หัวข้อ: โลภะเป็นไฉน ? เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 30 ธันวาคม 2552 14:16:32 (http://i191.photobucket.com/albums/z119/bee_99/yesterday/PS290049.jpg)
http://www.4shared.com/embed/138162500/9620d1b2 โลภะเป็นไฉน ? ความกำหนัด (:LOVE:)ความกำหนัดนักความคล้อยตามอารมณ์ความยินดีความเพลิดเพลิน ความกำหนัดด้วยอำนาจความเพลิดเพลินความกำหนัดนัก แห่งจิตความอยากความสยบความหมกมุ่นความใคร่ (:fall:) ความข้องอยู่ (o0!)ความจมอยู่ (:12:)ธรรมชาติผู้คร่าไป (:FR:)ธรรมชาติผู้หลอกลวง ธรรมชาติ (:QS:)ผู้ยังสัตว์ให้เกิดธรรมชาติผู้ยังสัตว์ให้เกิดพร้อม (:KM:)ธรรมชาติอันร้อยรัด ธรรมชาติ (:SLE:)อันมีข่ายธรรมชาติอันกำซาบใจ (:HIT:)ธรรมชาติอันซ่านไป (:SL:)ธรรมชาติเหมือน เส้นด้ายธรรมชาติอันแผ่ไป ;Dธรรมชาติผู้ประมวลมา (:13:)ธรรมชาติเป็นเพื่อนสอง ปณิธานธรรมชาติผู้นำไปสู่ภพตัณหาเหมือนป่าตัณหาเหมือนดง ความ เกี่ยวข้องความเยื่อใยความห่วงใยความผูกพันการหวังกิริยาที่หวัง (:11:)ความหวังความหวังรูปความหวังเสียงความหวังกลิ่นความหวังรส ความหวังโผฏฐัพพะความหวังลาภความหวังทรัพย์ความหวังบุตร ความหวังชีวิตธรรมชาติผู้กระซิบธรรมชาติผู้กระซิบทั่วธรรมชาติผู้กระซิบ ยิ่งการกระซิบกิริยาที่กระซิบความกระซิบ (:FR:)การละโมบกิริยาที่ละโมบ ความละโมบ (:BR:)ธรรมชาติเป็นเหตุซมซานไป (:PL:)ความใคร่ในอารมณ์ดี ๆ ความ กำหนัดในฐานะอันไม่ควร (:RL:)ความโลภเกินขนาด (:FR:)ความติดใจ (:fall:)กิริยาที่ติดใจ ความปรารถนา (:DA:)ความกระหยิ่มใจ (:SR:)ความปรารถนานัก (:-_-:)กามตัณหา (:UU:)ภวตัณหา วิภวตัณหาตัณหาในรูปภพตัณหาในอรูปภพตัณหาในนิโรธคือราคะที่........................................ สหรคตด้วยอุจเฉททิฏฐิ (:LOVE:)รูปตัณหาสัททตัณหาคันธตัณหา (:fall:)รสตัณหา โผฏฐัพพตัณหาธัมมตัณหาโอฆะ โยคะ (:FR:)คันถะ อุปาทาน (:BH:)อาวรณ์ - นิวรณ์ เครื่องปิดบังเครื่องผูกอุปกิเลสอนุสัยปริยุฏฐาน (:7:)ตัณหาเหมือนเถาวัลย์ ความปรารถนาวัตถุมีอย่างต่าง ๆ รากเหง้าแห่งทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ แดนเกิด แห่งทุกข์ (:-_-:)บ่วงแห่งมาร :'(เบ็ดแห่งมาร (:7:)แดนแห่งมาร (:QS:)ตัณหาเหมือนแม่น้ำ ตัณหาเหมือนข่าย (sc!)ตัณหาเหมือนเชือกผูกตัณหาเหมือนสมุทรอภิชฌา อกุศลมูลคือโลภะอันใดนี้เรียกว่า..........................โลภะ..................................... เรื่อง......................โลภะ (:NOY:)และความอยาก พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม 1 ภาค 1 หน้าที่ 147 ข้อความบางตอนจาก อรรถกถาจตุจักกสูตร บทว่าอิจฺฉาโลภนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่าธรรมอันหนึ่งนี้แหละชื่อว่า.................................... โลภเพราะอรรถว่าปรารถนาเพราะอรรถว่าความอยากและความต้องการอีก อย่างหนึ่ง ความอยากมีกำลังทรามเกิดขึ้นครั้งแรกความโลภมีกำลังเกิดขึ้นในเวลา ต่อ ๆ มาอีกอย่างหนึ่งความปรารถนาในวัตถุอันตนยังไม่ได้ชื่อว่าความ อยากความยินดีในวัตถุอันตนได้แล้วชื่อว่าความโลภเรื่อง (:FR:)โลภะและราคะ (:FR:) พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม 1 ภาค 2 หน้าที่ 22 สภาวะที่ชื่อว่าโลภะเพราะอรรถว่าอยากได้อาการที่โลภชื่อว่า ลุพภนากิริยาที่โลภจิตที่สัมปยุตด้วยโลภะหรือบุคคลผู้ประกอบด้วย ความโลภชื่อว่าลุพภิตะภาวะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยโลภะหรือแห่งบุคคลผู้ ประกอบด้วยความโลภชื่อว่าลุพภิตัตตะความโลภที่ชื่อว่าสาราคะ (:FR:) ความกำหนัดเพราะย่อมกำหนัดนักอาการแห่งความกำหนัดนักชื่อว่า สารัชชนากิริยาที่กำหนัดนักภาวะแห่งจิตที่กำหนัดนักชื่อว่าสารัชชิตัตตะความกำหนัดชื่อว่า.................. อภิชฌา (:KM:)ด้วยอรรถว่าเพ่งเล็ง ตัณหากามเปรียบเหมือนคบเพลิงเพราะตามเผาผลาญเร่าร้อนกามเปรียบเหมือน ชิ้นเนื้อเพราะทั่วไปแก่คนจำนวนมากกามเปรียบเหมือนของขอยืม เพราะอยู่ได้ชั่ว คราวกามเปรียบเหมือนหอกและหลาวพราะทิ่มแทง ฯลฯ ฉันทะคือความเป็นผู้ใคร่ที่จะทำดังนั้นในขณะที่โกรธก็มีความใคร่ที่จะโกรธซึ่ง (o0!) ไม่ได้หมายถึงความหมายพอใจในอารมณ์อย่างเดียวครับเพราะฉะนั้นเมื่อโกรธเกิดขึ้น ไม่ว่ากรณีใดก็ต้องมีฉันทเจตสิกเกิดร่วมด้วยกับโทสเจตสิกเสมอไม่มียกเว้นคือเป็นผู้ ใคร่ที่จะโกรธแล้วในขณะที่โกรธและพอใจที่จะโกรธแล้วในขณะนั้นครับส่วนเจตสิก (:SHOCK:) อื่นๆที่เป็นปกิณณกเจตสิก (:BH:)วิตก วิจาร วิโมกข์ ปิติ วิริยะ ฉันทะก็เกิดร่วมด้วยแต่ไม่ จำเป็นต้องครบทั้ง 6 ดวงก็แล้วแต่ประเภทของจิต ขออธิบายเพิ่มเติมคำว่า ฉันทะ ซึ่งฉันทะใช้ได้หลายความหมายเพื่อความเข้าใจที่ ถูกต้องฉันทะจึงเป็นไปในฝ่ายดีและฝ่ายไม่ดีก็ได้ (:PL:)หมายถึงคำที่ใช้ว่าฉันทะอาจจะ หมายถึง...........ความเป็นผู้ใคร่ที่จะทำที่เป็นไปในทางกุศลอบรมปัญญาประการหนึ่ง (:UU:)หรือ.......... เป็นฉันทะที่เป็นโลภเจตสิก (:LOVE:)กามฉันทะฉันทะหมายถึงความเพียรก็มีวิริยเจตสิก (:HIT:) ฉันทะหมายถึงความเห็นผิดก็มี (:fall:)...........ทิฏฐิ........ซึ่งใช้คำว่าฉันทะเหมือนกันแต่โดยทั่วไปแล้ว ถ้ามุ่งที่ตัวปรมัตถธรรมคือฉันทเจตสิกอันเป็นความเป็นผู้ใคร่ที่จะทำและพอใจในอารมณ์นั้น (:14:) |