หัวข้อ: บุคคลเริ่มตั้งความเพียรในกุศลธรรม เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 04 กันยายน 2553 17:09:42 (http://lh4.ggpht.com/_0PApGu2nb30/TEftE_dRx7I/AAAAAAAAAvM/YKFo3xwGYWw/buddha1-1.gif) (http://lh6.ggpht.com/_0PApGu2nb30/TGiyduIjdsI/AAAAAAAAAzA/G90RXM-MtB8/IMG0051.jpg) http://www.fungdham.com/download/song/allhits/21.wma ภาพทางลงจากสวรรค์ค่อย ๆ เดินลงมาเดี๋ยวหกล้ม ถ่ายภาพโดย(บางครั้ง) ถาม -> ขอเรียนถามท่านอาจารย์ครับถ้าขณะที่สติระลึกในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏก็ เป็นการแสดงว่าถ่ายถอน{อัตตสัญญา}ออกไปที่ละเล็ก - ทีละน้อยใช่ไหม ? ท่านอาจารย์ ถ้าไม่ระลึกไม่มีโอกาสที่จะศึกษาให้เข้าใจลักษณะของสภาพธรรม ในขณะนั้นตามความเป็นจริงแต่ขณะที่กำลังระลึกนี้ขึ้นอยู่กับปัญญาว่าปัญญา สามารถจะเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมนั้นถูกต้องหรือยังเพราะว่าถ้าเป็นผู้ที่เรี่ม อบรมเจริญปัญญาจริง ๆ สติเกิดระลึกลักษณะของสภาพธรรมแต่เมื่อยังไม่ได้ศึกษา ความต่างกันของนามธรรมและรูปธรรมขณะนั้นจะกล่าวไม่ได้ว่าสามารถที่จะรู้ชัดใน ลักษณะของสภาพธรรมว่าไม่ใช่ตัวตนเพราะว่ามักจะมีความคิดเกิดขึ้นแทรกขณะนั้น ไม่ได้รู้ลักษณะของสภาพธรรมแล้วภายหลังระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมอีกแต่ ก็ยังไม่สามารถที่จะรู้ชัดว่านามธรรมต่างกับรูปธรรมจนกว่าจะระลึกเนือง ๆ บ่อย ๆ แล้ว ก็พิจารณาเพี่มขึ้นแล้วบุคคลนั้นเองจะเป็นผู้รู้เองว่า ปัญญาค่อย ๆ เข้าใจลักษณะของ สภาพธรรมเพี่มขึ้นหรือว่ายังถ้ายังก็ระลึกอีกเนือง ๆ บ่อย ๆ เพราะว่าเป็นหนทาง เดียวในเมื่อสภาพธรรมก็มีจริง ๆ แล้วก็กำลังปรากฏด้วยแต่เมี่อ{สติ}เพี่งเรี่มระลึกปัญญา ยังไม่สามารถที่จะเข้าใจได้ทันทีต้องอาศัยการฟังการเข้าใจจากการฟังเรื่องของ นามธรรมและรูปธรรมจนเมี่อ{สติ}ระลึกอีกก็มีปัญญาซึ่งเข้าใจเรื่องงของนามธรรม และรูปธรรมเพิ่มขึ้นอีกนั้นเป็นเหตุที่สามารถจะเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมที่สติ กำลังระลึกได้ค่อย ๆ เพี่มขึ้นโดยอาศัยการฟังการเข้าใจและเมี่อ{สติ}ระลึกเพราะ เข้าใจแล้วก็สามารถจะพิจารณาได้ถูกต้องว่าลักษณะใดเป็นสภาพ นามธรรม สภาพใดเป็นรูปธรรม เมื่อบุคคลเริ่มตั้งความเพียรอันใดอยู่ อกุศลธรรมทั้งหลายย่อมเจริญยิ่ง กุศลธรรมทั้งหลายย่อมเสื่อมไป เรากล่าวการเริ่มตั้งความเพียร เห็นปานนั้นว่า ไม่ควรเริ่มตั้ง เมื่อบุคคลเริ่มตั้งความเพียรอันใดอยู่ อกุศลธรรมทั้งหลายย่อมเสื่อมไป กุศลธรรมทั้งหลายย่อมเจริญยิ่ง เรากล่าวการเริ่มตั้งความเพียร เห็นปานนั้นว่าควรเริ่มตั้ง หัวข้อ: Re: บุคคลเริ่มตั้งความเพียรในกุศลธรรม เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 04 กันยายน 2553 17:25:21 (http://lh4.ggpht.com/_0PApGu2nb30/TEftE_dRx7I/AAAAAAAAAvM/YKFo3xwGYWw/buddha1-1.gif) (http://lh6.ggpht.com/_0PApGu2nb30/TGiyduIjdsI/AAAAAAAAAzA/G90RXM-MtB8/IMG0051.jpg) ผู้ฟัง แสดงว่าปัญญาขั้นต้นนี่ ท่านอาจารย์ ชัดไม่ได้ ชัดได้ก็เป็น{พระโสดาบัน}เป็นพระอรหันต์กันแล้ว ผู้ฟัง ค่อย ๆ เพี่มขึ้น ท่านอาจารย์ โดยผู้นั้นเองเป็นผู้ที่รู้ตามความเป็นจริงถ้ายังสงสัยความสงสัยก็มี จริง ๆ ถ้าค่อย ๆ รู้แล้วก็สงสัยอีกเพราะว่าระลึกแล้วรู้นิดเดียวแล้วก็หมดไปอีกและ {อวิชชา}ก็เกิดมากมาย โลภะบ้าง โทสะบ้างในวันหนึ่ง ๆ พอ{สติ}เเรี่มระลึกใหม่ความรู้ เดิมก็ไม่พอที่จะรู้ได้ว่าขณะนั้นป็นนามธรรมและรูปธรรรมด้วยเหตุนี้ผู้ที่อบรมเจริญ ปัญญาจึงรู้ว่าไม่ใช่เรื่องบังคับแต่เป็นเรื่องเข้าใจถูกตั้งแต่ต้นว่าแม้{สติ}ก็ต้องมีเหตุ ปัจจัยที่จะเกิดขึ้นและปัญญาที่จะรู้มากหรือรู้น้อยก็จะต้องอาศัยเหตุปัจจัยด้วยถ้า เป็นผู้ที่ได้ยินได้ฟังน้อยไม่รู้เรื่องนามธรรมและรูปธรรมแล้วก็บอกให้{สติ}ระลึกไม่ สามารถที่จะเข้าใจลักษณะของนามธรรมหรือรูปธรรมในขณะนั้นว่าไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคลเพราะว่าการฟังน้อยความเข้าใจน้อย ผู้ฟัง ถึงแม้ว่าจะเป็นวิปัสสนาญาณขั้นที่ ๑ แล้วที่อ่านจากหนังสือท่านอาจารย์ก็ บอกว่าแม้ประจักษ์ขั้น ๑ แล้วโลกก็ยังรวมกันอีก ท่านอาจารย์ วิปัสสนาญาณไม่ใช่ปํญญาขั้นต้นแต่เป็นผลของการอบรมเจริญจน กระทั่งถึงพร้อมในขณะที่ปัญญาแทงตลอดลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ โดยไม่มีสภาพธรรมอื่นปะปนทีละอย่างเพราะฉะนั้นก็ไม่มีโลกที่รวมกันปรากฏ เหมือนในขณะนี้แต่แม้กระนั้นก็ไม่สามารถที่จะดับกิเลสได้เป็น{สมุจเฉท}เพราะ ว่าเป็นเพียงวิปัสสนาญาณขั้นต้นเป็น{ตรุณวิปัสสนา} ผู้ฟัง กราบขอบพระคุณ ท่านอาจารย์ เรื่องธรรมเป็นเรื่องจริงและทุกท่านก็พิสูจน์ได้และสามารถที่ จะรู้ปัญญาของตนเองได้ บรรยายธรรมโดยท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์ มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา สำนักงานเลขที่ 174/1 ซอย เจริญนคร78 ดาวคะนอง ธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600 โทร 02 - 4680239 |