[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 14 กรกฎาคม 2553 02:08:04



หัวข้อ: พระพุทธพจน์ : ใบไม้กำมือเดียว
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 14 กรกฎาคม 2553 02:08:04
"ธรรมที่เรานำมาแสดงนี้เป็นเหมือนใบไม้ในป่าที่เรานำมาแค่กำมือเดียว"


พระพุทธพจน์




ไปเจอใน Pantip ครับ ห้องศาสนา เป็นพุทธพจน์ดี ๆ ที่ยอมรับเลย

ว่าตัวผมเองก็ลืมคำ ๆ นี้ไปแล้ว

เลยอยากเอามาให้ได้อ่านกันครับ


หัวข้อ: Re: พระพุทธพจน์ : ใบไม้กำมือเดียว
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 04 กันยายน 2553 20:45:25
แค่ใบไม้ในกำมือเดียว พวกมารมันยังไม่ต้องการให้เรารู้เลย  ผมเลยต้องเอาใบไม้นอกกำมือมาเปิดเผยซะเลย

ความหมายของใบไม้นอกกำมือของพระพุทธองค์
 
" ภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่เรารู้แล้วมิได้บอกเธอทั้งหลายมีมาก ก็เพราะเหตุไรเราจึงไม่บอก เพราะสิ่งนั้นไม่ประกอบด้วยประโยชน์ มิใช่พรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความหน่าย ความคลายกำหนัด ความดับ ความสงบ ความรู้ยิ่ง ความตรัสรู้ นิพพาน "
 
 
คนมีมิจฉาทิฏฐิยากที่จะตีความพุทธพจน์ของพระพุทธเจ้าได้ถูกต้อง  ผม..นาย พลศักดิ์ วังวิวัฒน์.. เคยบังอาจใช้นามแฝงว่า "ใบไม้นอกกำมือ"  ด้วยผมเชื่อว่าตนเองเป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิเพียงพอ ผมขออนุญาตตีความพุทธพจน์บทนี้นะครับ
 
 1. ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ประโยชน์ที่พระพุทธองค์กล่าวนี้คือ ประโยชน์ในการหลุดพ้น เพื่อเข้าสู่นิพพาน
 
 2. แต่ประโยชน์ที่ไม่ใช่เพื่อการหลุดพ้น ไม่ใช่เพื่อเข้านิพพานนั้นมีอยู่   เช่น ประโยชน์เพื่อรู้ความจริงของโลกอย่างทะลุปรุโปร่ง....ประโยชน์นี้เป็นไปเพื่อดับความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์
 
 3. ประโยชน์อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ ก็คือ  ประโยชน์เพื่อการอยู่อย่างสุขสบายผาสุขใน 3 ภพ   ข้อ 2+3 พระพุทธเจ้าถือว่าเป็นใบไม้นอกกำมือ เนื่องจาก
 
 " สิ่งนั้นไม่ประกอบด้วยประโยชน์ มิใช่พรหมจรรย์เบื้องต้น ไม่เป็นไปเพื่อความหน่าย เพื่อความคลายกำหนัด ความดับ ความสงบ ความรู้ยิ่ง ความตรัสรู้ นิพพาน "
 
 4. ผู้ที่มีความรู้ใบไม้นอกกำมือแล้วเท่านั้น จึงจะสามารถรู้และเข้าถึงความรู้ที่เป็นใบไม้นอกกำมือได้ และสอนคนอื่นเพื่อดับความอยากรู้อยากเห็นของเขาได้  ผมเชื่อว่าผมเป็นผู้รู้ท่านนั้น  ผมมั่นใจว่า  ผมสอนคนได้ทุกศาสนาถ้าเขาพร้อมจะรับฟัง
 
 5. ในสมัยก่อน ผู้คนต่างต้องการรู้เรื่องที่ดับทุกข์ เพราะเขาอยู่ในบ้านเมืองที่เต็มไปด้วยทกข์ แต่ปัจจุบัน บ้านเมืองเจริญขึ้นมาก นอกเหนือจากความรู้เพื่อเข้านิพพานแล้ว ผู้คนยังมีความสนใจเรื่องทางโลกมากขึ้นด้วย
 
 6. ศาสนาพุทธเถรวาทของสมมุติสงฆ์ บิดเบือนคำสอนของพระพุทธองค์ไปมาก เพราะมารมันคุมฝ่ายปริยัติ ด้วยเหตุนี้ พระสัทธรรมของพระพุทธเจ้าที่ผ่านพวกเถรวาทฝ่ายปริยัติ ชาวโลกเขาจึงไม่เอาด้วย เพราะผิดทำนองครองธรรม มีอย่างที่ไหน
 
 - ไปบอกว่า นิพพานเป็นอนัตตา แล้วเราจะไปนิพพานหาพระแสงอะไรล่ะ เพราะมันก็ยังทุกข์ และเกิดแก่เจ็บตายอยู่
 
 - และไปบอกว่า ศาสนาพุทธไม่เชื่อในเรื่องพระเจ้า และไม่มีพระเจ้า โง่แล้วยังอวดฉลาดอีก ไม่มีความรู้เลยว่า พระเจ้าที่แท้ก็คืออสังขตธาตุ  หรือพุทธะ หรือพระอรหันต์    แต่เรื่องเหล่านี้ไว้ค่อยถกกันในกระทู้อื่น