[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ไอย ที่ 10 มกราคม 2553 10:50:33



หัวข้อ: อากาศวิปริต ป่วนทั้งโลก ไทยฝนหลงฤดู
เริ่มหัวข้อโดย: ไอย ที่ 10 มกราคม 2553 10:50:33

อากาศวิปริต ป่วนทั้งโลก ไทยฝนหลงฤดู (ไทยรัฐ)

         
        อากาศทั่วโลกวิปริตหนัก ฤดูกาลผิดเพี้ยนจากเดิม ชนิดไม่เคยเกิดมาก่อน
อังกฤษวิกฤติหนัก อุณหภูมิหนาวจัด ติดลบต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง  หิมะหนาเตอะ
บนถนน 40 เซนติเมตร สนามบินทั่วประเทศปิดตาย เที่ยวบินหลายร้อยเที่ยว
ถูกยกเลิกกะทันหัน ระดมทหารเร่งช่วยเหลือเจ้าของรถกว่า 1 พัน ที่ติดหิมะ
อยู่บนท้องถนน ขณะที่ฟุตบอลคาร์ลิงคัพ ระหว่างปิศาจแดงกับเรือใบ
ต้องเลื่อนออกไป เพราะหิมะเป็นเหตุ ด้านนอร์เวย์เลวร้ายสุดในทวีปยุโรป
ต้องเผชิญความหนาวเย็นติดลบถึง 41 องศาเซลเซียส ส่วนจีนประสบปัญหา
ขาดแคลนไฟฟ้าและถ่าน หินอย่างหนัก ปักกิ่งอุณหภูมิติดลบ 16 องศาเซลเซียส
ขณะที่กรุงเทพฯ ฝนหลงฤดูถล่มกรุง น้ำท่วมขังถนนหลายสาย การจราจร
เป็นอัมพาตโกลาหลทั้งเมือง

         โลกวิปริตหนัก เกิดสภาพอากาศแปรปรวน ฤดูกาลเปลี่ยนแปลง
ผิดแผกแตกต่างไปจากเดิม ชนิดไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนทั่วทั้งโลก
ทั้งอากาศหนาวจัด อุณหภูมิติดลบ หิมะตกหนักเป็นแผ่นหนาในทวีปยุโรป
สหรัฐอเมริกาประเทศจีน กับอีกหลายแห่งของทวีปเอเชีย ไม่เว้นแม้แต่
ประเทศไทยในเดือนมกราคมซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาว ก็เกิดฝนหลงฤดูถล่มลงมา
อย่างหนักราวกับฟ้ารั่วในกรุงเทพมหานคร ส่งผลให้การจราจรเป็นอัมพาต
รถราติดขัด น้ำท่วมขังจนโกลาหลกันทั้งเมือง

          ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เมื่อวันพุธที่ 6 มกราคม ว่า
หลายภูมิภาคทั่วโลก โดยเฉพาะยุโรปและเอเชีย เผชิญสภาพอากาศหนาวเย็น
ผิดปกติต้อนรับปีใหม่ โดยที่อังกฤษ ทั่วทั้งประเทศไล่ตั้งแต่กรุงลอนดอน
ไปตลอดภาคกลาง เหนือ ใต้ จนถึงสกอตแลนด์ อากาศหนาวเย็นและ
หิมะตกหนักที่สุดในรอบ 30 ปี หลายเมืองเผชิญพายุหิมะหรือหิมะตกหนาถึง
40  เซนติเมตร ส่งผลให้การขนส่งคมนาคมเป็นอัมพาต ทั้งทางรถยนต์ รถไฟ
และการจราจรทางอากาศ สนามบินหลายแห่งต้องปิดชั่วคราว รวมทั้งสนามบิน
เกตวิคในลอนดอน ซึ่งถูกปิดเมื่อคืนวันที่ 5 ม.ค. เพื่อให้เจ้าหน้าที่เคลียร์หิมะ
จากรันเวย์ นอกจากนี้  ผู้โดยสารที่จะจับเที่ยวบินจากสนามบินฮีทโธรว์ ยังได้รับ
คำเตือนให้เช็กกับสายการบินก่อนเดินทางไปที่สนามบินและเผื่อเวลา สำหรับ
ความล่าช้า ส่วนสนามบินลูตัน เบอร์มิงแฮม แมนเชสเตอร์ เซาแธมป์ตัน และ
สนามบินจอห์น เลนนอน ในเมืองลิเวอร์พูล ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
เที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวถูกยกเลิกหรือเลื่อนออกไป

          ส่วนผู้ให้บริการรถไฟทั่วอังกฤษ ก็ประกาศลด ยกเลิก หรือ เลื่อน
การเดินรถไฟ หลายขบวน รวมทั้งขบวนเข้าออกกรุงลอนดอน ไปจนถึง
รถไฟสายอีสต์ โคสต์ อีสต์ มิดแลนด์ ชิลเทิร์น เรลเวย์ส เฟิร์ส เกรต เวสเทิร์น ฯลฯ
ขณะที่โรงเรียนหลายร้อยแห่งทั่วประเทศถูกสั่งปิด โดยเฉพาะในเขตแลงคาสเชียร์
เวสต์ ยอร์คเชียร์ เวสต์ มิดแลนด์ กลอสเตอร์เชียร์ ฮาตฟอร์ดเชียร์ และเซอร์เรย์
ได้รับผลกระทบหนักที่สุด กองทัพอังกฤษยังระดมทหารออกมาช่วยบรรเทาทุกข์
รวมทั้งไปช่วยอพยพผู้ขับรถยนต์กว่า 1,000 คัน  ที่ติดค้างอยู่บนถนน ซึ่งหิมะ
สุมหนาจนรถติดยาวเหยียดในเมืองแฮมเชียร์

          สภาพอากาศอันเลวร้ายยังส่งผลให้การแข่งขันฟุตบอล กีฬาสุดฮิตของ
อังกฤษต้องยกเลิก รวมทั้งฟุตบอล "คาร์ลิงคัพ" นัดดาร์บี้ แมตช์ ระหว่างทีม
"ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อคืนวันอังคารที่
5 ม.ค. ส่วนการแข่งขันพรีเมียร์ลีก คืนวันพุธที่ 6 มกราคม ระหว่างทีม "ปืนใหญ่"
อาร์เซนอล กับทีมโบลตัน ก็เผชิญอุปสรรคเช่นกัน นอกจากนี้ การแข่งขันรักบี้และ
ม้าแข่งหลายนัดก็ถูกยกเลิกด้วย

          ทางการอังกฤษยัง แถลงเตือนว่า อาจเกิดภาวะไฟฟ้า ก๊าซ และเกลือ
ขาดแคลน เพราะอุปสงค์ความต้องการใช้มีสูงมากผิดปกติในช่วงหนาวจัด
แต่อุปทานลดลงอย่างฮวบฮาบ เนื่องจากการผลิตและการขนส่งแทบเป็นอัมพาต 
ฝ่ายค้านของอังกฤษเผยว่า อังกฤษมีก๊าซสำรองพอใช้แค่ 8 วันเท่านั้น ขณะที่
บริษัทวินส์ฟอร์ด ผู้ผลิตเกลือรายใหญ่ที่สุดของประเทศในเมืองเชสเชียร์
เตือนว่าเกลืออาจขาดตลาดถ้าสภาพอากาศยังเป็นเช่นนี้อยู่

          สำนักงานอุตุนิยมวิทยาอังกฤษทำนายว่า อังกฤษจะเผชิญสภาพอากาศ
หนาวเย็นจัดต่อไปอีก 2 สัปดาห์ และนอกจากอังกฤษ หลายประเทศทั่วยุโรป
ก็เผชิญสภาพอากาศเย็นจัดจากแนวอากาศหนาวจากภูมิภาค ไซบีเรีย
โดยเฉพาะนอร์เวย์ อุณหภูมิลดต่ำถึงติดลบ 41 องศาเซลเซียส  ส่วนเนเธอร์แลนด์
เกิดน้ำแข็งหนาจนสามารถจัดการแข่งขันสเกตน้ำแข็งธรรมชาติครั้งแรกในปีนี้
ได้ที่ทะเลสาบเฮนสโคเตอร์ ที่ฝรั่งเศส หิมะและน้ำแข็งหนา ทำให้การจราจร
ทางภาคตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ รวมทั้งที่เมืองบอร์กโดซ์ ติดขัดอย่างหนัก
ส่วนฮังการีก็ถูกปกคลุมด้วยหิมะ ทางการต้องเตือนไม่ให้ประชาชนในกรุงบูดาเปสต์
ใช้รถยนต์ ขณะที่บางพื้นที่ของอิตาลีกลับเผชิญฝนตกหนัก จนเจ้าหน้าที่หวั่นกลัวว่า
แม่น้ำไทเบอร์ จะเอ่อล้นท่วมกรุงโรมในไม่กี่วันข้างหน้า

          ขณะที่ในเอเชียเกิดอากาศหนาวจัด และหิมะตกหนัก ทางภาคเหนือ
ตะวันออก และกลางของจีน ทำให้เกิดภาวะไฟฟ้าและถ่านหินขาดแคลนอย่างหนัก
เนื่องจากการขนส่งถ่านหินจากแหล่งผลิตต่าง ๆ ทำได้ยากลำบาก อีกทั้งบริษัท
ผลิตไฟฟ้าและถ่านหิน ตกลงเรื่องราคาจำหน่ายไม่ได้ ทำให้ไฟฟ้าและถ่านหิน
ไม่เพียงพอกับความต้องการอยู่ก่อนแล้ว จนทางการจีนต้องปันส่วนไฟฟ้า
เพื่อการอุตสาหกรรม และใช้ในครัวเรือนในบางพื้นที่ รวมทั้งที่มหานครเซี่ยงไฮ้
มณฑลเจียงสู ชานตง และเหอเป่ย ส่วนภูมิภาคอื่น ๆ อาจขาดแคลนไฟฟ้า
และถ่านหินเช่นเดียวกัน ถ้าสภาพอากาศยังหนาวเย็นจัดต่อไป ซึ่งทางการจีน
ได้ร้องขอให้ประชาชนช่วยกันประหยัดพลังงานแม้กำลังต่อสู้กับ ความเหน็บหนาวก็ตาม

          สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของจีนพยากรณ์ว่า ภาวะอากาศหนาวเย็น
จะต่อเนื่องไปตลอดสัปดาห์ โดยที่กรุงปักกิ่ง เมื่อวันพุธที่ 6 มกราคม
หิมะตกหนักและอุณหภูมิลดลงถึงติดลบ 16 องศาเซลเซียส ต่ำสุดตั้งแต่
ปี 2514 ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่อากาศหนาวเย็นที่สุด
อุณหภูมิติดลบ 32 องศาเซลเซียสเมื่อวันจันทร์ที่ 4 มกราคม ก่อนสูงขึ้นเป็น
ติดลบ 17 องศาเซลเซียส ในวันพุธที่ 6 มกราคม

          ภูมิภาคอื่นๆที่เผชิญสภาพอากาศ หนาวเย็นผิดปกติในช่วงนี้ รวมทั้ง
เกาหลีใต้ ซึ่งหิมะตกหนักในกรุงโซล ขณะที่ภาคใต้ของสหรัฐอเมริกา
สภาพอากาศหนาวเย็นจัด ทำให้เกษตรกรต้องรีบเก็บเกี่ยวพืชผล ส่วนนักท่องเที่ยว
ที่หวังไปอาบแดดอุ่นๆในภูมิภาคกัลฟ์ โคสต์ ในรัฐเท็กซัส หลุยเซียนา มิสซิสซิปปี
อลาบามา และฟลอริดา กลับต้องเผชิญความหนาวเหน็บแทน

          ขณะ เดียวกัน ที่กรุงเทพมหานคร ก็ปรากฏว่ามีฝนตกลงมาอย่างหนัก
ตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงค่ำของวันที่ 6 มกราคม หลังจากที่มีฟ้าครึ้มมืดมัวมาตั้งแต่เช้า
ทั้งที่เป็นช่วงอยู่ในฤดูหนาว แต่กลับมีฝนหลงฤดูตกลงมา ส่งผลให้รถราติดขัด
ยาวเหยียด เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ การจราจรบนถนนสายหลัก อาทิ
ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนลาดพร้าว ถนนรามคำแหง ถนนพหลโยธิน ถนนจรัญสนิทวงศ์
เป็นอัมพาต เกิดอุบัติเหตุรถชนในหลายพื้นที่

          นายบุญธรรม ตั้งล้ำเลิศ หัวหน้าเวรพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
กล่าวว่า สาเหตุที่เกิดฝนตกหนักในกรุงเทพฯ และหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เกิดจาก
บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนอ่อนกำลังลง ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้
พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้ เข้ามาปกคลุมบริเวณภาคกลาง ทำให้บริเวณภาคกลาง
กรุงเทพฯ ปริมณฑล มีฝนตกหนัก และภาคอื่นๆมีฝนฟ้าคะนองในช่วงนี้ คาดว่า
คืนวันที่ 6 มกราคม บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะเคลื่อนเข้ามา
ปกคลุมประเทศ ไทยตอนบน ทำให้ทั่วประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม
มีฝนฟ้าคะนองลดลง และอุณหภูมิลดลง 1-3 องศา

          นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ศูนย์จัดการความรู้ด้านการเปลี่ยนแปลง
ภูมิอากาศ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยถึงสภาพอากาศแปรปรวน
ฝนตกช่วงฤดูหนาวว่า เกิดจากลมตะวันออกเฉียงใต้พัดมวลอากาศร้อนชื้นเข้ามาสู่
ประเทศไทย ทำให้มวลอากาศเย็นหดตัวขึ้นไปทางเหนือ ส่งผลให้เกิดฝนตกกระจายในบางพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นภายในสัปดาห์นี้ และจะกลับเข้าสู่หน้าหนาวอีกครั้ง
ตลอดเดือน ม.ค. ขณะเดียวกันปัญหาที่ไทยจะเจอแน่คือ ปรากฏการณ์เอลนินโญ่
ระดับรุนแรงในรอบ 10 ปี โดยจะทำให้เกิดภาวะร้อนและแล้งมากกว่าปีที่ผ่านมา
มีการคาดการณ์แล้วว่าจะส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้น 40-42 องศาในบางพื้นที่
โดยเฉพาะภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพฯ น่าจะเกิน 40 องศา
โดยช่วงร้อนที่สุดอยู่ระหว่าง เดือนมีนาคม ไปจนถึง เดือนเมษายน ซึ่งวันที่ร้อนที่สุด
คือ วันที่ 22 เมษายน นี้

          ทางด้านนายสัญญา ชีนิมิตร ผอ.สำนักระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า
สภาพฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 16.30 น. มีปริมาณสูงสุดบริเวณพื้นที่
เขตห้วยขวาง 120 มิลลิเมตร/เซนติเมตร ส่วนพื้นที่อื่นๆ เช่น ลาดพร้าว รามคำแหง
มีปริมาณ 97 มิลลิเมตร/เซนติเมตร ถนนหลายสายรถราติดขัด มีน้ำท่วมขังสูงถึง
10 เซนติเมตร เช่นที่ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนรัชดาภิเษก กทม. ได้เร่งระบายน้ำออกจาก
ผิวจราจรแล้ว เหลือถนนบางสายที่ปริมาณน้ำท่วมขังยังสูง