความรู้สึก..ออกมาจากหัวใจ
เสี้ยวหน้าทางด้านข้างของเธอดูสวยจับตา...
ดวงตาเรียวยาวสีน้ำตาลถูกล้อมกรอบด้วยขนตางอนหนาเป็นแพ
จมูกโด่งเป็นสันพองามทอดรับกับริมฝีปากอิ่มสีแดงระเรื่อ
คางเล็กๆ นั้นทำให้ใบหน้าของเธอดูจิ้มลิ้มพริ้มเพรา
ผิวขาวเนียนละเอียดมีเลือดฝาดดูผุดผาด

แม้ว่าขณะนี้เธอจะดูนิ่งเงียบและสง่าดั่งนางพญา...
แต่เขาก็ต้องยอมรับกับตัวเองว่าเดาอารมณ์ของเธอไม่ออกในบางคราว
แม้ว่าเขาจะเป็นคนสนิทและรู้ใจเธอมากที่สุดก็ตาม

กลิ่นหอมของดอกมะลิสีขาวผสานความสดชื่นของใบเปเปอมินต์
กรุ่นกำจายลึกเข้าไปในใจ กลิ่นกายของเธอหอมอบอวลอยู่ในความรู้สึกไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ความคิดถึง วัน-เวลา ที่เคยอยู่ด้วยกัน วันเวลาเหล่านั้น เป็นช่วงเวลาที่แสนงดงาม

(http://akartinki.narod.ru/215651321/Pic_235.gif)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 03 พฤศจิกายน 2553 13:23:20
ขอบคุณครับ อ.ป้าแป๋ม อ.ขม

ที่มีสิ่งดี ๆ มาให้ได้อ่านกันตลอด


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 04 พฤศจิกายน 2553 11:01:31
ดาราเคลื่อนคล้อยลาลับปลายขอบฟ้า
เป็นสัญญาณของวันใหม่กำลังเริ่มต้นแล้ว
หมู่วิหกออกหาอาหารให้ลูกน้อยยามรุ่งสาง
ธรรมชาติได้สร้างสมดุลให้กับสรรพสิ่งต่าง ๆ ดำรงชีพอยู่ร่วมกัน

(http://apichoke.com/index.php?action=dlattach;topic=11375.0;attach=46691;image)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 05 พฤศจิกายน 2553 07:07:51
   ระยิบระยับกระหยับริ้ว
    ใบไม้พลิกพลิ้วรับแดดสาย
    ดอกแดดบานดวงดาษระบาย
    บางบานแล้วหายไปลึกลับ

    ดอกไม้ทุ่งนั้นฝันเจ้าหญิง
    ขวัญคว้างประวิงจนหวั่นไหว
    ลมหมุนฝุ่นฝ้ามารำไร
    กลิ่นไอถนนราวเชื้อเชิญ

กวี...กวิสรา
ภาพ..www.playcast.ru/playcasts/view.php?card=69746 (http://www.playcast.ru/playcasts/view.php?card=69746)...
(http://www.playcast.ru/uploads/2008/09/16/679230.gif)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 06 พฤศจิกายน 2553 07:34:21
เม็ดน้ำค้างหยอดดังเปาะเปาะ
ระรินเซาะตามร่องมารวมสาย
หยาดหยดแตกช่อบนบ่อทราย
สาย..สาย แดดจ้าม่านฟ้าใส

เพลงของนกน้อยกลางลมเปลี่ยว
จากฝั่งภูเขียวลำนำขับ
กล่อมขวัญเจ้าหญิงดังกำชับ
ซับเถิดซึมซับก่อนจากไกล
   
กวิสรา
(http://gifzona.com/i/masters/insomnia/025.gif)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 07 พฤศจิกายน 2553 23:40:48


(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcR6-LTtq2g47abVlb-SZ5KXIpC5ktdFJvNaY2eipk9Q7K8ruLU&t=1&usg=__JPeHPrwlLdIDn24VUXflGY1O0FY=)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 09 พฤศจิกายน 2553 18:16:20
ขอเสริมส่งแรงใจให้ตามฝัน
ลืมตาพลันทุกอย่างจงสุขสม
ฝากกระซิบซึมซับกับสายลม
เป่าระทมพัดผ่านอย่าแผ้วพาน

แม้เส้นทางข้างหน้านั้นว่างเปล่า
จงเก็บเอาแรงใจเข้าผสาน
จิตตั้งมั่นก้าวเดินผ่านเหตุการณ์
คงไม่นาน ฝันนั้น จักเป็นจริง......
 
ไปเถิดไปตามรอยแสงตะวัน...
ไปค้นหาความฝันอันเฉิดฉาย
กลีบดอกหญ้าจักเบ่งบานยิ้มทักทาย
นั่นทางสายใหม่ มีมากมายให้เราเดิน...

โดย : ลมพัดชายทุ่ง : pu_chiangdao

(http://gifzona.com/i/masters/insomnia/003.gif)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 09 พฤศจิกายน 2553 20:25:11
เพราะมากครับ

ชอบท่อนจบ เป็นพิเศษ มันดูอบอุ่น ๆ ให้กำลังใจชีวิตดี

อ้างถึง

ไปเถิดไปตามรอยแสงตะวัน...
ไปค้นหาความฝันอันเฉิดฉาย
กลีบดอกหญ้าจักเบ่งบานยิ้มทักทาย
นั่นทางสายใหม่ มีมากมายให้เราเดิน...



 (^^) (^^) (^^) (^^)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 10 พฤศจิกายน 2553 12:07:01
กรุ่นดอกไม้มาแต่ไกลในม่านฝัน
ท่ามกลางแสงตะวันสาดทุ่งหญ้า
สีทองละอองไอไล้ลงทา
เผย“ปีบ” แห่งปรารถนาของใครกัน

ขาว .. ดั่งดาว ซึ่งเปล่งแสง
สวย .. ดั่งแสร้งให้ไหวหวั่น
หวาน .. เนิ่นนานจวบนิจนิรันดร์
หอม .. ชีวิตนั้น มิอาจลืมเลือน

วอนฟ้า..อย่าได้ทำเสียงขรม
วอนสายลม..อย่าเพิ่งเริ่มคลี่เคลื่อน
ให้คงที่ เช่นนี้เป็นปีเดือน
อันเสมือนดอกไม้ไม่โรยรา

“ปีบ” สีขาว จากบางใครได้ยิบยื่น
ฝันทั้งตื่น เฝ้ามอง “ปีบปรารถนา”
หอมคลับคล้ายความรักกำลังมา
ไหววาวในดวงตาจนตรึงใจ

“ปีบ” ดอกนั้น เหมือนฝันอันสดชื่น
นี่ใช่การหยิบยื่นความรักไหม?

กวิสรา - สิงหาคม 2553
บันดาลใจจากบทกวี ** “ปีบปรารถนา” อังคาร จันทาทิพย์
(http://www.bloggang.com/data/link-conner55/picture/1255092861.jpg)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 10 พฤศจิกายน 2553 19:51:01
โอ้ อันนี้เพราะมากครับ

ภาพยิ่งสวยครับ ดอกปีบ สวยงามมาก

(http://board.goosiam.com/imgupload/q098484.jpg)


 (^^) (^^) (^^) (^^)



หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 17 พฤศจิกายน 2553 10:46:59
แววตาแห่งความเหงา น้ำตาแห่งความเศร้า และเงาของเธอ

ลาแล้ว ... เงาเจ้าเอย ... กล้ำกลืนน้ำตาของเงาอดีต

รุ่งสาง เมื่อจันทร์ลาลับไป ..

แสงตะวันนำความอบอุ่นมาแทนที่..ลมหนาวและดาวเดือน

ตะวันนำความอบอุ่นมาให้เสมอ

แล้วใยเล่า..ฉันถึงเมิน..เงาตน

(http://dc193.4shared.com/img/370963386/7eab0f2e/s3/9811f96a8187.gif)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 19 พฤศจิกายน 2553 12:26:24
". . เ พื่ อ น . . "

เธอคือทุกสิ่ง เป็นแรงบันดาลใจเป็นทุกๆอย่าง

เธอเชื่อมโยงให้ฉันเห็นภาพของชีวิตที่สวยงาม แม้ว่าเรายังไม่ทันได้รู้จัก..กันเลย

ไม่มีเรื่องราว..ไม่มีอะไร..ไม่มีเหตุผล..หรือที่มาที่ไป

เธอจะเชื่อฉันไหม ?... ต่อความจริงใจ

กับเสียงลม...ที่พูดแทนหัวใจฉัน..ว่า " ห่ ว ง ใ ย "

(http://img1.liveinternet.ru/images/attach/c/2//66/364/66364311_60801824_206jpg.jpg)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 19 พฤศจิกายน 2553 12:30:34
 (:SY:) (:SY:) (:SY:) (:SY:) (:SY:)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 20 พฤศจิกายน 2553 16:21:21
ฟ้าใสใสดูคลายสบายจิต
ไม่ต้องคิดปรารถนาพาสับสน
วันที่ผ่านเหมือนไขว่คว้ามุ่งหวังจน
ลิขิตตนยุ่งยากตรากตำงาน

มาได้พบมุมสบายให้คลายจิต
ให้ทั้งคิดทั้งเขียนเพียรเฉิดฉาย
จินตนาการความฝันผ่านอักษร
ร่ายกาพย์กลอนสะท้อนสอนใจตน

(http://topgif.narod.ru/i/mobile/04.gif)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 22 พฤศจิกายน 2553 12:35:21
(http://www.chiangraifocus.com/webboard/Apic/Q2739-1244180030.jpg)

เราต่างตื่นยามแสงอรุณส่องสาดกระทบ
และดวงตาก็พร่าเลือนเกินกว่าจะมองเห็น
เพื่อออกไปต่อสู้ดิ้นรนค้นความหมาย
ทางรอด และการมีชีวิตอยู่
ในยุคสมัยแห่งความแล้งไร้โรยรา
เศษกระดาษปรายโปรยอย่างสูงค่าจากร่มไม้ตีตรา
มนุษย์, คนแล้ว คนเล่า
เสพติดกับความเลิศเลอของตัวตน
จิตวิญญาณถูกละทิ้งไปตามกระแสธารประจำวัน
เราก้าวเท้าซอยขาเด่นอย่างไม่ลดละ
เพื่อแซงหน้า และเอาชนะ
เหยียดติ่งหางตาหยามหยันขอทาน ผู้เร่ร่อน
ถากถุยถ่มทับถมทั้งทั้งที่
แม้เพียงเศษเหรียญสีทองเล็กจิ๋วมิเคยหลุดร่วงจากกระเป๋า
เพื่อต่อชะตาชีวิตอันแสนสั้น โศกเศร้า
เราก่อร่างสร้างชีวิตด้วยเครื่องประดับทางฐานันดร
แต่งแต้มใบหน้าด้วยหน้ากากพลอยเพชรแวววับ
ฉีกยิ้มสู่ความโก้หรูของปัจเจกชนโดดเดี่ยว
ห้วงยามนั้น
ชีวิตอาจยังไม่ถูกค้นพบ

หรืออย่างไรวันหนึ่ง,
คำตอบอาจมาถึงเมื่อเราเผยอยิ้ม
ให้กับริ้วคลื่นสะท้อนเงาจันทร์เป็นเสี้ยวแสง
อันใดจะเพียงพบความสุขล้น
เช่นหลับตาเพื่อพินิจความงดงาม.

(http://image.ohozaa.com/i8/animalsmile.jpg)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 22 พฤศจิกายน 2553 21:09:41
ขอบคุณครับ อ.ขม

ยิ่งรูปหมากับแมวยิ้มนี่น่ารักมาก


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 27 พฤศจิกายน 2553 16:37:13
(http://img2.pict.com/c0/0c/1e/1739023/0/0017.gif)

เสียง..
ฟ้าหัวเราะ..ลั่น
ทะเลหัวร่อ..ร่า
เกลียวคลื่นซัดสองฝั่ง
กระแสคลื่นโหมกระหน่ำ
ความชุ่มชื้น มีขุนเขาและแดนดิน
ใครแพ้ใครชนะ เราเท่านั้นที่รู้
ภูเขาส่งยิ้มผ่านสายฝนในแดนไกล
โลกใบนี้สวยงามมากเพียงใด...ลองคิดดู

(http://dl9.glitter-graphics.net/pub/411/411759xal21eor5o.gif)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 07 ธันวาคม 2553 09:38:44
(http://m.sibir.bg/uploads_bg/img/0149991/img_149991_693454_l.jpg)

**  สายธารแห่งชีวิต  **

บนเส้นทางยาวไกลที่ไหลผ่าน
กระแสธารทอดเอื่อยเรื่อยเรื่อยไหล
สายลมแผ่วผ่านลึกรู้สึกใน
อ้อยอิ่งไหลไม่ทวนกลับหวนคืน
 
กระทบหินดินทรายเรี่ยรายเกลื่อน
แม้สะเทือนถอยปลีกหลบหลีกฝืน
พายุร้ายรุมกระหน่ำทนกล้ำกลืน
ทำหน้าชื่นแม้อกตรมขื่นขมรอน
 
โตรกผาลึกเหวชันไม่หวั่นหวาด
กล้าผงาดเผชิญคลื่นไม่คืนย้อน
ชั่วนาตาปีไม่มีอาทร
เผยสะท้อนอดีตกาลที่ผ่านมา

อยากหยุดพักสักนาทีไม่มีแหล่ง
ความเปลี่ยนแปลงเร็วไวให้ผวา
คลื่นลูกใหม่เกิดก่อรอเวลา
โถมถลาทับถมให้จมเลือน

ลมหายใจวันนี้ยังมีอยู่
ปักหลักสู้จนสุดสายไม่คลายเคลื่อน
ทอดกายถมท้องธารเพื่อหว่านเตือน
ชีวิตเหมือนหนึ่งธาราสายวารี

อณูทิพย์  ธารทอง  


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 07 ธันวาคม 2553 16:14:29
ขอบคุณสำหรับสิ่งดี ๆ ที่นำมาให้อ่านครับ อ.ขม

 (:SY:) (:SY:) (:SY:) (:SY:) (:SY:)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 15 ธันวาคม 2553 10:36:16
(http://i60.photobucket.com/albums/h20/jiratasai/field-026.jpg)

เหนือทุ่งข้าวพราวรวงช่วงต้นหนาว
เช่นฤดูดวงดาวสกาวสี
แมลงปอล้อล่องทำนองดนตรี
กลางสายลมปลายปีฤดีกาล

ให้ปักเป้าต้านลมชมน่านฟ้า
ด้วยสายป่านชราสง่าตระหง่าน
เสียงหัวเราะไล่เล่นร่มดินลาน
เหล่าเด็กเด็กสนุกสนานมิคร้านพัก

อีกไม่นาน...ข้าวใหม่ใกล้ถูกหุง
โปรยหอมฟุ้งด้วยมือกร้านกับงานหนัก
ฉายแววตาอุ่นอิ่มยิ้มทายทัก
คล้ายให้โลกประจักษ์รักละมุน

คือห้วงยามงามงดและสดสวย
เคลื่อนโลกด้วยสายสัมพันธ์อันหอมกรุ่น
แห่งสายใยก่อเกื้อเอื้อการุณ
ให้โลกหมุนคืนสู่ฤดูคำนึง

บนเปลผ้า เห่...ค่อย ไกวหน่อยนิด
ทำนองเพลงชีวิตชื่อ “คิดถึง”
วัยปฐม มัธยม โหมรำพึง
แสดงความตราตรึงลึกซึ้งขบวน.

(http://lh6.ggpht.com/_Mz_ygd973DY/SEFb5JfAolI/AAAAAAAAAFU/mQyY4SC4WuU/s640/P5220020.JPG)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 17 ธันวาคม 2553 07:23:39

(http://farm1.static.flickr.com/85/233472093_1f1d235e7b.jpg)

 (:88:)  (:88:)  (:88:)

(http://farm3.static.flickr.com/2493/3903128878_a614429692.jpg)



หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 17 ธันวาคม 2553 09:32:07
ในไพรแห่งความรักของมวลดอกไม้ป่า
ปราศจากภาระหน้าที่ ไร้จริต หรือกับดัก
โลกเปี่ยมไปด้วยความไว้วางใจและเปิดกว้าง
ขอความปีติเย็นฉ่ำในหยาดน้ำค้างยามเช้า
สายน้ำเขียวตะใคร่-ท้องฟ้าใส จุดขาว-ขาว แต่งแต้มบนฟ้ากว้าง
เสียงหัวร่อจิตอบอุ่นในลานธรรมสุขใจ...ชื่นฉ่ำเย็น
มนต์เสน่ห์แห่งความรัก-ความสามัคคี..กัลยาณมิตรจิตยินดี กระจ่างธรรม

(http://www.krassota.com/i/deti/02.gif)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 20 ธันวาคม 2553 17:23:02
ขอบคุณมากครับ อ.ขม

ความหมายดี ๆ ทั้งนั้นเลย


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 25 ธันวาคม 2553 10:20:59
รั้วชมพูกับประตูสีเขียว
บ้านหนึ่งเดียวหลังนั้นเฉกฉันเพื่อน
ทั่วมุมมองแห่งหนได้ยลเยือน
ยากจะเลือนลบหายมลายครัน
 
ต้นมะม่วงคือพยานประสานค่า
ใต้ร่มเงาสบตาโน้มพาฝัน
แรงบันดาลจารจดบทประพันธ์
ดุจของขวัญแสนหวงแห่งดวงใจ

โต๊ะม้านั่งหินอ่อนสะอาดตา
สนทนาข้างเคียงเสียงสดใส
แม้บัดนี้ห่างเหินเดินทางไกล
อบอุ่นไอใกล้ชิดยังติดตรึง

กระแสธารเวลาอำลาเลื่อน
วันและวัยก็คล้อยเคลื่อนเสมือนหนึ่ง
ตราบชีวิตล่วงเดินดำเนินซึ้ง
คงคิดถึงครวญอยู่มิรู้คลาย

(http://www.krassota.com/i/deti/03.gif)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 26 ธันวาคม 2553 17:29:24
**  ทะเลกับชีวิต  **

ผองชีวิตกระจิริดนิดน้อย
ที่ล่องลอยเคว้งคว้างหว่างถนน
เพียงสัตว์หนึ่งพึงสำเหนียกเรียกว่าคน
ยังสับสนอลวนในท้องนที

อุปาทานตอกย้ำเป็นอัตตา
ท้องทะเลจรดขอบฟ้าหาทางหนี
แม่น้ำใดเสมอด้วยตัณหาไม่มี
ข้ามชลธารสายนี้ได้อย่างไร

ดำผุดดำว่ายตะกายอยู่เช้าค่ำ
หลงถลำเวิ้งสาครอันกว้างใหญ่
นาวาน้อยลอยล่องเตลิดไกล
พายุคลื่นโถมพัดใส่จวนอับปาง

มองไม่เห็นจุดเริ่มต้นและสิ้นสุด
ก้มงุดงุดดั่งพายเรืออยู่ในอ่าง
เหลียวหน้าหลังวังเวงเริ่มเคว้งคว้าง
หลงเส้นทางตัณหาธาราฤทัย

อณูทิพย์  ธารทอง

(http://www.wallcoo.com/nature/Maldives_vacation/images/Maldives_EP061.JPG)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 08 มกราคม 2554 09:56:56
แดดสีทองสดใสในยามเช้า
เหมือนเร่งเร้าเจ้าสะท้านเบิกบานสม
ทั้งนกทั้งแมลงแข่งดอมดม ราวอาคมมนตราพาผูกพัน

ม่วงชมพูหรูหราสง่าเหลือง
เขียวขาวเบื้องหน้ามีหลากสีสัน
พอบ่ายมวลดอกบัวหุบตัวพลัน พอสิ้นแสงตะวันเหมือนซบเซา

จาก..ไทยโพสต์..

(http://webboard.tourthai.com/index.php?action=dlattach;topic=7114.0;attach=37298;image)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 08 มกราคม 2554 11:11:21




หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: อะเวรา ที่ 10 มกราคม 2554 16:47:58
(http://krassota.com/i/priroda/12.gif)


อีกไม่นานก็เช้า

ลบลืมวันเก่าๆ ทิ้งไว้เบื้องหลัง ...

ในแสงตะวันจ้า เป็นของขวัญจากฟากฟ้า ไว้เป็นพลัง

.... พรุ่งนี้เธอจะยิ้มได้อีกครั้ง...อย่างงดงาม


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: อะเวรา ที่ 10 มกราคม 2554 16:57:38
(http://www.bloggang.com/data/bluerose/picture/1215937630.gif)

เมื่อ...ตะวัน สีทอง ผ่องฟ้าใส

ใบไม้ไหว ตามแรง ลมโชยอ่อน

น้ำค้างพร่าง พราวหล่น อยู่รอน~รอน

อากาศตอน อรุณรุ่ง อุ่นจับใจ


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 10 มกราคม 2554 19:17:10
โอ้เพราะมากครับคุณ อะเวรา

บทเดียวโดด ๆ แต่ลงตัวดีจัง


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 27 มกราคม 2554 09:41:21
ดวงตะวันสีไพลยามฟ้าพลบ
พบสงบสงัดในใจดวงหนึ่ง
เห็นงามเงียบเรียบง่ายให้ตราตรึง
สอนลึกซึ้งรู้วาง  ทางสายกลาง...!


(http://www.bloggang.com/data/sao-aor/picture/1201377893.jpg)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 01 มีนาคม 2554 11:38:22
ในวันที่ฟ้าสวย แม่หญิง  ชม้ายตามอง

มวลบุปผาแย้มกลีบบานดารดาษ เมื่อเธอเผยอริมฝีปาก

นกน้อยและผีเสื้อปีกสวยโบยบินมาจากในนั้น

ขยับตัวแยกย้ายไปทั่วพนาไพร แต่งแต้มสีให้พร้อมบริบูรณ์

เธอพิศดูอย่างชื่นหัวใจ แม่หญิงทอดสายตาแล

(http://i231.photobucket.com/albums/ee34/pornpat_bucket/51thhraene2wego7.gif)

น้ำหยดน้อยย้อยหล่นจากดวงตาดวงใจร้าวราน

หยาดน้ำตามากมายไหลหลั่ง

น้ำตาของแม่หญิงพอกระทบถึงพื้น

ได้กลายสภาพเป็นบึงน้ำใสแผ่ตัวกว้างออกไป

น้ำตายิ่งร่วงหล่นยิ่งเกิดเป็นลำธารน้ำใหญ่น้อย

ไหลเชื่อมสู่แผ่นดินแห้งแตกระแหงทุกทิศทาง

สายน้ำไหลจากบึงสู่ลำธาร กลางบึง

ปรากฏตาน้ำใหญ่ผุดขึ้นหลายแห่ง น้ำใสไหลทะลักล้นเป็นสายพรั่งพรู

แผ่นดินที่แตกระแหงกลับชุ่มชื้น ความเขียวขจีอุดมบริบูรณ์กลับคืนมาเยือนอีกครั้ง

เหล่าสรรพสัตว์เริงร่า มวลบุปผาและหมู่ภมรหยอกล้อเกษมสันต์

นี่คือความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างแม่หญิงกับธรรมชาติ

แม่หญิงเธอเป็นผู้ให้ เป็นสัญลักษณ์ของผู้ก่อกำเนิดโดยแท้จริง


พิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ  ทางและเวลาแห่งความหวัง ,รักและเมตตาวรรณกรรม,

(http://gotoknow.org/file/islandpk/card013.jpg)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 01 มีนาคม 2554 11:57:56
ลับฟ้า ลิบลับ

สุดโค้งขอบฟ้ากว้างไพศาล

ขุนเขาผืนพนาขวางกั้นเหยียดหน้า

กายไกล แล  เหลียวหาไม่เห็น

ดวงใจ ผูกพันธ์รัดตรึงแนบแน่น

หนึ่งเดียวมั่นคงเสมอ

(http://shekynah2.blog.uol.com.br/images/yellowlotus.jpg)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 02 มีนาคม 2554 19:15:32
ขอบคุณครับ

 (:SY:) (:SY:) (:SY:)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 04 มีนาคม 2554 11:40:37
เช้า...สีชมพู

อิ่มอกอิ่มใจในใกล้ชิด
อิงแอบแนบสนิทติดใบหน้า
กระซิบคำพร่ำบอกตลอดเวลา
รักเธอ รักเกินกว่าฟ้าดินมลาย

อยากให้เช้าทุกเช้าเป็นสีชมพู
ทุกฤดูแม้ฤดีจะไกล ใกล้
ปรารถนาฟ้าตรึงห้วงปวงสายใย
มาสอดคล้องร้อยดวงใจเป็นสร้อยมณี...ฯ

"เช้าสีชมพูที่ขณะเวลา...เจ็ดนาฬิกาสิบห้านาที"

กวีจร  ณ  โคราชา
๑ กุมภ์ ๒๕๕๓

(http://i282.photobucket.com/albums/kk242/Rath_Albums/Krajiew/krajiew2ndday28.jpg)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 16 มีนาคม 2554 11:52:56
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/603/44603/images/bamboo2.jpg)

ดอกไผ่บาน
คาราบาว-ปาน

ชายในฝัน เงาในน้ำ เหมือนเมฆลอยอยู่ในอากาศ
ดุจความรัก ที่ไม่เอื้อมอาจ แหวกสายธารไปใกล้ชิดกัน
เมฆบนฟ้าคอยตั้งเค้า เปลี่ยนรูปเงาไม่ยอมหยุดนิ่ง
ใจของคนไหวกว่าทุกสิ่ง เปรียบปอยเมฆผกผันเพียงชั่วยาม

ค่ำบางคืนไม่กล้าเมา แต่คืนนี้เราไม่เมาไม่ได้
เพราะความรักที่พลัดพรากไป ยากเกินใจจะตัดได้ลง
คงเป็นเพราะสวรรค์ไม่ส่ง นรกไม่สร้าง รักจึงจางล้างใจ
เหลือแต่ตัวบาดรักท่วมกาย หล่นจมลงในสายธารที่สิ้นหวัง

กิ่งไผ่ไหวเอน พัดไปตามกระแสลม
ในราตรีที่ขื่นขม โต้สายลมเพียงลำพัง
น้ำค้างพร่างพรู คล้ายหยั่งรู้ความอ้างว้าง
ของราตรีที่เปราะบาง หยาดน้ำค้างต่างน้ำตา

ดอกไผ่บานพยานแห่งรัก บานเพื่อลาจาก เจ้าจงปล่อยวาง
ความเข้มแข็งจะคอยเข้าข้าง ความอ่อนแอจะต้องแพ้พ่าย
ดอกไผ่งามเบิกบานในใจ ยังเฝ้าเก็บไว้เพื่อใครคนนั้น
นานเท่าใดคงไม่สำคัญ จะคอยเติมฝันถึงวันที่ดอกไผ่บาน


(http://www.bansuanporpeang.com/files/images/user2792/100_9257.JPG)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 22 มีนาคม 2554 08:31:47
ดวงอาทิตย์ขึ้นที่ฤดีตื่น
สูดลมชื่นยามเช้าอวลแดดฉาย
กระชับทรวงห้วงขณะพรรณราย
เถิดทางหมายมีเธอค้นเจอธรรมฯ

วัฒนา ธรรมกูร


(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/115/11115/images/002450.jpg)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 22 มีนาคม 2554 11:06:13
โอย... คิดถึง อ.ขม

ช่วงนี้ยุ่งหรอครับ ไม่ค่อยได้เจอ อ.ขมเลย

 (T-T) (T-T) (T-T)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 22 มีนาคม 2554 13:02:04
เข้ากรุงเทพฯไปทำธุระมาค่ะ
และกำลังเรียบเรียง..เรื่องราวที่ไปมา
เสร็จแล้วจะโพสต์เล่าให้ฟังกันค่ะ
ใกล้เสร็จแล้วล่ะค่ะ แบ่งไว้ 5 ตอน

ขอบคุณน้าแม็ก...พี่แป๋ม..ที่นึกถึงเพื่อนใหม่คนนี้

"คิดถึงเสมอ..เช่นกันค่ะ"

(http://lh6.ggpht.com/_8VUlHgig2pE/Sa5YCzoYMmI/AAAAAAAAAIk/7B34FCXnHCU/s800/T040309_07C.gif)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 22 มีนาคม 2554 15:39:01
คิดถึงเสมอครับ กลัวจะป่วยจะไข้ครับ เพราะหายไปหลายวัน

ผมก็เพิ่งกลับจาก กทม. เมื่อวานเช่นกันครับ

 (:88:) (:88:) (:88:)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 23 เมษายน 2554 08:22:38
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/458/16458/blog_entry1/blog/2009-01-12/comment/381143_images/7_1231821939.jpg)

กาลครั้งหนึ่งในสวนเล็กๆ

มีอาณาจักรโมกซ่อนตัวอยู่ริมรั้ว

ใบสีเขียวเป็นเหล่าทหารและพลเมือง

ดอกโมกสีขาวพราวเต็มต้น

เป็นหญิงสาวชาวเมืองโมก ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆฝากไปกับสายลมผู้มาเยือน

ในบรรดาดอกโมกทั้งหมด มีอยู่ดอกหนึ่งที่สวยที่สุด

มีกลิ่นหอมกว่าดอกโมกทุกดอก เธอคือ "เจ้าหญิงดอกโมก" เธอถูกห้อมล้อม

ด้วยใบโมกสีเขียวแข็งแรงห้าใบ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์เจ้าหญิง

กิ่งของเจ้าหญิงดอกโมกอยู่ใกล้กับบ่อน้ำเล็กๆ

ก่อด้วยอิฐ มีน้ำพุอยู่ตรงกลาง

ขอบบ่อด้านที่ติดกับอาณาจักรโมกตั้งตุ๊กตาดินปั้นหน้าตายิ้มแย้ม

เขาคือ "เจ้าชายดินปั้น"

ผู้ครอบครองอาณาจักรริมบ่อแห่งนี้ เจ้าชายดินปั้นอยู่ในอาณาจักรนี้มาแสนนาน

ถึงใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มรื่นเริง

แต่ในใจกลับเงียบเหงาเดียวดาย

เจ้าหญิงดอกโมกลืมตาขึ้นมาครั้งแรกก็สบตากับเจ้าชายดินปั้น

ทั้งคู่ตกหลุมรักซึ่งกันและกันทันที

เจ้าชายดินปั้นบอกกับเจ้าหญิงดอกโมกว่า

"ฉันรอคอยเธอมาตลอด...มีดอกโมกเกิดใหม่ทุกวัน

แต่ฉันรู้ว่าเธอคือดอกไม้ที่ฉันรอคอย ถึงดอกโมกจะดูคล้ายๆกันแต่เธอกลับ

แตกต่างออกไป กลิ่นหอมของเธอทำให้ฉันมีความสุข"

และเฝ้ารอวันที่เธอจะเบ่งบาน"

เจ้าหญิงดอกโมกมีกลิ่นหอมที่สุดในบรรดาดอกโมกทั้งหมด

นั่นเพราะเธอมีความรัก

กลิ่นหอมที่เธอฝากสายลมไปทักทาย ทำให้เจ้าชายที่โดดเดี่ยวมีความสุข

ใบหน้าอ้วนกลมที่ยิ้มแย้มดูเหมือนแย้มยิ้มยิ่งขึ้น

เมื่อสายลมพัดกลิ่นหอมของเจ้าหญิงโชยมา

ทุกๆเช้าเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา ทั้งคู่จะมองเห็นกันและกันก่อนสิ่งอื่นใด

นั่นเป็นสิ่งที่มีความหมายสำหรับเจ้าหญิงดอกโมกและเจ้าชายดินปั้น

เวลาผ่านไปใบโมกในอาณาจักรเริ่มร่วงหล่น เจ้าหญิงรู้สึกเศร้า

"ฉันไม่อยากจากเธอไปเลย แต่เวลาของฉันใกล้จะมาถึงแล้ว

ดอกไม้มีเวลาไม่นานนักในโลกใบนี้

แต่เวลาของฉันแสนมีค่าเมื่อฉันพบเธอ"

รอยยิ้มบนใบหน้าของเจ้าชายดินปั้นดูแข็งกระด้าง

ไม่มีชีวิตชีวาอีกต่อไป

เขาเฝ้าอ้อนวอนเจ้าหญิงดอกโมกทุกวัน

"อยู่ต่ออีกวันหนึ่งเถอะ แค่นาทีเดียวที่มีเธอมีค่ากว่าทั้งชีวิตที่ฉันอยู่มา"

เจ้าหญิงดอกโมกพยายามอยู่ต่อเพื่อเจ้าชายดินปั้น

กลีบดอกอันบอบบางของเธอเริ่มเหี่ยวเฉา ใบโมกและดอกโมกในอาณาจักร

เริ่มร่วงหล่นไปทีละดอก...ทีละใบ

จนกระทั่งเหลือเพียงเจ้าหญิงดอกโมกที่บัดนี้กลายเป็นดอกไม้สีนำตาลน่าเกลียด

และใบไม้องครักษ์สีเหลืองจัดทั้งห้าผู้ภักดี

"อย่ามองฉันอีกเลย ตอนนี้ฉันน่าเกลียดเหลือเกิน

กลิ่นหอมที่เคยทำให้เธอมีความสุขก็ไม่เหลืออีกแล้ว"

"สำหรับฉันเธอสวยเสมออยู่ต่อเถอะนะ...อย่าจากฉันไปเลย"

ใบไม้องครักษ์ของเจ้าหญิงเริ่มร่วงหล่นไปทีละใบ จนเหลือใบสุดท้าย

"เจ้าหญิง...เราไม่อาจฝืนธรรมชาติหรอก ถ้าเราไม่จากไป ใบและดอกโมก

รุ่นใหม่ก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้ อาณาจักรของพระองค์ก็จะสูญสลายไป

นั่นคงไม่ทำให้เจ้าหญิงมีความสุข"

"ฉันอาจไม่มีความสุข"

เจ้าหญิงพึมพำกับตัวเองเธอเหลือบดูเจ้าชายดินปั้น

"แต่ทำให้เขามีความสุข"

คืนนั้นองครักษ์ใบสุดท้ายปลิดปลิวไปกับสายลม

เจ้าหญิงดอกโมกเฝ้ามององครักษ์จากไป...อย่างอาลัย

เธอกระซิบขอสัญญาจากสายลม

วันรุ่งขึ้นเจ้าชายตื่นขึ้นมาเขาดีใจที่เห็นเจ้าหญิงดอกโมกยังคงอยู่

เขาอยากให้เธออยู่กับเขาตลอดไป

"อยู่กับฉันเถอะนะ...อย่าจากฉันไปเลย"

เขาขอร้องเธอเหมือนเช่นทุกวัน

"ความรักของฉันจะยังคงอยู่กับเธอเสมอแม้เมื่อฉันจากไป"

เจ้าหญิงยิ้มเศร้าๆ

ทันใดนั้นสายลมพัดมาพาเอาเจ้าหญิงดอกโมกลอยไป

น้ำพุกลางบ่อกระเซ็นมาถูกหางตาเจ้าชาย

คล้ายน้ำตาของเขาที่กระจายไปกับสายลม

หยดน้ำเล็กๆหยดหนึ่ง

หยดลงไปสัมผัสกับดอกโมกสีน้ำตาลในมือเจ้าชาย

สายลมทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเจ้าหญิงแล้ว

นิทานในสวน  แต่งในวันที่ดอกโมกบาน

ลาวดวงดอกไม้ (http://www.youtube.com/watch?v=WT9K6tM1vqg&feature=player_detailpage#)



หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 23 เมษายน 2554 10:05:38


(http://board.goosiam.com/imgupload/ans573073.gif)

 (:88:) (:SY:) (:LOVE:)
ขอบคุณน้องขมนะคะ  (:PING:) (:LOVE:)



หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 27 กรกฎาคม 2554 11:20:56
ดื่มด่ำคำร้อย มธุรส

เปลี้องโลกเขียนจด จารสวรรค์

ปลุกอักษรผลิผลัด อัศจรรย์

จารึกความงามพรรณ บรรณภพ

เธอ ยามข้าพานพบในบทกวี

ดังแรงบันดาลใจที่มี ไม่รู้จบ

แม้เป็นเพียงภาพเงา อันเร้ารบ

คราครุ่นหวนทวนทบ ความเดียวดาย

โดยคำ ลานเทวา


(http://upic.me/i/kc/3gji2.jpg)


หัวข้อ: Re: แสงทองในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 24 ธันวาคม 2554 13:46:07
แสงสว่างบนฟ้าเวลานี้
มั่นคงที่ลมหอบมาปลอบขวัญ
เสมือนใจฝังแฝงเฝ้าแบ่งปัน
มอบกำนัลสรรหาคุณค่างาม

แม้ไม่เห็นสายลมที่พรมพัด
แต่สัมผัสเนิ่นนานนั้นหวานหวาม
ยากจะเปรียบเทียบใดในนิยาม
เหนือรูปนามความกล่าวอยู่ยาวยืน

ขณะหนึ่งสายลมพร่างพรมพลิ้ว
โลมไล้ผิวเนื้อเย็นมิเป็นอื่น
มอบความรักจากฉันสู่เพื่อนขวัญ
ลมกระซิบโรยรื่นเชิญชื่นชม

(http://image.ohozaa.com/i/11a/1_display.jpg)


หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 26 ธันวาคม 2554 21:30:26
คนล่าฝัน (http://www.youtube.com/watch?v=sRKLfodMbPs#)

คนเป็นคนย่อมปะปนด้วยชั่วดี

ในศักดิ์ศรีมีทั้งจนและร่ำรว

มีความรักเป็นเรื่องราวอันสดสวย

ความผิดหวังเป็นแค่เรื่องธรรมดา

 (:LOVE:) (:LOVE:)



หัวข้อ: Re: แสงตะวันในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 19 มกราคม 2555 23:50:41
ขอบคุณครับ อยากตอบยาว ๆ แต่เล่นในมือถือ พิมพ์ยากซะจริง

 (an!) ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: อึ้ม! จะเล่าให้ฟัง....
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 10 กรกฎาคม 2555 12:42:14
หลังๆ มานี้ ผู้เขียนหายไปพักใหญ่
ด้วยช่วยลูกๆลาน ทำหน้ากากและชุดไว้เล่นในงานผีตาโขน
เราเริ่มเตรียมการหาของและลงมือทำกันตั้งแต่โรงเรียนปิดเทอมใหญ่กลางเดือนเมษายน
หากช้ากว่านั้นคงเสร็จไม่ทันแน่ด้วยเล่นเป็นทีมต้องใช้เวลานาน
แม้เป็นรายตัวก็ต้องเริ่มช่วงนั้นเช่นกัน แต่กว่าจะแล้วเสร็จก็ใช้เวลาเป็นเดือนเศษ
หลังจากงานตื่นเต้นสนุกสนานผ่านไป
เราเริ่มหันกลับไปมองหญ้าและวัชพืช ที่ปล่อยให้ครองไร่และบ้านมาแรมเดือน
ถึงเวลาต้องกำจัดเสียที เล่นเอาเหนื่อยเป็นอาทิตย์เชียวล่ะ
แต่ก็ชื่นใจ ที่ไร่...กล้วยเริ่มแก่..แตกปลี..แตกหน่อใหม่เยอะเชียว..

(http://kanchanapisek.or.th/kp6/New/pictures14/s14-268-4.jpg)

ที่บ้าน...ต้นเชอรี่ที่ปลูกมาสามปีเริ่มติดลูกออกผลเต็มต้น  
ก่อนหน้านี้ พอเข้าหน้าฝนก็จะออกดอกเล็กๆ สีม่วงอมชมพูเต้มต้น
แต่ไม่เคยติดลูกติดผลเสียเลย
ลูกสีเขียวอ่อน มีรสฝาด ลูกโตหน่อยสีส้มๆ เปรี้ยวเข็ดฟัน
ลูกแดงกล่ำจะหวานอมเปรี้ยว จิ้มพริกกะเกลือน่ะ!
ยิ่งคนไม่ชอบเปรี้ยวแล้ว ก็ยังเปรี้ยวอยู่ดี
ที่ชอบใจมากก็ลูกของมันใหญ่มาก ขนาดเท่าหัวแม่มือเราเชียวล่ะ

(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTMlTTwek_umfexNWuFtcZB_8NZBudC096VVJC5zy5Cf2uaZRFXf0NhoWru)

ต้นทับทิมก็ไม่น้อยหน้าออกดอกดิดผลมาตั้งแต่หมดหนาว
เมื่อฝนมาต้นฤดูลมแรงมาก ด้วยกิ่งที่มีผลติดเยอะและผลใหญ่ทำให้กิ่งโน้มลงติดดิน
ไม่มีกิ่งหักด้วยกิ่งก้านที่เหนี่ยวเราหาไม้มาค้ำยันแล้วผูกเชือกดึงกิ่งมามัดไว้แน่น
ผลที่ขั่วอ่อนหลุดเกลื่อน ผลที่ใหญ่เจริญเติบโตจนเก็บผลได้สมใจ 3 เข่งที่เดี๋ยว
เข่ง 1 ส่งไปกรุงเทพฯ เข่ง 1 แบ่งเพื่อนพ้องโดยทั่วถึง
อีกเข่งนำไปวัด หลวงพ่อท่านถาม..."จะฉันท์กันยังไงล่ะ?"
ฉันแกะถวาย..ท่านว่า "หวานออกส้มนะ"(ส้มหมายถึงรสเปรี้ยว)

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/2/29/Pomegranate03_edit.jpg/250px-Pomegranate03_edit.jpg)

ลูกทับทิม"เออ!แปลกดี เคยเห็นว่าผลมันสวยดี แต่ไม่เคยฉันท์
เนี้ย! เป็นครั้งแรกที่รู้รส อึ้ม..จะได้รู้จักทับทิมจริงๆ เสียที"
กลับจากวัดมา คำของหลวงพ่อท่าน..ที่ว่า
"เนี้ย! เป็นครั้งแรกที่รู้รส จะได้รู้จักทับทิมจริงเสียที"
ทำให้ฉันนึกถึงเวลาที่ใครกระทำไม่ดีใส่..
จะด้วยคำพูด..สีหน้า..แววตา..หรืออะไรก็ตามแต่
ฉันไม่เคยถาม หรือหาเหตุ..ว่าเค้ากระทำแบบนั้นทำไม?
ไม่ว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนั้นอีกสักกี่ครั้งก็ตาม

(http://www.toteparty.com/uppic/files/5af14c4966488c33.jpg)

คนใกล้ตัวฉันเคยถามว่า..
"คุณไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือ?"/"..รู้ซิ..แต่ไม่ใส่ใจ.."
ฉันทำเพียง..ไม่..จริงๆ ฉันไม่เคยทำอะไรเลยต่างหาก!
ฉันปล่อยสิ่งนั้นๆ เรื่องนั้นๆ ผ่านไป เช่นเดียวกับการมองสองข้างทาง
เวลานั่งรถผ่านไป..เท่านั้นเอง แค่นั้นจริงๆ
สิ่งที่เห็น และได้ยินก็จบ-ตรงนั้นเสมอ
ตอนนี้ฉันเริ่มอยากรู้ว่า..เค้าเป็นอะไร กระทำเช่นนั้นทำไม?
แต่การกระทำแย่ๆ นั้น ไม่มีผลให้ฉันขุ่นใจ ฉันสนใจเหตุผลมากกว่า
จริงอยุ่ เราไม่อาจรับรู้ความในใจ หรือเข้าใจทุกคนได้
แต่เราสามารถหาเหตุของ การกระทำแย่ๆ คำพูดแย่ๆ
ด้วยเราผิดอะไร? หรือไม่พอใจสิ่งใดในตัวเรา
แล้วแก้ไขตัวเรา หรือหลีกเลี่ยงสิ่งนั้นๆ เสีย
เพื่อละวาง..ไม่เกิดเหตุแห่งทุกข์ และหยุดการกระทำที่สุดแห่งกองทุกข์..
ฉันจำกัดโลกของตนให้แคบที่สุด..เท่าที่ใจตนพึงกระทำได้โดยไม่ต้องฝืน
"การมองโลกภายนอกมากเกินความจำเป็น..ไม่ได้ก่อประโยชน์มากไปกว่าโทษทางใจเลย


(http://www.hotelsthailand.com/images/icon/40th-travel-28.jpg)

"พักเหนื่อย..กันนะค่ะ"
"ยังห่วงใยเสมอ"
"ขม..ค่ะ"



หัวข้อ: Re: แสงทองในม่านหมอก…
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 10 กรกฎาคม 2555 12:48:14
ยินดีทุกครั้งที่ได้เจอ อ.พี่ขม ยังสบายดีครับ

 (:SY:)

และยินดีมาก ๆ ทุกครั้งที่ อ.พี่ขม แวะมาเยี่ยมเยียนครับ

 (:88:) (:88:) (:88:) (:88:) (:88:)


หัวข้อ: Re: อึ้ม! จะเล่าให้ฟัง....
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 20 สิงหาคม 2555 21:08:06
สวัสดีทุกๆ ท่าน ณ.สุขใจ
ว่างเว้นห่างหายไปไม่ไกลนัก
ยังนึกถึงสุขใจอยู่เสมอ
วันนี้มีเรื่องเล่าจากผลพ่วงแห่งสายฝนพร่ำ..(:SY:)

หลังจากฝนตกติดต่อกันมาหลายคืน
เพื่อนบ้านผู้หวังดีทั้งหลายก็หางานมาให้ทำ..
ตะวันยังไม่ทันโผล่..แต่มีกลุ่มคน 3-4 คนโผ่ลที่หลังบ้าน
"แม่น้องมุก..แม่น้องมุก"...มื้อแรงซุมกันครับ...
"ค่ะ..ที่ไหนล่ะ"..บ้านแม่น้องมุกนะ..เดี๋ยวผมไปทำก่อน...
แล้ว(ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน)..แกก็โชว์เจ้าอั๊บๆ ตัวอวบให้ดู..
แล้วแกก็เดินไป..พูดไป...เย็นๆ มาครับ...
สำหรับผู้เขียนนั้นไม่ยากหรอก...มีเครื่องปรุงครบครันในครัว
จะมาเมื่อไร..ขอให้บอก..จัดเต็ม

ยำกบกะหัวปลี

เริ่มทำค่ะ
ตั้งน้ำไฟแรงครึ่งหม้อ...ทุบ..ตะใคร้..ใบมะกรูด..กระเทียม..ใส่ในน้ำ
นำกบที่เค้าไว้ให้แล้วทำมาล้างสะอาดอีกครั้งกับเกลือ
หัวปลีที่ผ่าเป็นซีกๆ..แช่เกลือนิดหน่อย
ซักพักเอาทุกอย่างใส่นึ่งพร้อมกันให้สุก..แล้วพักไว้ให้เย็น

(http://www.khonplainam.com/board/index.php?action=dlattach;topic=1526.0;attach=29901;image)

เอาหัวปลีมาหั่น...ตะใคร้ซอย..ใส่รวมกับเนื้อกบที่ฉีกแล้ว

(http://www.bloggang.com/data/mai-mee/picture/1250768942.jpg)

ใส่มะม่วงซอย น้ำพริกเผาไทย รสดี หัวกะทิ น้ำมะนาว คลุกให้เข้ากัน
ชิมรสเอาตามชอบเลยค่ะออกเปรี้ยวเผ็ดค่ะ

(http://www.bloggang.com/data/mai-mee/picture/1250769132.jpg)

ใส่หอมแดงซอย ใบมะกรูดอ่อนๆ ซอย ใบโหระพาลงไป..คลุกอีกครั้ง

(http://www.bloggang.com/data/mai-mee/picture/1250769177.jpg)

เสร็จเรียบร้อย..ตักเสริฟ..เป็นกับแกล้มแซบ ๆ

(http://www.bloggang.com/data/mai-mee/picture/1250769293.jpg)

"ต้มยำซดน้ำกันบ้างมั้ย"...คำตอบที่ได้..เอา..เอา...

(http://img405.imageshack.us/img405/1847/dsci2495.jpg)

กบเยอะ เค้าทำไว้เรียบร้อยแล้ว..แบ่งมาให้ผู้เขียนอีกต่างหาก
 ร่วมทั้งที่กำลังหมักนี้เค้าก็แบ่งให้อีก..ฉันก็เก็บฟิตตามเคย..

(http://img522.imageshack.us/img522/9013/dsci1112.jpg)

เด็กๆ กินเผ็ดไม่ได้..ฉันก็เอามาหมักซอส..รสดี..
ย่างไฟอ่อนนะ...ข้าวเหนียวร้อนๆ..
เจ้าเด็กน้อย..ว่า "แซ่บกว่าไก่ย่างอีก..แน่"

(http://www.bloggang.com/data/k/kesornmart/picture/1265773512.jpg)

แจ่วพริกปนอีกซักถ้วย
และที่ขาดไม่ได้ ผักสดๆ ถาดใหญ่ๆ
ฉันยอมรับอย่างว่า..เค้าทานผักเก่งมาก
มีผักบางอย่างที่ไม่เคยรู้จักไม่เคยกิน..ก็ได้กินทุกครั้งที่ซุมกัน

(http://www.gotoknow.org/file/sutthinun/f0001101.JPG)

ขอบคุณภาพประกอบบางภาพจาก  Google.

(http://i888.photobucket.com/albums/ac84/uprasert/Glitter/502191348.gif)


หัวข้อ: Re: อึ้ม! จะเล่าให้ฟัง....
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 20 สิงหาคม 2555 21:50:38


(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTMlTTwek_umfexNWuFtcZB_8NZBudC096VVJC5zy5Cf2uaZRFXf0NhoWru)

 (:LOVE:)  (:LOVE:)  (:LOVE:)

(http://www.hotelsthailand.com/images/icon/40th-travel-28.jpg)



หัวข้อ: Re: อึ้ม! จะเล่าให้ฟัง....
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 21 สิงหาคม 2555 00:50:18
น่าทานครับ อ.พี่ขม

ถ้าไม่มีสีของพริกเผานี่ ดู ๆ เหมือนยำตะไคร้เลย

เห็นย่างก็น่ากินครับ เคยเจออยู่เหมือนกัน เค้าเอาเห็ดไปย่างแล้วทาด้วยซีอิ๊วดำ ๆ หวาน ๆ เค็ม ๆ นิด ๆ

อร่อยมากมาย

แต่กบนี่ผมกินไม่เป็น

 (T-T) (T-T) (T-T) (T-T)

ถ้าเปลี่ยนเป็นหมูเป็นไก่คงอร่อยเอาเรื่อง



หัวข้อ: Re: อึ้ม! จะเล่าให้ฟัง....
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 21 สิงหาคม 2555 07:31:42
สวัสดีค่ะ..คุณน้าแม็ค..
สวัสดีค่ะ..คุณพี่เงาฝัน..
และเพื่อนบอร์ดสุขใจ...

เปลี่ยนเป็นไก่ก็ต้องต้มก่อนแล้วเอามาฉีกยำ
ถ้าเป็นคอหมูย่างจะอร่อยกว่านะค่ะ..

เป็นวิถีชาวบ้านล้วนๆ ค่ะ (:fall:)


หัวข้อ: Re: อึ้ม! จะเล่าให้ฟัง....
เริ่มหัวข้อโดย: -NWO- ที่ 21 สิงหาคม 2555 10:44:47


      สวยงาม น่ารับประทาน


หัวข้อ: Re: อึ้ม! จะเล่าให้ฟัง....
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 21 สิงหาคม 2555 16:25:12
ขอบคุณค่ะ..คุณ-NWO-

(http://i285.photobucket.com/albums/ll68/ag-line/avd002.gif)


หัวข้อ: Re: อึ้ม! จะเล่าให้ฟัง....
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 27 กันยายน 2555 11:08:57
(http://images.tussanai078.multiply.com/image/f5VtPIRIQ-wosZkWz0we5g/photos/1M/300x300/28/photo-28.jpg?et=PRXYONw44aq7M4fhIWLLQQ&nmid=0)

ปีนี้รู้สึกฝนจะชุกนัก

ฝนตกมาก่อนเข้าพรรษาเป็นเดือนๆ แล้ว

ชาวบ้านจะขึ้นเขา-เข้าป่าจะไปขุดกันตอนสายๆ..

แล้วจะไปกันเกือบทั้งวัน..ไม่ใช่หายาก..หากแต่มีมาก

หนักพอทน..ก็จะกลับลงมา..จะทำเช่นนี้กันทุกวัน

ยกเวัน..วันพระที่ชาวบ้านไม่ขึ้นเขา..ไม่เข้าป่า..เด็ดขาด

ชาวบ้านที่เป็นผู้หญิงส่วนใหญ่ จะเว้นจากงานไร่ กันเสียมาก

หน่อไม้เอย..เห็ดเอย..โผ่ลมาให้เก็บไม่เว้นวัน

โดยเฉพาะหน่อไม้..ออกมากจริงๆ เค้าทำกันเป็นเรื่องเป็นราว

แถมมีรายได่เสริมกันเป็นกอบเป็นกำด้วย ถ้าขยันนะ

เนี้ย! หน่อรวก...(ไผ่รวก)

(http://www.isan.clubs.chula.ac.th/para_norkhai/pic_files/20100823110349.jpg)

เค้านำมาต้มให้สุก แล้วใส่ถุงแขวนไว้เก็บได้ทั้งปี

บางบ้านก็ทำขาย..เนี้ยแหละ รายได้เสริมหน้าฝน

เนี้ยแหละ.. "หน่อไม้อัด"

(http://www.iyakarn33.krubpom.com/iyakarnsomkiat/images%20(5).jpg)

ส่วนหน่อไม้คาย..

หรือหน่อคาย..หน่อใหญ่คล้ายหน่อบง

แต่มีรสขมต้องต้มกันหลายน้ำ ให้หมดขม

(http://4.bp.blogspot.com/_bHbB_Cbgz80/SqHuoM-0hYI/AAAAAAAAAAs/xyUUohlpqa0/s320/%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%871.jpg)

ชาวบ้านที่นี้..นำมาสับเหมือนมะละกอ

ใส่เกลือกะข้าวเหนียว หมักสัก 3-4 วัน

ก็ได้..หน่อไม้ดอง..ไว้ขายนักท่องเที่ยวเสียมากกว่า

ชาวบ้านที่นี้เค้าไม่กินของหมักดองกันนัก

หน่อไม้ดองที่เป็นแผ่น..ต้องสั่งซื้อจากหล่มสักเท่านั้น..ตลาดด่านซ้ายไม่มีขาย

 "หน่อบง" เป็นหน่อไม้หวานที่เก็บมาทานสดๆ จิ้มกะแจ๋วอร่อยมากม๊าก

(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSdMRSDP8FRec2Qg-Rg3AqwVvcf9nVKsWnLVYPSy8tywwwmrjXzKd1Xw53BKg)

เอาหน่อสดๆมาทำกับข้าวกิน ก็มากมายหลายเมนูเลยล่ะค่ะ

หากอยากกินหน่อไม้เปรี้ยว ก็เอาไปต้มกะส้มแขกเสียก่อน..

ค่อยนำไปแกง..ก็จะได้หน่อที่เปรี้ยวโดยไม่ต้องดองค่ะ

..มาเปิดครัวกันดีกว่า..ขอประเดิมด้วย..

แกงจืดหน่อไม้กะกระดูกหมูอ่อนๆ

(http://th.openrice.com/UserPhoto/Recipe/0/0/00006SB9A10EDC8976D4A1l.jpg)

ผัดเผ็ดหน่อไม้สด

(http://www.muangboranjournal.com/spaw/upload/bangpahan%20065.JPG)

หน่อไม้ต้มกะแจ่วบ๊อง

(http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcS27qpoCThshCQgXrUvnnv4z83undC0MeRiPNlD-sfwM1hJik7_m6BaJmrq)

หรือจะเป็นหน่อสดๆ .... กะข้าวเหนียร้อนๆ...นะ

ปิดเมนูด้วยผลผลิตพืชไร่ตามฤดูกาล

(http://www.bloggang.com/data/m/mungmana/picture/1313050080.jpg)

เค้าปลูกไว้เป็นแนวรั่วบ้าน..แนวไร่

แค่พอกิน..พอแจกลูกๆหลานๆ....ได้กิน

ใครผ่านไป-มา..อยากกินก็เก็บได้ตามสบาย

แต่อย่าไปหักกิ่ง..หรือเหลือทิ้งก็พอ

ขนมที่ทำเลี้ยงวันนี้คือ "ข้าวเหนียวเปียกลำใย"

(http://1.bp.blogspot.com/-Q7CvAN5TgCI/T99daQo6AeI/AAAAAAAABWs/ZNDXlpHSBfY/s320/H3616669-4.jpg)

แม้วันนี้จบลงแล้ว..อย่างวุ่นๆ กันทั้งวัน

ตามวิถีชีวิตที่ดูธรรมดาๆ ของชาวบ้าน

แต่เป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับผู้เขียน

http://youtu.be/1BwgvJPPf-M

ขอบคุณ..เพลงเพราะๆ จาก YouYube.