[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ => ร้อยภูติ พันวิญญาณ => ข้อความที่เริ่มโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 13 มกราคม 2553 21:37:21



หัวข้อ: เพลงผีบอก ที่มาของเพลง ” น้ำตาแสงไต้ ”
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 13 มกราคม 2553 21:37:21
เรื่องราวที่จะได้อ่านต่อไปนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับครูสง่า อารัมภีร หรือ ครูแจ๋ว ที่ลูกศิษย์และเพื่อน
พ้องในวงการเรียกกัน นอกจากที่ครูแจ๋วมีความสามารถในการแต่งเพลงซึ่งเป็นงานที่ถือได้ว่าครูเป็นเอกทาง
ด้านดนตรี ท่านแต่งเพลงไว้ให้เราได้ฟังกันร่วมๆ 2,000 เพลง เพลงเอกอาทิ ; เรือนแพ, ดาวประดับใจ, เพื่อ
เธอเพื่อเธอ, น้ำตาแสงไต้, หนึ่งในร้อย ฯลฯ เพลงแต่ละเพลงที่ครูแจ๋วแต่งล้วนแต่เพราะๆ และโด่งดังเป็นที่
รู้จักไม่เฉพาะคนรุ่นเก่า คนรุ่นใหม่ยังซาบซึ้งไปกับบทเพลงของท่านกันไปทั่ว นอกจากนั้นแล้วครูมีความ
สามารถในงานเขียนเช่นกัน โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่อง ” ผี ” ท่านเขียนได้อย่างมีเอกลักษณ์อย่างเฉพาะตัว
ท่านเขียนเรื่องไว้ประมาณ 60 เรื่อง ใช้นามปากกาว่า แจ๋ว วรจักร, จ้อน บางกระสอ เริ่องผีเรื่องแรกๆ ที่
เขียนลงพิมพ์ในเพลินจิตต์รายสัปดาห์ เมื่อปี พ. ศ. 2489 จากนี้ขอให้ทุกท่านเพลิดเพลินกับงานเขียนและ
ที่มาของเพลง “ น้ำตาแสงไต้ “ เพลงแห่งความหลัง ครูแจ๋ว สง่า อารัมภีร ศิลปินแห่งชาติ ปี 2531
สาขาศิลปะการแสดง ( เพลงไทยสากล )



ผมเองเป็นผู้เขียนขึ้นเมื่อปี 2493 เพื่อลงพิมพ์ในสูจิบัตรละครเรื่อง “กุลปราโมทย์” เป็นละครลำดับที่ 68 ของ
คณะศิวารมณ์ มันก็หลายปีมาแล้ว แต่ก็ทำให้รำลึกถึงความหลังเมื่อครั้งเก่าก่อนได้ดีอยู่ เปียโนตัวที่จะกล่าว
ถึงนั้น เวลานี้ก็ดูเหมือนยังอยู่ที่ห้องเล็กศาลาเฉลิมกรุง เมื่อสองสามปีก่อนผมขึ้นไปบนห้องเล็กยังลูบคลำ
อยู่เลย มันเก่ามากแล้ว และเสียงบางเสียงก็เพี้ยนเพราะไม่มีใครดูแล แต่เมื่อผมไปลูบคลำ วิญญาณของผม
และมันยังผสานกันเหมือนเมื่อเก่าก่อน แต่เดี๋ยวนี้มันจะยังอยู่ หรือถูกขายไปก็ไม่ทราบ ว่างๆว่าจะไปเยี่ยมมัน
อีกครั้ง

ข้าพเจ้าจำได้แม่นยำว่าวันนั้นในราวเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๘ ศิวารมณ์กำลังซ้อมละครเรื่อง “ พัน
ท้ายนรสิงห์ ” อยูที่ห้องเล็ก ศาลาเฉลิมกรุง ดูเหมือนจะเข้าโปรแกรมวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ซ้อมกันอย่างหนัก
เพราะเป็นสมัยที่เริ่มงานใหม่ๆ ตอนนั้นข้าพเจ้ามีหน้าที่ดีดเปียโนให้นาฏศิลป์เขาซ้อมและต่อเพลงให้นักร้อง
เท่านั้น ผู้ที่แต่งเพลงให้ศิวารมณ์สมันนั้นคือ ประกิจ วาทยกร และ โพธิ์ ชูประดิษฐ์ ข้าพเจ้าเป็นนักดนตรี
ใหม่ๆ ยังไม่ถึงปี สุรสิทธิ์ , จอก , สมพงษ์ และทุกๆ คน มาซ้อมละครกันตั้งแต่เย็น ส่วน เนรมิต , มารุต สมัย
โน้นเข้าคู่กันคร่ำเครียดกับบทและวางคาแร็คเตอร์ตัวละคร นาฏศิลป์ซ้อมกัน เต้นกัน นักร้องก็ร้องเพลงกัน
เหลือเวลา ๕ วันละครจะเริ่มแสดงแล้ว เพลงเอกของเรื่องคือ “ น้ำตาแสงไต้ “ ทำนองยังไม่เสร็จ
คุณประกิจและคุณโพธิ์แต่งส่งมาคนละเพลงสองเพลงยังไม่เป็นที่ไม่พอใจแก่เจ้าของเรื่องและผู้กำกับ ทั้ง
เจ้าของเรื่องและผูกำกับต้องการให้เพลงมีสำเนียงเป็นไทยแท้ มีรสและวิญญาณไปในทาง ” หวานเย็นและ
เศร้า “





หัวข้อ: Re: เพลงผีบอก ที่มาของเพลง ” น้ำตาแสงไต้ ”
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 13 มกราคม 2553 21:38:12
เย็นนั้นเมื่อเลิกซ้อมแล้ว ข้าพเจ้าพลอยอึดอัดไปกับเขาด้วย ข้าพเจ้าลงมายืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่หน้าเฉลิมกรุง
ไม่รู้จะไปไหนดี ได้ยินเสียงเรียก ” หง่า หง่า ” คุณทองอิน บุณยเสนา ถามว่า ” ราบรื่นเรียบร้อยหรือไฉน ”
ข้าพเจ้าอ่ยถึงเพลง ” น้ำตาแสงไต้ ” ที่ยังแต่งกันไม่เสร็จ พี่อินฟังแล้วพูดว่า ” เพลงไทยนั้นมีเยอะ แต่ไอ้รส
หวานเย็นและเศร้าที่หง่าว่ามันมีน้อย อั๊วชอบมาก และรู้สึกว่าหวานเย็นเศร้ามีแต่ เขมรไทรโยคและลาวครวญ
เท่านั้น คุยกันสักพักข้าพเจ้ารู้สึกง่วงนอนปุ๊บหลับปั๊บจะหลับไปนานเท่าไรไม่รู้


ข้าพเจ้ารู้สึกแปลกใจมาก ที่ใครมาเล่นเปียโนที่ห้องเล็กก่อนข้าพเจ้า ปกติ ๘.๐๐ น. กว่าๆ ข้าพเจ้า
เห็นคนอยู่ ๔ คน ชาย ๓ หญิง ๑ แต่งกายแปลกมาก ชายแต่งกายเหมือนนักรบโบราณ เขาถอดหมวกวางไว้
บนเปียโน คนเล่นผิวค่อนข้างขาว หน้าคมคาย อีกคนหนึ่งผิวคล้ำ นั่งอยู่ทางขวาของเปียโน คนที่ ๓ อายุ
มากกว่าสองคนแรก ผมหงอกประปราย ท่าทางเป็นผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ หน้าตาอิ่มเอิบ ส่วนผู้หญิงนั้นสวย
เหลือเกิน นุ่งผ้าจีบพก แต่งกายโบราณนุ่งผ้าจีบพก ห่มผ้าแถบสีแดงสด ผิวนวลปล่อยผมปรกบ่า กำลังยืน
เอามือเท้าเปียโนอยู่ด้านซ้าย


ข้าพเจ้าเปิดประตูเข้าไป เขาไม่สนใจข้าพเจ้าเลย จนข้าพเจ้าเดินเข้าไปใกล้จะเข้าพูดก็ไม่รู้จักเขา
แต่งตัวแปลก เลยนั่งมองดูเขาและฟังเพลงที่ดีดนั้น คนเล่นเปียโนเก่งมาก เขาเล่นจากความรู้สึกจริงๆ ตาเขา
ลอยคล้ายฝันมองไปตรงหน้า บางทีมองหน้าผู้หญิง เธอยิ้มรับน่ารักเหลือเกิน ข้าพเจ้าฟังเพลินมองเพลิน สัก
ครู่ก็สะดุ้งเพราะเสียงห้าวต่ำอย่างมีอำนาจของผู้สูงอายุพูดขึ้นว่า ” ไหน…เทพ … เธอลองเล่น เขมรไทรโยค
ซิ ” คนที่เล่นเปียโนผงกศีรษะรับ พร้อมกับเปลี่ยนเพลงมาเป็นเขมรไทรโยค เขาเล่นด้วยความรู้สึก เสียง
ประสานประหลาด แต่ทว่านุ่มนวลฟังแล้วทำให้คิดและมองเห็นภาพไปด้วยความรู้สึกหวานชื่น เพลินฟังจน
เพลงจบเมื่อไรไม่รู้ เพลงที่เล่นนั้นเพราะเหลือเกินพลันเสียงผู้สูงอายุพูดขึ้นว่า ” ธิดาจ๋า เธอจะไม่ลองฝีมือ
ดูรึ ” สาวสวยคนนั้นเดินไปนั่งที่เปียโนบรรเลงเพลงเป็นเพลงหวานเศร้าสำเนียงลาว ” ลาวครวญ ” อันหวาน
เศร้าฝีมือของเธออยู่ในขั้นเลิศ ข้าพเจ้านั้งน้ำตาคลอคิดไปถึงความหลัง คิดเพลินจนเพลงจบไม่รู้ตัว เสียง
ห้าวต่ำๆ ดังขึ้นอีกว่า ” อมร…ถ้าเราเอา วิญญาณ ของเพลงสองเพลงนี้มารวมกันเข้า คงจะเพราะอย่างหาที่
ติไม่ได้เชียวนะ ” ข้าพเจ้าเห็นคนผิวคล้ำที่นั่งข้างขวาของเปียโนก้มศีรษะรับพร้อมกับพูดว่า ” กระผมเห็นด้วย
คงจะไพเราะอย่างยิ่ง ” หญิงสาวลุกขึ้นจากเปียโน พลางหันหน้าไปพูดกัยคนผิวคล้ำว่า ” ขอเชิญคุณครูค่ะ
ขอเชิญคุณครูสวมวิญญาณของเพลงทั้งสอง ให้ศิษย์ได้ฟังเพื่อเป็นขวัญโสตและขวัญชีวิตของศิษย์ทั้งสอง “

ท่านที่รัก เสียงที่ลอยมาจากเปียโนนั้นสำเนียงไทยแท้มี ” รสหวานเย็นเศร้า “ครูอมรได้รวมวิญญาณ
ของ เขมรไทรโยค และ ลาวครวญ ได้สนิทแนบ สำเนียงและ วิญญาณถอดออกมาจากเพลงสองเพลงนี้อย่าง
ครบถ้วนโดยที่เพลงเดิมไม่ได้เสียหายอะไรแม้แต่น้อย ดุจสองวิญญาณเก่าเคล้ากัน จนเกิดวิญญาณใหม่ที่
สวยงามขึ้นอีกวิญญาณหนึ่ง…



หัวข้อ: Re: เพลงผีบอก ที่มาของเพลง ” น้ำตาแสงไต้ ”
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 13 มกราคม 2553 21:39:03
ข้าพเจ้าฟังเพลินจนสะดุ้ง เมื่อมีหนักๆ มาเขย่าจนรู้สึกตัวตื่นจากภวังค์ บ่ายๆ สามโมงวันนั้น เมื่อนาฏศิลป์
และละครกลับกัน บนห้องเล็กเหลือข้าพเจ้า , เนรมิต, มารุต, สุรสิทธิ์ เนรมิตและมารุตบ่นถึงเพลง ” น้ำตาแสง
ไต้ ” ว่าทำนองที่คุณโพธิ์และคุณประกิจส่งมายังใช้ไม่ได้ เหลือเวลาอีก ๓ วัน ละครจะแสดงแล้วเดี๋ยวไม่ทัน
ข้าพเจ้านั่งฟังสักครู่หันมาเล่นเปียโน ท่านที่รัก ความรู้สึกบอกไม่ถูกนิ้วมือข้าพเจ้าบรรเลงไปตามอารมณ์
ข้าพเจ้าก็ไม่รู้ส่าเป็นเพลงอะไร เคลิ้มๆ บังไงพิกล เนรมิตถามว่า ” หง่า นั่นเพลงอะไร ” ข้าพเจ้าสะดุ้งพร้อม
กับนึกขึ้นได้ และจำทำนองได้ทันทีว่าเป็นเพลงที่ครูอมรดีด ข้าพเจ้าหันไปถามเนรมิตว่า ” เพราะหรือฮะ ”
เนรมิตพยักหน้าบอกให้เล่นใหม่ ข้าพเจ้าบรรเลงอีกหนึ่งเที่ยว ทั้งเนรมิตและมารุตพูดขึ้นว่า ” นี่แหละ น้ำตา
แสงไต้ “ ข้าพเจ้าดีใจรีบจดโน๊ต และประพันธ์คำร้องกันเดี๋ยวนั้น
มารุตขึ้น “ นวลเจ้าพี่เอย ”
เนรมิตต่อ “ คำน้องเอ่ยล้ำคร่ำครวญ “
แล้วช่วยกันต่อ ” ถ้อยคำเหมือนจะชวน ใจพี่หวนครวญคร่ำอาลัย ” พอจบประโยคแรก สุรสิทธิ์ร้อง
เกลาทันที ร่วมกันสร้างจบคำร้องในราว ๑๐ นาทีเท่านั้นเอง สุดท้ายเพลงก็ทันละครแสดง เมื่อทำนองเพลง
” น้ำตาแสงไต้ ” พลิ้วขึ้นคนร้องไห้กันทั้งโรง แม้ พันท้ายนรสิงห์ จะสร้างเป็นภาพยนตร์ยังใช้เพลง ” น้ำตา
แสงไต้ ” เป็นเพลงเอกอยู่

เพลงผีบอก ที่มาของเพลง ” น้ำตาแสงไต้” คัดลอกมาจากหนังสือ เพลงผีบอก รวมเรื่องผีและที่
ของเพลงน้ำตาแสงไต้ โดย ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดงปี ๒๕๓๑ สง่า อารัมภีร
และขอขอบคุณ คุณบูรพา อารัมภีร บุตรชายของครูแจ๋ว สง่า อารัมภีร



หัวข้อ: Re: เพลงผีบอก ที่มาของเพลง ” น้ำตาแสงไต้ ”
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 13 มกราคม 2553 21:40:15
(http://i.ytimg.com/vi/LWSBEKd337I/0.jpg)

น้ำตาแสงไต้ คำร้อง มารุต - เนรมิต
ทำนอง สง่า อารัมภีร

นวลเจ้าพี่เอย … คำน้องเอ่ยล้ำคร่ำครวญ
ถ้อยคำเหมือนจะชวน ใจพี่หวนสรวญตร่ำอาลัย
น้ำตา…อาบแก้ม เพียงแซบเพชรไสว
แวววับจับหัวใจ เคล้าแสงไต้
นวลแสงเพชร … เกล็ดแก้วอันล้ำค่า
คราเมื่อแสงไฟส่องมา แวววาวชื่นชม
น้ำตา…แสงไต้ ดื่มใจพี่ร้าวระบม
ไม่อยากพรากขวัญภิรมย์ จำใจข่มใจไปจากนวล



.
เพลง น้ำตาแสงไต้ เพลงจากละครเรื่อง พันท้ายนรสิงห์ บันทึกเสียงครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๒
โดย บุญช่วย หิรัญสุนทร .






หัวข้อ: Re: เพลงผีบอก ที่มาของเพลง ” น้ำตาแสงไต้ ”
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 13 มกราคม 2553 21:45:16
ข้อมูลต้นฉบับ : Click !! (http://blogger.sanook.com/prisanasweetsong/2009/03/27/%e0%b9%80%e0%b8%9e%e0%b8%a5%e0%b8%87%e0%b8%9c%e0%b8%b5%e0%b8%9a%e0%b8%ad%e0%b8%81-%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%9e%e0%b8%a5%e0%b8%87/)

คัดลอกมาจาก : Click !!! (http://board.palungjit.com/f12/เพลงผีบอก-ที่มาของเพลง-”-น้ำตาแสงไต้-”-213693.html)

น้าแม๊ค