|
หัวข้อ: เผ็ดร้อน หรอยแรง ต้อง แกงไตปลา / สูตรแกงไตปลา - กิมเล้ง เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 27 ตุลาคม 2555 11:46:09 เผ็ดร้อน หรอยแรง ต้อง แกงไตปลา สูตรแกงไตปลา โดย กิมเล้ง (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/16332130092713_1.png) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/39413899845547_9.png) แกงไตปลา • เครื่องปรุง - ไตปลาช่อน ¼ ถ้วยตวง - ปลาทูนึ่งขนาดใหญ่ แกะเอาแต่เนื้อ (ชิ้นใหญ่ ๆ) 1 ตัว - พริกแกงไตปลา 2 + ½ ช้อนโต๊ะ - ผักต่าง ๆ เช่น หน่อไม้ มะเขือเปราะ มะเขือพวง ถั่วพู ถั่วฝักยาว ฟักทอง ฯลฯ - ใบมะกรูดฉีก • ส่วนผสมน้ำพริกแกงไตปลา - พริกแห้ง 9 - 10 เม็ด (ถ้าชอบเผ็ดมากให้ใช้พริกขี้หนูแห้งสักหนึ่งกำมือ...แล้วจะได้รสชาติปักษ์ใต้แท้ ๆ ) - พริกขี้หนูสด 10 -15 เม็ด - หอมแดงหั่นหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ - กระเทียมหั่นหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ - ดีปลี 1 ดอก (ใช้ขนาดเล็ก เพราะมีรสออกขมนิดหน่อย) * ไม่ใส่ก็ได้ - ขมิ้นสดปอกเปลือก ยาวประมาณ 1 + ½ นิ้ว - ผิวมะกรูดซอย 2 ช้อนชา - กะปิ ½ ช้อนโต๊ะ • วิธีทำ 1. โขลกเครื่องแกงให้ละเอียด 2. น้ำเปล่า 2 – 3 ถ้วยตวง ใส่หม้อตั้งไฟให้ร้อน ใส่พริกแกง พอเดือดใส่ไตปลา ปลาทูนึ่ง ตามด้วยผักต่าง ๆ และใบมะกรูดฉีก รอให้เดือดอีกครั้ง ชิมรสตามชอบ (ถ้าอ่อนเค็มเติมเกลือ) ชอบรสออกหวานใส่น้ำตาลปีบนิดหน่อย (แต่อย่าดีกว่าน่ะ) เสริ์ฟกับข้าวสวยร้อน ๆ กับไข่เจียวหมูสับ หมูหวาน กุ้งหวาน หรือขนมจีน+ไข่ไก่ต้มสุก ตามสะดวก (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/78357965871691_2.png) ส่วนผสมน้ำพริกแกง (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/39113445869750_3.png) โขลกเข้าด้วยกันจนละเอียด ตามด้วยกะปิโขลกพอเข้ากัน (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/55141466235121_6.png) ส่วนผสมแกงไตปลา (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/85631353656450_7.png) ผู้ทำใช้ปลาทูนึ่ง ตามสูตรน้องสะใภ้ซึ่งเป็นชาวนครศรีธรรมราช (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/21462204100357_8.png) ตั้งน้ำสะอาด พอร้อนใส่พริกแกงลงไปคนให้ละลาย น้ำเดือดอีกครั้งจึงใส่ไตปลา (ไม่จำเป็นต้องนำไปต้ม แล้วกรองน้ำอย่างบางตำราเขาว่ากันไว้ เพราะไตปลาไม่มีก้าง ถ้าปลาร้าก็ OK เห็นด้วยค่ะ) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/16332130092713_1.png) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/39413899845547_9.png) * ไตปลา : ควรเลือกใช้ไตปลาช่อน เพราะรสชาติมันอร่อยกว่าไตปลาทูค่ะ หัวข้อ: Re: เผ็ดร้อน หรอยแรง ต้อง แกงไตปลา / สูตรแกงไตปลา - กิมเล้ง เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 11 พฤศจิกายน 2556 17:45:45 .
(http://www.kimleng.net/ภาพประกอบ/แกงไตปลา/DSC02068.JPG) (http://www.kimleng.net/ภาพประกอบ/แกงไตปลา/DSC02069.JPG) อาหารใต้ : แกงไตปลา สถาบันการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข มีข้อมูลเกี่ยวกับ "แกงไตปลา" อาหารไฮไลต์ของภาคใต้ ดังนี้ แกงไตปลา หรือพุงปลา เป็นอาหารที่ได้จากทะเล โดยนำพุงปลาทูมารีดเอาไส้ในออก ล้างพุงปลาสะอาดแล้วใส่เกลือหมักไว้ประมาณ 1 เดือนขึ้นไปจึงจะนำมาปรุงอาหาร แกงไตปลามีรสจัด จึงต้องรับประทานร่วมกับผักหลายๆ ชนิดควบคู่กันไป เพื่อช่วยลดความเผ็ดร้อนลง คนภาคใต้เรียกว่าผักเหนาะ ซึ่งมีหลายอย่าง เช่น สะตอ ลูกเนียง ยอดมะม่วงหิมพานต์ รวมถึงผักอย่างถั่วพู ถั่วฝักยาว มะเขือเปราะ แตงกวา หน่อไม้ และต่อไปนี้คือสูตร เครื่องปรุง ปลาสำลี 1 ตัว (400 กรัม) ไตปลา 4 ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูด 3 ใบ ขมิ้นหั่น 1 ช้อนชา ข่าหั่น 7 แว่น หอมแดง 2 หัว กระเทียม 1 หัว ตะไคร้หั่นละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูสด 30 เม็ด พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา กะปิครึ่งช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1.โขลกเครื่องเทศทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด 2.ล้างปลาสำลี ควักไส้ออก ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ ย่างให้สุก แกะเอาแต่เนื้อ 3.ใส่น้ำ 2 ถ้วยลงในหม้อตั้งไฟ พอน้ำเดือดใส่ไตปลา ปล่อยให้เดือดสักครู่ยกลง กรองเอาแต่น้ำแล้วนำขึ้นตั้งไปใหม่ 4.ใส่เครื่องแกงที่โขลกไว้พอหอม ใส่เนื้อปลาย่าง สักครู่ใส่ใบมะกรูดฉีก ยกลง เสิร์ฟพร้อมผักเหนาะ มีคำแนะนำว่า ถ้าน้ำแกงข้นมากให้เติมน้ำลงไปเพื่อให้เจือจาง หรือชิมดู หากเค็มมากไปก็ต้องเติมน้ำปรับระดับความเค็มเบื้องต้นก่อน ทั้งนี้ สาเหตุมาจากไตปลาเค็มนั่นเอง เมื่อเห็นว่าพอดีแล้วให้ใส่มะเขือ ถั่วฝักยาว และหน่อไม้ลงไป ปรุงรสชาติให้ถูกใจ ตั้งไฟจนเดือด ฉีกใบมะกรูดใส่ลงไปแล้วยกหม้อลงจากเตาโดยไม่ต้องสนใจว่าผักจะเปื่อยหรือไม่ (ถ้าผักสุกจะไม่อร่อย ทานแล้วเละในปาก ดังนั้น เมื่อใส่ผักแล้วต้องรีบยกลง ผักที่ใส่ลงไปจะยังกรอบอยู่เลย) ส่วนผสมในเครื่องแกงไตปลา อุดมสรรพคุณทางยา ดังนี้ 1. ใบมะกรูด รสปร่า กลิ่นหอมติดร้อน ใช้ปรุงอาหารช่วยดับกลิ่นคาว แก้โรคลักปิดลักเปิด ขับลมในลำไส้ ขับระดู แก้ลมจุกเสียด 2. ขมิ้นชัน รักษาแผลในกระเพาะอาหาร เจริญอาหาร ขับลม รักษาโรคผิวหนัง 3. ข่า รสเผ็ดปร่าและร้อน ช่วยขับลม ขับพิษร้ายในมดลูก ขับลมในลำไส้ 4. หอมแดง รสเผ็ดร้อน บำรุงธาตุ แก้ไข้หวัด 5. กระเทียม รสเผ็ดร้อน ขับลมในลำไส้ แก้ไอ ขับเสมหะ ช่วยย่อยอาหาร แก้โรคทางผิวหนัง น้ำมันกระเทียมมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อรา แบคทีเรีย และไวรัส ลดน้ำตาลในเลือด ลดไขมันในหลอดเลือด 6. ตะไคร้ แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหารและขับเหงื่อ 7. พริกขี้หนู รสเผ็ดร้อน ช่วยกระตุ้นให้เจริญอาหาร ขับลม ช่วยย่อยอาหาร 8. พริกไทยเม็ด รสเผ็ดร้อน ขับลม ขับเหงื่อ ช่วยเจริญอาหาร แกงไตปลามีรสเผ็ด อาหารที่มีรสเผ็ดจะมีคุณสมบัติช่วยให้เจริญอาหาร โดยแกงไตปลาใช้พริกขี้หนูจำนวนมากใส่เป็นเครื่องแกง ซึ่งพริกขี้หนูมีสรรพคุณทางยาช่วยแก้คลื่นไส้อาเจียน แก้โรคบิด เม็ดพริกมีสารที่สามารถทำให้หลอดเลือดขยายตัว เลือดไหลเวียนดีขึ้น สารอาหารที่อยู่ในแกงไตปลาน้ำข้น 1 ชุด ให้พลังงานต่อร่างกาย 759 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย น้ำ 453.4 กรัม โปรตีน 86.5 กรัม ไขมัน 8.3 กรัม คาร์โบไฮเดรต 83.6 กรัม กาก 5.4 กรัม แคลเซียม 448.9 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 302.8 มิลลิกรัม เหล็ก 18.8 มิลลิกรัม เรตินอล 0.88 ไมโครกรัม เบต้า-แคโรทีน 24 ไมโครกรัม วิตามินเอ 2545.2 IU วิตามินบีหนึ่ง 55.46 มิลลิกรัม วิตามินบีสอง 0.51 มิลลิกรัม ไนอาซิน 4.10 มิลลิกรัม วิตามินซี 29.93 มิลลิกรัมข้อมูล : หนังสือพิมพ์รายวันข่าวสด (http://www.sookjaipic.com/images_upload/54049189057615__3629_.gif) ติดตามสูตรอาหารและเคล็ดลับการประกอบอาหารคาว-หวาน มายมายกว่า 200 สูตร ได้ที่ "สุขใจในครัว" สุขใจดอทคอม www.sookjai.com (http://www.sookjai.com) |