[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ห้องสมุด => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 08 ธันวาคม 2555 10:08:53



หัวข้อ: ตำนาน "บ่อเกลือ" บนภูเขาสูงแห่งเดียวในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 08 ธันวาคม 2555 10:08:53

(http://travel.mthai.com/wp-content/uploads/2014/06/7067.jpg)
เกลือบนภูสูง   หมู่บ้านบ่อเกลือ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน
ภาพจาก : เว็บไซต์ travel.mthai.com

ตำนานบ่อเกลือ
บนภูเขาสูงแห่งเดียวในโลก

ตำนานเกลือบนภูเขาสูงแห่งเดียวในโลก ที่ระดับความสูง ๑,๙๘๐ เมตร ในอำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน เริ่มขึ้นเมื่อเกือบ ๘๐๐ ปีมาแล้ว ในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๙ ตั้งแต่สมัยพญาภูคา ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ภูคา ผู้สร้างเมืองวรนคร (อำภอปัว ในปัจจุบัน)

เมื่อมีการพบเกลือ จากที่เคยเป็นป่าดงพงไพร ก็มีผู้คนมาอยู่รวมกันมากขึ้นจนกลายเป็นเมือง ชื่อ “เมืองบ่อ” ซึ่งหมายถึงบ่อเกลือที่มีอยู่ถึง ๙ บ่อนั่นเอง  

เกลือจากที่นี่ เป็นสินค้าที่ถูกส่งไปขายยังกรุงสุโขทัย เชียงใหม่ เชียงตุง หลวงพระบาง สิบสองปันนา จนถึงจีนตอนใต้ ความสำคัญของเกลือ ทั้งในฐานะสินค้าและยุทธปัจจัย  ทำให้น่านมั่งคั่ง และเป็นศูนย์กลางการค้าขายของล้านนาตะวันออก และเป็นเหตุสำคัญที่พระเจ้าติโลกราชแห่งเชียงใหม่  กรีธาทัพมายึดเมืองน่าน เมื่อ พ.ศ. ๑๙๙๓  ทำให้น่านเป็นประเทศราชของอาณาจักรล้านนา และต้องส่งเกลือไปเป็นเครื่องราชบรรณาการอยู่เกือบร้อยปี

บ่อเกลือเมืองน่านในปัจจุบันเหลืออยู่สองแห่ง คือ บ่อเกลือเหนือและบ่อเกลือใต้ บ่อเกลือเหนือมีขนาดใหญ่ มีโรงต้มเกลือหลายโรง มากกว่าบ่อเกลือใต้ และมีชาวน่านจำนวนไม่น้อยยังคงยึดการทำเกลือเป็นอาชีพด้วยกรรมวิธีดั้งเดิมเฉกเช่นเมื่อเกือบ ๘๐๐ ปีก่อน ในโรงเกลือที่ปิดมิดชิด  ภายในมีเตาขนาดใหญ่ขึ้นรูปจากดินเหนียว สำหรับวางกระทะใบเขื่อง แล้วตักเกลือจากบ่อส่งผ่านมาตามลำไม้ไผ่ลงสู่บ่อพัก ก่อนนำน้ำเกลือมาต้มในกระทะประมาณ ๔-๕ ชั่วโมง  ให้น้ำเกลือระเหยแห้ง ใช้ไม้พายตักเกลือใส่ตะกร้าไม้ไผ่ที่แขวนไว้เหนือกระทะ ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนน้ำในกระทะแห้ง.


(http://www.muangthai.com/thaidata/wp-content/uploads/2008/12/p-13-01.jpg)
ภาพจาก : เว็บไซต์ท่องเที่ยวทั่วน่าน

จาก “เกลือบก” ใช้สำหรับบริโภค ที่เรียกกันมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยและอยุธยา เกลือจากบ่อเกลือโบราณของเมืองน่านในวันนี้  มีวิวัฒนาการตามยุคสมัย ทั้งการเสริมไอโอดีน การผลิตเป็น “ละอองเกลือ”  ซึ่งเป็นเกลือที่มีอนุภาคขนาดเล็กหรือฝุ่นเกลือ ผ่านกระบวนการอบแห้ง และเป่าลมร้อนให้มีความชื้นน้อยลง เพื่อให้แห้งและเก็บไว้ใช้ได้นาน และ “เกสรเกลือ” ซึ่งแปลมาจากภาษาฝรั่งเศสว่า Fleur de Sel ที่บ้านเราเรียก “ดอกเกลือ” เป็นเกลือชนิดพิเศษที่ตกผลึกลอยอยู่หน้าน้ำ  ต้องใช้ความประณีตจากมือมนุษย์เท่านั้นในการค่อย ๆ เก็บช้อนดอกเกลือ เป็นเกลือสะอาด คุณภาพสูง มีปริมาณน้อย และไม่ได้สัมผัสกับพื้นดิน จึงถูกนำมาใช้ทั้งสำหรับการบริโภค การทำสปา ประทินโฉม  และรักษาโรคต่างๆ

“เกลือ” จึงยังคงคุณค่าและความสำคัญอยู่คู่เมืองน่านเหมือนเมื่ออดีตกาล ที่ผ่านมายาวนาน.


ข้อมูล : บทความ “ตำนานบ่อเกลือ”  จาก วารสารข่าวปิดทอง Vol.6 : มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ - สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล


หัวข้อ: Re: ตำนาน "บ่อเกลือ" บนภูเขาสูงแห่งเดียวในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 09 ธันวาคม 2555 23:49:57
เมื่อก่อนเคยทำรายงานเรื่องนี้แต่เป็นทางแถบอีสาน

         อาณาจักรเกลือในดินแดนอีสาน คือหลักฐานที่ห้วงทะเลได้ฝากทิ้งไว้ ราว ๑๐๐ ล้านปีมาแล้ว น้ำทะเลที่ไหลท่วมดินแดนแห่งนี้ได้ถูกปิดกั้นด้วยเทือกเขา การยกตัวของเทือกเขาภูพานตอนกลางของภาค ได้ทำให้เกิดการแบ่งดินแดนอีสานเป็น ๒ ส่วน มีลักษณะเป็นแอ่งคล้าย ๆ ก้นกะทะ ประกอบด้วย ส่วนที่อยู่ทางเหนือเรียกว่า "แอ่งสกลนคร"  และส่วนทางตอนใต้ที่เรียกว่า "แอ่งโคราช"

(http://www.vcharkarn.com/uploads/179/179472.jpg)

        ขอบแอ่งที่ยกตัวขึ้นนั้นก็ได้กั้นให้เกิดเป็นทะเลปิด น้ำทะเลที่ถูกขังอยู่ใน “แอ่ง” นานวันเข้าน้ำเค็มเหล่านี้ก็ถูกแสงแดดแผดเผาจนเหลือเป็นเพียงตะกอนเกลือหิน และ แร่โพแตชที่เป็นแร่ที่พบไม่กี่แห่งในโลกอยู่บนแผ่นดิน และจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาตลอดเวลาน้ำบาดาลก็ได้กัดเซาะโดมเกลือ (dome) ใต้ดินจนทรุดตัวลงกลายเป็นทะเลสาบต่างๆ ดังนั้นหากพบหนองน้ำหรือทะเลสาบที่ไหนในภาคอีสาน เช่น บึงกาฬ (หนองคาย) หนองหาร ( สกลนคร) และหนองหาน ( อุดรธานี) จึงให้สันนิษฐานได้ว่าข้างล่างเป็นโดมเกลือนั้นเอง

(http://www.vcharkarn.com/uploads/179/179474.jpg)
ภาพ ลำดับชั้นหินของหมวดหินมหาสารคามดัดแปลงจาก ผลการเจาะสำรวจ บริเวณ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์
ที่มา กรมทรัพยากรธรณี



(http://www.vcharkarn.com/uploads/179/179475.jpg)
และอีกที่ที่เคยได้ยินมานมนานเป็นสิบปี (เคยอ่านเจอ) แล้วจำมาได้จนทุกวันนี้
ก็คือแหล่งเกลือที่บ้านดุง อุดรธานี