[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4 => ข้อความที่เริ่มโดย: phonsak ที่ 07 กันยายน 2553 00:31:49



หัวข้อ: พระเจ้าในศาสนาคริสต์ ฮินดู พุทธ(เถรวาท) มีลักษณะตรงกันเปี๊ยบเลย
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 07 กันยายน 2553 00:31:49
พระเจ้าในศาสนาคริสต์ ฮินดู พุทธ(เถรวาท) มีลักษณะตรงกันเปี๊ยบเลย


สัจธรรมสุงสุดย่อมมีเพียงหนึ่งเดียว   ถ้าไม่ใช่อย่างนั้น  พระเจ้าของคริสต์ พระเจ้าของฮินดู เต๋า พระพุทธเจ้า พระเจ้าของอิสลาม ฯลฯ ก็ต้องตีกันเละเทะเพื่อแย่งชิงอำนาจเป็นแน่แท้    อย่างไรก็ตาม...คนที่จิตไม่เห็นธรรม ถูกครอบงำด้วยกิเลสตัณหา เขาย่อมตีความสิ่งสูงสุดไม่ออกว่าสิ่งสูงสุดเป็นสิ่งเดียวกัน  เขาจะเห็นเสมอว่า สิ่งสูงสุดของตนเหนือกว่าสิ่งสูงสุดของศาสนาอื่นอยู่ร่ำไป  แม้แต่เรื่องง่ายๆ เช่น ลักษณะของพระเจ้าที่ตรงกัน เขาย่อมมองไม่เห็น 

ผมจะนำลักษณะของพระเจ้ามาเทียบให้เห็นง่ายๆแค่ 3 เรื่องก่อนว่า เหมือนกันเปี๊ยบเลย  คือ

1.  พระผู้เป็นเจ้า(ยะโฮวาห์) ในศาสนาคริสต์ ไม่เกิดแก่เจ็บตาย ทรงเป็นสัพพัญญู ทรงเป็นผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง
2.  พระพุทธเจ้า(พระธรรม) ในศาสนาพุทธ ไม่เกิดแก่เจ็บตาย ทรงเป็นสัพพัญญู ทรงเป็นผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง
3.  พระพรหมสูงสุด ในศาสนาพราหมณ์ ไม่เกิดแก่เจ็บตาย ทรงเป็นสัพพัญญู ทรงเป็นผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง

คราวนี้ดูหลักฐานนะครับ


1.  พระผู้เป็นเจ้า(ยะโฮวาห์) ในศาสนาคริสต์ 1.ไม่เกิดแก่เจ็บตาย 2.ทรงเป็นสัพพัญญู 3.ทรงเป็นผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง


หลักคำสอนของคริสเตียน 1.4 พระเจ้า  ผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด...ทรงเป็นอมตะ ไม่มีการเกิดแก่เจ็บตาย ดำรงอยู่เป็นนิตย์นิรันดร์

พระเจ้าเข้าใจทุกสิ่งเกี่ยวกับเรา (1-6)  “พระเจ้าทรงสัพพัญญู(omniscience)  รอบรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง”


2.  พระพุทธเจ้า ในศาสนาพุทธ 1.ไม่เกิดแก่เจ็บตาย 2.ทรงเป็นสัพพัญญู 3.ทรงเป็นผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง


พระพุทธเจ้า (กายเนื้อที่เป็นมนุษย์ของท่านแค่รูปมายา) ข้างในท่านเป็นพระธรรม ไม่เกิดแก่เจ็บตาย ทรงเป็นสัพพัญญู ทรงเป็นผู้สร้างทุกสรรพสิ่งด้วย
   
พระสูตรต่างๆ:

   ......  ภิกขุสูตร ที่ ๒ มหา. สํ. (๓๑-๓๒): “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความกำจัดราคะ โทสะ ความกำจัดโมหะ นี้เป็นชื่อแห่ง นิพพานธาตุ ความสิ้นราคะ ความสิ้นโทสะ ความสิ้นโมหะ นี้เรียกว่า อมตภาพ" = พระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บไม่ตาย และเป็นอมตะ

   ...... คำที่ใช้กล่าวเรียกพระพุทธเจ้า -- สัพพัญญู, พระสัพพัญญูสัมพุทธเจ้า หมายถึง ท่านผู้รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง (พระพุทธเจ้า - วิกิพีเดีย)

   ...... ควรเรียกบุคคลผู้นั้นว่าเป็นบุตร เป็นโอรส เกิดแต่โอษฐ์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้เกิดจากธรรม เป็นธรรมนิรมิต (ผู้ที่ธรรมสร้าง) เป็นธรรมทายาท (ทายาทแห่งธรรม) ข้อนั้นเพราะเหตุไร? เพราะคำว่า " ธรรมกาย " ก็ดี " พรหมกาย " ก็ดี " ธรรมภูต " ก็ดี " พรหมภูต " ก็ดี เป็นชื่อของตถาคต "
  (ที.ปา. 11/51/91)
     
   พระเจ้าของคริสต์ ตรงกับ พระพุทธเจ้าที่เป็นพระธรรมหรือไม่ล่ะ?


3.  พระพรหมสูงสุด ในศาสนาพราหมณ์ 1.ไม่เกิดแก่เจ็บตาย 2.ทรงเป็นสัพพัญญู 3.ทรงเป็นผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง


คราวนี้ลองเอาพระเจ้า(พรหม)ในศาสนาพราหมณ์มาเปรียบเทียบด้วย  จะได้เห็นชัดเจนว่า สัจธรรมสูงสุดเป็นเรื่องเดียวกันจริงๆ

ในคัมภีร์อุปนิษัทกล่าวว่า

"เราเปล่าเปลี่ยว เพราะมีมาก่อนสรรพสิ่งและดำรงอยู่  ทั้งจะต้องดำรงอยู่ต่อไป  ไม่มีใครมาทำให้แปรผันได้ 1. เราคืออมตะแต่ก็ไม่ทรงสภาวะอมตะ 2. สามารถเล็งเห็นทุกอย่าง  และไม่สามารถเล็งเห็นเราคือพรหมและเรามิใช่พรหม"

"พวกเราเป็นบุตรเกิดจากอุระ เกิดจากปากของพระพรหม เกิดจากพระพรหม 3. พระพรหมเนรมิตขึ้นมา   เป็นทายาทของพระพรหม"

   
 สรุป
   

สัจธรรมสุงสุดของคริสต์ พุทธ(เถรวาท) ฮินดู มีลักษณะ1.ไม่เกิดแก่เจ็บตาย 2.ทรงเป็นสัพพัญญู 3.ทรงเป็นผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง ตรงกันเปี๊ยบเลย  จะให้ผมเปรียบเทียบกับศาสนาอื่นไหมล่ะครับ    ผมจึงบอกว่า สัจธรรมสูงสุดย่อมมีเพียงหนึ่งเดียว   คนเห็นธรรม เข้าถึงธรรม ย่อมเข้าใจ


หัวข้อ: Re: พระเจ้าในศาสนาคริสต์ ฮินดู พุทธ(เถรวาท) มีลักษณะตรงกันเปี๊ยบเลย
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 07 กันยายน 2553 01:42:15
“สัพพัญญู” คือ ผู้รู้สิ่งทั้งปวง

ถ้าคุณจะเทียบพระพุทธเจ้าเป็นพระธรรมผมก็ว่าไม่ใช่อีก

และค่อนข้างไม่เห็นด้วยกับคำว่ากายเนื้อท่านเป็นแค่รูปมายา

นั่นคือคุณกำลังสื่อว่าพระพุทธเจ้า กับ พระธรรม เหมือนกัน ทั้งที่

พระธรรม หมายถึง ธรรม ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงค้นพบและนำออกเผยแผ่

หรือคำสอนของพระพุทธเจ้า










.............



ตายห่า ผมอ่านกระทู้คุณผมไม่อยากออกความเห็นเลย

ทุกครั้งที่อ่านผมจะหัวตื้อ อยากหาอะไรมาค้านมากมาย

แต่มันเหมือนกับเราเห็นนรกเบื้องหน้า จะเอาขาหย่อนไปทำไม

ผมเปิดใจรับความรู้ใหม่เสมอ

แต่ให้ตายเหอะ กระทู้คุณมันเฉียดนรกจนผมไม่กล้ายุ่ง

เอาว่าผมไม่เถียงดีกว่า

...


หัวข้อ: Re: พระเจ้าในศาสนาคริสต์ ฮินดู พุทธ(เถรวาท) มีลักษณะตรงกันเปี๊ยบเลย
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 07 กันยายน 2553 15:08:34
“สัพพัญญู” คือ ผู้รู้สิ่งทั้งปวง
ถ้าคุณจะเทียบพระพุทธเจ้าเป็นพระธรรมผมก็ว่าไม่ใช่อีก
และค่อนข้างไม่เห็นด้วยกับคำว่ากายเนื้อท่านเป็นแค่รูปมายา
นั่นคือคุณกำลังสื่อว่าพระพุทธเจ้า กับ พระธรรม เหมือนกัน ทั้งที่

พระธรรม หมายถึง ธรรม ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงค้นพบและนำออกเผยแผ่ หรือคำสอนของพระพุทธเจ้า


นั่นคิอความหมายของพระธรรมในระดับพื้นๆสำหรับคนที่เข้าไม่ถึงธรรม  สำหรับคนเข้าถึงธรรมแล้ว - พระอริยะเจ้าและพระอรหันต์  ท่านย่อมรู้ว่า  พระพุทธเจ้าย่อมไม่พูดเล่นๆแน่

"ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต ผู้ใดเห็นเราตถาคต ผู้นั้นเห็นธรรม"

หลักฐานในคัมภีร์และหลักฐานจากผู้ปฏิบัติ(พระอริยะเจ้าและพระอรหันต์ผู้เข้าถึงธรรม)ที่ชี้ว่า “พระพุทธเจ้ายังคงอยู่”


1... หลักฐานในพระไตรปิฎก  

พระพุทธเจ้าตรัสอย่างชัดเจนว่า

“ ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต ผู้ใดเห็นเราตถาคต ผู้นั้นเห็นธรรม “

แต่สมมุติสงฆ์และปถุชนที่ไม่ปฏิบัติสมถะและวิปัสสนากรรมฐาน ตีความพุทธพจน์บทนี้ไม่ได้ ก็เลยไปคิดว่า น่าจะเป็นการเปรียบเทียบ หรือการอุปมาอุปมัย

2... หลักฐานในพระสูตรของมหายาน  

พระพุทธเจ้าตรัสอย่างชัดเจนยิ่งกว่านี้อีก พระพุทธองค์ตรัสว่า

“ เราตถาคตได้ประกาศธรรมะ ให้ปวงสัตว์ทั้งหลายเข้าถึงสภาวะนิพพานตลอดมา เรามิได้สูญหาย และมิได้สลาย หากแต่ดำรงอยู่ในโลกนี้ เพื่อประกาศสัจธรรมอยู่นิรันดร”  

3... หลักฐานจากพระผู้ปฏิบัติของไทย  

หลวงพ่อคง หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงปู่ปาน หลวงปู่มั่น หลวงพ่อสด หลวงปู่ขาว และพระอริยะบุคคลต่างๆ โดยเฉพาะขั้นอรหันต์ ล้วนแล้วแต่สัมผัสพระพุทธเจ้าในจิตมาแล้วทั้งสิ้น  


หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เทศน์ว่า

" ดวงจิตนี้ไม่เคยสูญ แดนพระนิพพานมีจริง หลวงปู่มั่นเล่าว่า พระพุทธเจ้าหลายพระองค์เสด็จมาเยี่ยมท่าน   "


หลวงปู่ตื้อ อมจลธมโน เทศน์ว่า

" มนุษย์ที่ได้เป็นพระอรหันต์ เข้านิพพานไปแล้ว พระนิพพานก็ยังมีอยู่ไม่เสื่อมสูญ พระพุทธเจ้าเข้านิพพาน ก็มีอยู่ในพระนิพพานนั้นแล   พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร พระอนุรุทธ พระอานนท์เข้านิพพาน ก็มีอยู่ในพระนิพพานนั้นแล "


หลวงพ่อสด เทศน์ว่า

" ธรรมนั้นคือ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้ตรัสรู้พระธรรม พระธรรมได้เสกสรรค์ปั้นให้พระองค์เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อบุคคลเรา ระลึกถึงพระองค์ ท่านก็ควรระลึกถึงพระธรรม……..ได้เข้าถึงธรรมกาย คือ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  


4... หลักฐานจากผู้ปฏิบัติท่านหนึ่งในต่างประเทศ

ท่านอาจารย์ชิงไห่ ท่านก็ยืนยันว่า

พระศากยมุนีพุทธเจ้าสมัยเมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ จริงๆ แล้ว ตอนนี้ท่านก็ยังมีชีวิตอยู่…… …… ในดินแดนแห่งพุทธะ  ”

ผมขอสรุปบทความนี้ ด้วยข้อเขียนที่ของหลวงพ่อคง จัตตมโล ปรมาจารย์วิชาธรรมะเปิดโลกเล่าให้สานุศิษย์ของท่านฟัง

“ ..... ท่านจึงน้อมจิตอธิษฐาน ว่าหากคุณพระพุทธเจ้ามีจริง ขอทรงมาโปรดให้ท่านมีดวงตาเห็นธรรมด้วยเถิด ในครั้งนี้เอง ก็มีปรากฏบังเกิดขึ้นกับหลวงพ่อ ท่านได้พบพระวิสุทธิสัมมาสัมพุทธเทพ และได้รับคำแนะนำในการปฏิบัติกรรมฐาน  อาศัยบุญบารมีเก่าที่หลวงพ่อ คง เคยเป็นหลวงพ่อร่วง ผู้รจนาคัมภีร์ไตรภูมิกถาไว้สั่งสอนปวงชนมาก่อน พระพุทธองค์จึงทรงประทานธรรมะเปิดโลกให้

หลวงพ่อคง ยืนยันว่า

“องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบรมโลกเขษฐ์ ได้ทรงประทานพุทธานุญาต ให้หลวงพ่อคงโปรดแสดงธรรมะเปิดโลก แก่พสกนิกรพุทธบริษัทได้”  

และหลวงพ่อคงยืนยันอีกด้วยว่า พระพุทธเจ้ายังทรงอยู่ จากข้อความที่ว่า

“ ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต ”  


หัวข้อ: Re: พระเจ้าในศาสนาคริสต์ ฮินดู พุทธ(เถรวาท) มีลักษณะตรงกันเปี๊ยบเลย
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 09 กันยายน 2553 14:47:18
อ้างถึง
Panalio

ถามจริงเถอะครับ ว่าความรู้ทั้งหลายเยอะแยะนี้ ไปรู้มาจากไหนหรือครับ

เท่าที่เรียนรู้มา พระพุทธเจ้าไม่ได้สร้างโลก ไม่ได้สร้างสรรพสิ่งนะครับ  :talai:

1.  พระพุทธเจ้าไปเอาความรู้ทั้งหลายมาอย่างไรล่ะ จึงเรียกว่า สัพพัญญู รู้ทุกอย้าง
2.  พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าท่านสร้างโลก  อ่าน3 พระสูตรยืนยันว่า: พระพุทธเจ้าคือตรีมูรติ(พรหม/ศิวะ/นารายณ์) http://community.thaiware.com/index.php/topic/358431-3-adheuuaaanceo-adhoeaeoiuaoauauoaeaeocdhoaoali/ (http://community.thaiware.com/index.php/topic/358431-3-adheuuaaanceo-adhoeaeoiuaoauauoaeaeocdhoaoali/)
3.  แต่การสร้างโลกนี้  ไม่ได้เป็นการสร้างแบบที่คุณคิด  เราโดนสะกดจิตอยูให้เห็นว่าทุกอย่างรอบตัวเราเป็นของจริง  ทั้งๆที่มันปลอมทั้งนั้น  มันเป็นความว่างเปล่า แต่เรื่องนี้ต้องพูดกันยาว  ไว้วันหลังค่อยคุยกัน  พระพุทธเจ้าก็บอกคุณตลอดวเวลาในคำบริกรรมพุทโธ = ตื่นแล้ว รู้แล้ว  แต่เมื่อคุณยังไม่ตื่น  คุณก็ยังไม่รู้ว่า ถูกสะกดจิตให้อยู่ในโลกมายา  ก็ต้องอยู่กันต่อไป จนกว่าคุณจะรู้ตัว ตื่นขึ้น
4.  พระพุทธเจ้าเปลี่ยนจากพระเจ้าที่สร้างโลก มาเป็นพระพุทธเจ้าแทน เพราะท่านเป็นนักสะกดจิตอันดับ 1 ของจักรวาล


หัวข้อ: Re: พระเจ้าในศาสนาคริสต์ ฮินดู พุทธ(เถรวาท) มีลักษณะตรงกันเปี๊ยบเลย
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 09 กันยายน 2553 17:19:20
อ้างถึง
Panalio

ถามจริงเถอะครับ ว่าความรู้ทั้งหลายเยอะแยะนี้ ไปรู้มาจากไหนหรือครับ

เท่าที่เรียนรู้มา พระพุทธเจ้าไม่ได้สร้างโลก ไม่ได้สร้างสรรพสิ่งนะครับ  :talai:

1.  พระพุทธเจ้าไปเอาความรู้ทั้งหลายมาอย่างไรล่ะ จึงเรียกว่า สัพพัญญู รู้ทุกอย้าง
2.  พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าท่านสร้างโลก  อ่าน3 พระสูตรยืนยันว่า: พระพุทธเจ้าคือตรีมูรติ(พรหม/ศิวะ/นารายณ์) http://community.thaiware.com/index.php/topic/358431-3-adheuuaaanceo-adhoeaeoiuaoauauoaeaeocdhoaoali/ (http://community.thaiware.com/index.php/topic/358431-3-adheuuaaanceo-adhoeaeoiuaoauauoaeaeocdhoaoali/)
3.  แต่การสร้างโลกนี้  ไม่ได้เป็นการสร้างแบบที่คุณคิด  เราโดนสะกดจิตอยูให้เห็นว่าทุกอย่างรอบตัวเราเป็นของจริง  ทั้งๆที่มันปลอมทั้งนั้น  มันเป็นความว่างเปล่า แต่เรื่องนี้ต้องพูดกันยาว  ไว้วันหลังค่อยคุยกัน  พระพุทธเจ้าก็บอกคุณตลอดวเวลาในคำบริกรรมพุทโธ = ตื่นแล้ว รู้แล้ว  แต่เมื่อคุณยังไม่ตื่น  คุณก็ยังไม่รู้ว่า ถูกสะกดจิตให้อยู่ในโลกมายา  ก็ต้องอยู่กันต่อไป จนกว่าคุณจะรู้ตัว ตื่นขึ้น
4.  พระพุทธเจ้าเปลี่ยนจากพระเจ้าที่สร้างโลก มาเป็นพระพุทธเจ้าแทน เพราะท่านเป็นนักสะกดจิตอันดับ 1 ของจักรวาล


1. ความรู้ก็ได้จากการตรัสรู้ไงครับ เกิดจากการพิจารณา ทำสมาธิจนเกิดปัญญา (เท่าที่ผมรู้)

2. ความรู้เสี่ยงนรกอีกแล้วจากที่อ่านมา

อ้างถึง

โคตมะพุทธเจ้าเปลี่ยนคำว่าพรหมออก แล้วเรียกพรหมเป็นพระพุทธเจ้าบ้าง พระธรรมบ้าง


สิ่งที่คุณยกพระสูตรมาพูดกัน ในความรู้สึกผม ผมว่าเหมือนคำแปลคำทำนายนอสตราดามุส
คือแปลกันไปเรื่อย

3. ข้อสามที่อธิบายมานี่ คุณกำลังทำให้ผมคิดว่าโลกนี้มันกลายเป็น The Matrix แบบในหนัง

4. ข้อนี้ไม่ตอบ ใกล้นรกเกิน หรืออาจลงไปทั้งตัวแล้ว






หัวข้อ: Re: พระเจ้าในศาสนาคริสต์ ฮินดู พุทธ(เถรวาท) มีลักษณะตรงกันเปี๊ยบเลย
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 09 กันยายน 2553 17:28:29
แล้วอีกอย่างครับคุณ พลศักดิ์ วังวิวัฒน์

ผมไม่รู้จุดประสงค์คุณได้เลย
เกี่ยวกับการตั้งกระทู้แนว ๆ นี้ตามเวบต่าง ๆ
เหมือนคุณจงใจบิดเบือนความเชื่อ ความรู้ที่มีสืบต่อกันมา
เหมือนจงใจบอกว่าเฮ้ย ไอ้ที่รู้กันมามันผิดนะ มันไม่ใช่นะ

ผมติดตามดูกระทู้คุณมาตลอด
แต่ไม่สามารถทราบถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงได้เลยกับการ
ตั้งกระทู้พวกนี้แนวนี้

คุณเคยเล่นทั้งอะกาลิโก (ซึ่งก็ทำให้ที่นั่นปั่นป่วนมาพักนึง)
ทั้งพลังจิต (ซึ่งก็โดนแบน) ทั้งเวบเล็กเวบใหญ่ ที่คุณไป
ก็มีหลายเวบออกมาเตือนคุณ ก่อนจะแบน



หัวข้อ: Re: พระเจ้าในศาสนาคริสต์ ฮินดู พุทธ(เถรวาท) มีลักษณะตรงกันเปี๊ยบเลย
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 09 กันยายน 2553 17:29:45
อีกอย่างมันเหมือนกระทู้ดัก หรือกระทู้ล่อเป้า

ให้คนเข้ามาเถียงกันมากกว่า


หัวข้อ: Re: พระเจ้าในศาสนาคริสต์ ฮินดู พุทธ(เถรวาท) มีลักษณะตรงกันเปี๊ยบเลย
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 09 กันยายน 2553 17:35:36
อ่าน บทความคุณ ผมละนึกถึง จิมโจนส์ จริง ๆ


http://forum.mthai.com/view_topic.php?table_id=1&cate_id=34&post_id=43061 (http://forum.mthai.com/view_topic.php?table_id=1&cate_id=34&post_id=43061)




 (:12:) (:14:) (:13:) (:12:) (:14:) (:13:) (:12:) (:14:) (:13:)




หัวข้อ: Re: พระเจ้าในศาสนาคริสต์ ฮินดู พุทธ(เถรวาท) มีลักษณะตรงกันเปี๊ยบเลย
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 10 กันยายน 2553 00:33:59
คุณMckaforce ครับ


ทุกอย่างที่ผมนำมาลง มีหลักฐานพุทธพจน์อ้างอิง และเป็นหลักคำสอนสูงสุดของศาสนาคริสต์และฮินดู

ผมดูคำตอบของคุณและคนอื่นในอีก 10 เว็บแล้ว  ล้วนไม่มีหลักฐานอะไรมาค้านได้เลย  มีแต่คำขู่  คำต่อว่า คำเสียดสี คำด่า คำแช่ง  พวกนั้นไม่ใช่หลักฐานครับ

เมื่อหลายปีก่อนชาวคริสต์คนหนึ่ง ชือสาธินี เศรษฐบุตร  แกด่าผมเป็นซาตาน  มาล่อลวงแก  หลายเดือนต่อมา แกใกล้ตาย  พระบิดา(ยะโฮวา)มาหาแก  บอกว่า ผมคือพระบุตรของพระเจ้า

แกเข้าห้องไอซียู  เพ้อไปตลอดทางเลยว่า "พลศักดิ์  พลศักดิ์ บุตรของพระเจ้า"


หัวข้อ: Re: พระเจ้าในศาสนาคริสต์ ฮินดู พุทธ(เถรวาท) มีลักษณะตรงกันเปี๊ยบเลย
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 10 กันยายน 2553 01:42:14
ครับ

5555

ผมยังไม่เข้าถึงพระเจ้าครับ

ขออยู่ตามประสาไปก่อน

ขอเชื่อในสิ่งที่รู้ สิ่งที่เห็นมาดีกว่า

อย่าลากผมไปเฉี่ยวนรกเล๊ยยย...



หัวข้อ: Re: พระเจ้าในศาสนาคริสต์ ฮินดู พุทธ(เถรวาท) มีลักษณะตรงกันเปี๊ยบเลย
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 10 กันยายน 2553 11:01:51

(http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQvC6BM-Jy4TIAlmCZ29BRrxa1JLC_qrdJJoJIYI98PXfgGoJo&t=1&usg=__F5EbOq7H1ZCtzvP7x9--mLN8LNc=)

มีอัศวินสองคนสวมเสื้อเกราะถือทวนควบม้ามาจากทิศตะวันออกคนหนึ่ง มาจากทิศตะวันตกคนหนึ่ง มาพบกันโดยบังเอิญที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมทางต่างก็เข้าไปเอนหลังพักผ่อนคนละด้านของต้นไม้ ขณะนั้นอัศวินที่มาจากทิศตะวันออกมองขึ้นไปเห็นโล่แขวนอยู่บนคาคบไม้จึงเปรยขึ้นดังๆ ว่า

"ใครหนอเอาโล่ทองมาแขวนไว้บนต้นไม้"
อัศวินอีกคนหนึ่งจึงแหงนดู แต่เห็นโล่นั้นเป็นสีเงิน มิได้เป็นสีทองอย่างที่อัศวินคนนั้นพูด จึงเปรยดังๆ
เช่นกันว่า"น่าขำจัง โล่เงินแท้ๆ ทำไมบางคนจึงเห็นเป็นโล่ทองไปได้"

อัศวินคนแรกจึงลุกขึ้นแล้วตะโกนใส่หน้าอีกคนหนึ่งว่าโล่ทอง อัศวินคนนั้นเมื่อถูกตะโกนใส่ก็ลุกขึ้นตะโกนใส่เหมือนกันว่าโล่เงิน ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมกันเพราะถือว่าสิ่งที่ตัวเองเห็นนั้นไม่ผิดจึงไม่ยอมกันง่ายๆ เพื่อให้รู้ผลจึงท้าดวลกันที่ลานโล่ง ต่างขี่ม้ารำทวนเข้าต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ฝีมือสูสีกันจึงต่อสู้กันเป็นนานจนเมื่อยล้าด้วยกันทั้งคู่ ได้ตกลงพักรบเพื่อพักผ่อนกันก่อนแล้วค่อยสู้กันใหม่ ตอนเข้าไปพักนั้นอัศวินที่มาจากตะวันออกไปพักด้านตะวันตก ที่มาจากตะวันตกไปพักด้านตะวันออกอัศวินคนแรกที่เห็นเป็นโล่ทองได้มองโล่อีกครั้งหนึ่งกลับเห็นเป็นโล่เงินอีกคนหนึ่งที่เห็นครั้งแรกเป็นโล่เงินกลับเห็นเป็นโล่ทอง

"เอ๊ะ นี่มันโล่เงินนี่" คนแรกที่เคยเห็นเป็นโล่ทองพูด
"อ้าว นี่มันโล่ทองนี่ ไม่ใช่โล่เงิน" อีกคนที่เห็นครั้งแรกเป็นโล่เงินบอก
ด้วยความสงสัยอัศวินคนแรกจึงปีกขึ้นไปเอาโล่ลงมา เมื่อมองเห็นโล่ใกล้ๆ ทั้งสองก็แทบจะลมจับ เพราะข้อเท็จจริงปรากฏประจักษ์ โล่อันนั้นเขากะไหล่ด้วยทองด้านหนึ่ง กะไหล่ด้วยเงินด้านหนึ่ง จึงเห็นเป็นสองอย่าง"โธ่พวกเราแทบจะฆ่ากันตายเพราะมองคนละมุมแท้ๆ เสียเชิงหมด"
ต่างบ่นกันพึมพำ เมื่อพักหายเหนื่อยแล้วก็โบกมืออำลาแยกย้ายกันไป.


     (http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQBMpv59F7l-tdbUtOo-3KpDF0xkQxrqIpBUL6PvgZ7F79nrko&t=1&usg=__Fwri9S0utBNvCE4W9n7EVnj81FQ=)

เรื่องนี้สื่อความให้เห็นว่า
ทิฐิมานะความคิดเห็นด้วยความยึดมั่นถือมั่นว่าตนถูกนั้นทำให้คนเราตาบอดก็ได้ ทำให้เห็นผิดก็ได้ ทำให้
ทะเลาะกันก็ได้ ทำให้แตกกันก็ได้ ทั้งนี้เพราะทิฐิมานะทำให้เห็นผิดไปจากความเป็นจริง ด้วยมองเห็นได้เพียงด้านเดียว คือด้านที่ตัวเองเห็นหรือรู้สึกนึกคิด ไม่ได้มองอีกด้านหนึ่งซึ่งอาจตรงกันข้ามกับที่คิดก็ได้ อย่างที่นักปราชญ์ท่านกล่าวไว้ว่า "สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม คนหนึ่งตาแหลมคมมองเห็นดาวอยู่พราวพราย" ที่ถูกนั้นเมื่อจะมองอะไรควรมองด้วยปัญญาอีกชั้นหนึ่ง คือควรใตร่ตรองพินิจพิจารณาให้ถี่ถ้วนมองให้ครบทุกด้าน ทั้งด้านดีด้านเสีย ด้านบวกด้านลบ จึงจะเห็นของจริง แล้วค่อยตัดสินวินิจฉัยว่าถูกหรือไม่ถูก ควรหรือไม่ควร วิสัยนักปราชญ์เขาปฏิบัติกันเช่นนี้ ถ้ามองเพียงด้านเดียวแล้วด่วนตัดสินไปตามที่เห็น ย่อมมีโอกาสสูงที่จะผิดพลาดอันจะทำให้คิดผิด พูดผิด
และทำผิดตามมา.


พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี)


       (http://www3.pantown.com/data/25487/board11/27.jpg)

ความเชื่อของใคร ก็เป็นความเชื่อของเค้าค่ะ

สองคนยลตามช่อง...  คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม...
คนสองตาแหลมคม... เห็นดวงดาวอยู่พราวพราย...

ขอบพระคุณ คุณ phonsak ขอบคุณ น้องแม๊ค
ยินดีที่ได้สนทนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางธรรมค่ะ...


หัวข้อ: Re: พระเจ้าในศาสนาคริสต์ ฮินดู พุทธ(เถรวาท) มีลักษณะตรงกันเปี๊ยบเลย
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 10 กันยายน 2553 11:06:16
สาธุครับ อ.ป้าแป๋ม

พอดีอึ้ง ๆ กับความคิดแหวกสุดขั้ว


หัวข้อ: Re: พระเจ้าในศาสนาคริสต์ ฮินดู พุทธ(เถรวาท) มีลักษณะตรงกันเปี๊ยบเลย
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 10 กันยายน 2553 21:50:11
สาธุ อนุโมทนาครับ อ. JAJA


 (:3:) (:3:) (:3:) (:3:) (:3:)


หัวข้อ: Re: พระเจ้าในศาสนาคริสต์ ฮินดู พุทธ(เถรวาท) มีลักษณะตรงกันเปี๊ยบเลย
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 12 กันยายน 2553 11:50:10
ครับ

5555
ผมยังไม่เข้าถึงพระเจ้าครับ
ขออยู่ตามประสาไปก่อน
ขอเชื่อในสิ่งที่รู้ สิ่งที่เห็นมาดีกว่า
อย่าลากผมไปเฉี่ยวนรกเล๊ยยย...


คุณน่ะเป็นพระเจ้า  แต่คุณไม่รู้ตัว  พระเจ้าคือจิตบริสุทธิ์  เมื่อคุณเข้าถึงความบริสุทธิ์ทางจิตเมื่อไร  คุณก็จะรู้ตัวตื่นขึ้น(พุทโธ)