[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม => ข้อความที่เริ่มโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 29 สิงหาคม 2553 13:09:01



หัวข้อ: โลกุตรปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 29 สิงหาคม 2553 13:09:01
(http://uyfz9q.bay.livefilestore.com/y1puTNeIR0x-HfiWEVpdT-pZ0UkYSPx5WiTH8dHYFqkkig1OWbxPEqmUqVPuSlAT66uNDJ0Qp_Ote_Jy_gAQKcO7c0C4Yg3aE8O/P3312.jpg?psid=1)


http://www.youtube.com/v/7LE4wtPaano?fs=1&hl=en_US


ผู้ประกอบด้วยโลกุตรปัญญาอันลึกซึ้งได้มองเห็นว่า โดยธรรมชาติแท้แล้ว ขันธ์ทั้งห้านั้นว่างเปล่าและด้วยเหตุที่เห็นเช่นนั้น จึงได้ก้าวล่วง พ้นจากความทุกข์ทั้งปวงได้รูปไม่ต่างจากความว่าง ความว่าง ก็ไม่ต่างไปจากรูปรูปคือความว่างนั่นเอง และความว่างก็คือรูปนั่นเองเวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ก็เป็นดังนี้ด้วยสารีบุตร ธรรมทั้งหลาย มีธรรมชาติแห่งความว่าง ไม่ได้เกิดขึ้นและไม่ได้ดับลงไม่ได้สะอาดและไม่ได้สกปรก ไม่ได้เพิ่มขึ้นไม่ได้ลดลงดังนั้น ในความว่างจึงไม่มีรูป ไม่มีเวทนา หรือสัญญา ไม่มีสังขาร หรือวิญญาณไม่มีตาหรือหู ไม่มีจมูกหรือลิ้น ไม่มีกายหรือจิต ไม่มีรูปหรือเสียง ไม่มีกลิ่นหรือรสไม่มีโผฏฐัพพะหรือธรรมารมณ์ ไม่มีโลกแห่งผัสสะ หรือวิญญาณไม่มีอวิชชา และไม่มีความดับลงแห่งอวิชชา ไม่มีความแก่และความตายและไม่มีความดับลงซึ่งความแก่ และความตาย ไม่มีความทุกข์และไม่มีต้นเหตุแห่งความทุกข์ ไม่มีความดับลงแห่งความทุกข์และไม่มีมรรคทางให้ถึง ซึ่งความดับลงแห่งความทุกข์ไม่มีการประจักษ์แจ้งและไม่มีการลุถึง เพราะไม่มีอะไรที่จะต้องลุถึงพระโพธิสัตว์ผู้วางใจในโลกุตรปัญญา จะมีจิตที่เป็นอิสระจากอุปสรรคสิ่งกีดกั้นเพราะจิตของพระองค์เป็นอิสระจาก อุปสรรคสิ่งกีดกั้นพระองค์จึงไม่มีความกลัวใด ๆ ก้าวล่วงพ้นไปจากมายาหรือสิ่งลวงตาลุถึงพระนิพพานได้ในที่สุด พระพุทธในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตผู้ทรงวางใจในโลกุตรปัญญา ได้ประจักษ์แจ้งแล้วซึ่งภาวะอันตื่นขึ้นอันเป็นภาวะที่สมบูรณ์และไม่มีใดอื่นยิ่ง ดังนั้น จงรู้ได้เถิดว่า โลกุตรปัญญาเป็นมหาธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นธรรมแห่งความรู้อันยิ่งใหญ่เป็นสิ่งอันไม่มีสิ่งอื่นยิ่งกว่า เป็นมนต์อันไม่มีสิ่งอื่นใดมาเทียบได้ซึ่งจะตัดเสียซึ่งความทุกข์ทั้งปวงนี่เป็นสัจจะ เป็นอิสระจากความเท็จทั้งมวล ในใจของตน{อัตนาโจทยัตตานัง}จงกล่าวโทษเตือนตนไว้เสมอ{สัพพะปาปัสะอกรณังละเว้นความชั่ว}กุสลัสสูปสัมปทา ทำแต่ความดีสจิตตะปริโยทปนัง ทำจิตใจให้ผ่องใส{เอตังพุทธานะสาสะนัง}พระพุทธเจ้าทรงสอนเช่นนี้เหมือนกันหมด อัตตาหิอัตโนนาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน โกหินาโถปโรสิยา ใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้อัตตาหิสุทันเตนะ เมื่อฝึกตนดีแล้วนาถังลภะติทุลภัง จะได้ที่พึ่งอันบุคคลอื่นหาได้ยาก


จิตแบ่งแยก ไม่แปลก ไม่แยกที่ถ้าจิตดี ไม่ไปตาม แสวงหาถ้าจิตยุ่ง ไม่ต้องพร่ำ พรรณนาถ้าจิตหา ไม่ต้องตาม ไปหาใคร
จิตที่ใช่ จิตที่มอง ไม่ต้องคิดผิดที่จิต ผิดที่ทาง ผิดที่ไหนผิดที่คน ผิดที่พูด ผิดร่ำไปผิดที่ใช่ ผิดที่พา ผิดที่ดู