[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ อนามัย => ข้อความที่เริ่มโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 06 กันยายน 2553 12:19:10



หัวข้อ: ข้อโต้แย้ง กรณี ดื่มน้ำเย็นเป็นอันตราย ทำให้เกิดมะเร็งได้
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 06 กันยายน 2553 12:19:10
จากกรณีฟอร์เวิร์ดเมลล์
ที่กระจายไปทั่ว บอกไว้ว่า
การดื่มน้ำเย็นเป็นอันตรายต่อร่างกาย
ถึงขั้นทำให้เกิดมะเร็ง
ตามข้อความด้านล่าง



(http://upic.me/t/3y/21untitled1.jpg) (http://upic.me/i/3y/21untitled1.jpg)

บทความนี้ สำหรับคนที่ชอบกินน้ำเย็น โดยเฉพาะ

เวลาได้กินน้ำเย็นๆ สักแก้ว หลังอาหาร   รู้สึกมันชื่นใจดีใช่มั้ยครับ แต่ว่า น้ำเย็นจะทำให้ไขมัน
ที่คุณเพิ่งกินเข้าไปเมื่อกี๊จับตัวเป็นไขขึ้นมา ซึ่งจะส่งผลให้การย่อยอาหารช้าลง ถ้าคราบไขมันเหล่านี้
ไปทำปฏิกิริยากับกรด มันจะแตกตัวแล้วจะถูกดูดซึมไปที่ลำไส้   ไขมันที่แตกตัวนี้จะดูดซึมได้เร็ว
กว่าอาหารทั่วไป  แล้วก็จะเริ่มเคลือบลำไส้ของเราไว้  (ด้านใน) ในไม่ช้ามันก็จะแปรสภาพเป็น
ไขมันก้อนๆ  และเป็นบ่อเกิดของมะเร็งในที่สุด     ดังนั้นควรดื่มน้ำอุ่นหลังอาหารดีกว่า   ขอเพิ่มเติม
เกี่ยวกับอาการของโรคหัวใจ  เวลาที่เกิดอาการไม่จำเป็นว่าจะต้องเจ็บที่แขนซ้ายเสมอไป
ถ้าคุณมีอาการปวดกรามหรือขากรรไกรก็อาจจะเป็นสัญญาณของโรคหัวใจได้ แม้ว่าคุณจะเป็นโรคหัวใจ 
แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องมีอาการเจ็บหน้าอก    อาการเหงื่อออก คลื่นไส้ ก็เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับ
โรคทั่วๆไป     60 %  ของคนที่โรคหัวใจกำเริบขณะหลับมันจะไม่ตื่น(อีกเลยรึเปล่าก็ไม่รู้) 
แต่อาการปวดกราม อาจจะทำให้คุณตื่นขึ้นมากลางดึกได้   ก็ให้ระวังดูและตัวเองถ้ามีอาการเหล่านี้  





ดูน่ากลัวใช่ไม๊ครับ ถ้างั้นเราเลื่อนลงไปอ่านข้อเท็ริงกันดีกว่า




หัวข้อ: Re: ข้อโต้แย้ง กรณี ดื่มน้ำเย็นเป็นอันตราย ทำให้เกิดมะเร็งได้
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 06 กันยายน 2553 12:19:59
          ผู้เขียนได้รับอีเมลฉบับหนึ่ง จั่วหัวว่า “ดื่มน้ำเย็น สดชื่นดี แต่อันตราย” พอเปิดอ่านตอนแรกก็ตกใจ เพราะปัจจุบันใคร ๆ ก็ดื่มน้ำเย็นกันทั้งนั้น โดยข้อความที่ส่งต่อ ๆ กันมามีใจความว่า “เวลาได้กินน้ำเย็น ๆ สักแก้ว หลังอาหารมันรู้สึกชื่นใจดีใช่มั้ยครับ แต่ว่าน้ำเย็น จะทำให้ไขมันที่คุณเพิ่งกินเข้าไปจับตัวเป็นไขขึ้นมา ซึ่งจะส่งผลให้การย่อยอาหารช้าลง ถ้าคราบไขมันทำปฏิกิริยากับกรด มันจะแตกตัวแล้วถูกดูดซึม  ไปที่ลำไส้ ไขมันที่แตกตัวนี้จะดูดซึมได้เร็วกว่าอาหารทั่วไปแล้วจะเคลือบลำไส้เราไว้ ในไม่ช้ามัน ก็จะแปรสภาพเป็นไขมันก้อน ๆ และเป็นบ่อเกิดของมะเร็งในที่สุด ดังนั้นควรดื่มน้ำอุ่นหลังอาหาร ดีกว่า”       
 
          เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผอ.ศูนย์เวชศาสตร์  อายุรวัฒน์นานาชาติ อธิบายว่า ความจริงการดื่มน้ำเย็นหลังอาหารคงไม่เป็นอันตราย   ถึงขั้นทำให้ไขมันจับตัวเป็นไขเป็นก้อนขนาดนั้น เพราะปกติอุณหภูมิร่างกายคนเราอยู่ที่ประมาณ 37 องศาเซลเซียส น้ำที่เราดื่มเข้าไปถึงจะเย็น แต่ร่างกายเราร้อนอยู่แล้ว ก็จะเปลี่ยนให้เป็นน้ำอุ่น ๆ อยู่ดี ไขมันกว่าจะจับกันเป็นก้อนแข็ง ต้องอาศัยอุณหภูมิเหมือนอยู่ในตู้เย็น 3-4 องศาเซลเซียส กรณีนี้จึงเป็นข้อความหลอก
 
          ถ้าถามว่า เราควรจะดื่มน้ำเย็นหรือน้ำอุ่นดี ก็ต้องขอเรียนว่า น้ำเย็นจะช่วยเติมน้ำให้ร่างกายได้ดีกว่าน้ำอุ่น เพราะว่าน้ำเย็นดูดซึมได้เร็วกว่า ตรงนี้เป็นข้อมูลจากสถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬาของสหรัฐ เขาบอกเลยว่า น้ำที่ควรจะดื่มถ้าอยากให้สดชื่น ออกกำลังกายได้อึดขึ้น อุณหภูมิควรอยู่ที่ประมาณ 15-22 องศาเซลเซียส  หรือง่าย ๆ คือ ให้ดื่มน้ำที่อุณหภูมิต่ำกว่าอุณหภูมิร่างกาย
 
          ไม่มีงานวิจัยฉบับไหนเลย ที่บอกว่าดื่มน้ำเย็นแล้วจะเป็นมะเร็ง  อีเมลในลักษณะนี้มีการส่งต่อกันไปทั่ว แม้แต่ในต่างประเทศ ดูเหมือนจะเป็นวิชาการ แต่กลับไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มารับรอง ทำให้คนกลัวกันมาก ดังนั้นคนที่ได้รับอีเมลจะต้องใช้วิจารณญาณให้ดี
 
          การดื่มน้ำเย็นเป็นผลดีด้วยซ้ำเพราะจะช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกาย เนื่องจากร่างกายต้องใช้พลังงานในการทำให้น้ำอุ่นขึ้น โดยน้ำ 1 แก้ว จะช่วยเผาผลาญไขมันประมาณ 9 กิโลแคลอรี  ถ้าเราดื่มน้ำ 8 แก้วก็จะเผาผลาญไขมันได้ถึง 70 กิโลแคลอรีเลยทีเดียว นั่นก็หมายความว่า ยิ่งดื่มน้ำมาก ก็จะยิ่งช่วยลดความอ้วน แต่ในคนที่กำลังลดความอ้วน ลดปริมาณอาหารแต่ลืมดื่มน้ำ ต้องระวัง เพราะน้ำหนักจะไม่ลง เพราะน้ำคือตัวช่วยทำให้ไขมันสลายเร็วขึ้นนั่นเอง
 
          ส่วนที่หลายคนสงสัยว่าการดื่มน้ำมากๆไตจะทำงานหนักไปหรือไม่  ก็ต้องบอกว่าน้ำจะเป็นพิษต่อร่างกายนั้น ต้องดื่มมากเป็น 10 ลิตร อย่างเช่น กรณีการรับน้องแบบพิเรนทร์ ๆ ที่เราเห็นข่าวกัน ส่วนคนทั่วไปดื่มน้ำอย่างเก่งสัก 5 ลิตรก็ไม่เป็นอะไร
 
          ดังนั้นไม่ว่าจะดื่มน้ำเย็น น้ำร้อน หรือน้ำอุณหภูมิปกติ ก็ไม่เป็นปัญหาอะไร หลักการง่ายๆ คือน้ำเย็นควรดื่มเวลาออกกำลังกาย จะดูดซึมเร็ว แต่มีข้อห้ามในผู้หญิงที่มีประจำเดือน ไม่ควรดื่มน้ำเย็น เพราะจะยิ่งทำให้ปวดท้องมากขึ้น ส่วนน้ำอุ่นควรดื่มเพื่อกระตุ้นลำไส้ ทำให้ลำไส้บีบตัวดี เช่นเวลาท้องเสีย เจ็บคอ เป็นหวัด
 
          นพ.กฤษดา บอกว่า ใครที่ไม่อยากแก่ ต้องดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ผิวหนังชุ่มชื้น เนื่องจากผิวที่แก่เกิดจากการขาดน้ำ การดื่มน้ำมาก ๆ ยังช่วยทำให้สมองปลอดโปร่ง แต่ถ้าดื่มน้ำน้อย โดยเฉพาะในผู้ชายอาจทำให้น้ำไปเลี้ยงอสุจิไม่พอ ทำให้อสุจิไม่แข็งแรง และเซ็กซ์เสื่อมได้ 
   
          ในคนที่มีอาการคล้ายจะเป็นหวัด เช่น ปากแห้ง ตาแห้ง อย่าเพิ่ง กินยา ให้ดื่มน้ำมาก ๆ สักพักจะหายได้ โดยไม่ต้องพึ่งยา ที่เป็นเคล็ดสำหรับคนดื่มเหล้า คือ ถ้ากลัวว่า จะแฮงก์ควรดื่มน้ำตามเข้าไปประมาณ 4 เท่าของเหล้าที่ดื่มก็จะช่วยได้
 
          แต่ละวันเราควรดื่มน้ำมากน้อยแค่ไหน? นพ.กฤษดา บอกว่าควรดื่มน้ำตามน้ำหนักตัวคือ ดื่มน้ำ 1 ออนซ์ ต่อน้ำหนักตัว 1 กก.  ถ้าน้ำหนักตัว 60 กก.ก็ต้องดื่มน้ำ 60 ออนซ์  โดยน้ำ 1 ออนซ์ก็ประมาณ 30 ซีซี คนน้ำหนัก    60 กก. ก็ต้องดื่มน้ำประมาณ 1,800 ซีซี.

http://guru.sanook.com/pedia/topic/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B9%87%E0%B8%99/ (http://guru.sanook.com/pedia/topic/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B9%87%E0%B8%99/)