[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ไปรษณีย์ => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 03 กันยายน 2556 05:44:37



หัวข้อ: ทำเนียบขาว White House กับ ระบบการรักษาความปลอดภัยให้ผู้นำชาติมหาอำนาจโลก
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 03 กันยายน 2556 05:44:37
.
(http://www.sookjaipic.com/images_upload/71350312729676_1.jpg)
โครงสร้างรถที่หนาพิเศษเพื่อความปลอดภัยของท่านประธานาธิบดี

ทำเนียบขาว และรถสุดเจ๋งของผู้นำสหรัฐฯ

เมื่อพูดถึง “ไวท์ เฮ้าส์ (White House)” หรือเรียกเป็นไทยว่า “ทำเนียบขาว” เป็นที่รู้กันดีว่าหมายถึง ที่ทำงานและที่พักอย่างเป็นทางการของผู้ทรงอำนาจที่สุดของโลกในยุคนี้ ซึ่งก็คือ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นั่นเอง และเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์แห่งดุลอำนาจที่ขับเคลื่อนสหรัฐอเมริกา นอกเหนือจากสภาคองเกรสและศาลสูง

ทีมงานนิตยสารต่วย’ตูน  จะพาไปรู้จักกับสถานที่สำคัญระดับโลกแห่งนี้แบบเจาะลึกกันครับ

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/80680364246169_2.jpg)

ไวท์ เฮ้าส์ ตั้งอยู่เลขที่ 1600 ถนนเพนซิลเวเนีย อเวนิว กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อ เจมส์ โฮบัน ในรูปแบบนีโอคลาสสิค ใช้เวลาก่อสร้างตั้งแต่ปี 1792-1800 และการสร้างเพิ่มเติมอาคารใหม่ยังเกิดขึ้นอีกหลายครั้ง ในสมัยของประธานาธิบดีหลายคน กว่าที่จะเป็นอย่างที่เห็นในทุกวันนี้ ซึ่งประกอบไปด้วยหลายอาคาร ได้แก่ อาคารหลัก เรียกว่า Executive Residence ซึ่งเป็นอาคารที่เรามักจะเห็นกันในข่าวหรือภาพยนตร์อยู่เสมอ เป็นอาคารสีขาวตั้งเด่นอยู่ตรงกลาง มี 4 ชั้นรวมชั้นใต้ดิน ส่วนใหญ่เป็นห้องรับรองต่างๆ และที่พักของครอบครัวประธานาธิบดี, อาคารเวสต์วิง (West Wing) ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของอาคารหลัก, อาคารอีสต์วิง (East Wing) ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของอาคารหลัก

อาคารเวสต์วิง มี 3 ชั้น อาคารนี้ถือเป็น หัวใจของทำเนียบขาวก็ว่าได้ เพราะเป็นที่ตั้ง ของห้องทำงานรูปไข่ สำหรับประธานาธิบดี รู้จักกันดีในชื่อว่า Oval Office, ห้องรูสเวลต์ (Roosevelt Room) ซึ่งเป็นทั้งห้องทำงานและห้องประชุม ประธานาธิบดีจะใช้ห้องนี้ทำงานสลับกับห้องทำงานรูปไข่ และห้องประชุมคณะรัฐมนตรี ทั้งสามห้องนี้จะอยู่ใกล้ๆกัน ห้องติดตามสถานการณ์ (White House Situation Room) อยู่ชั้นล่างสุด สร้างขึ้นอย่างมั่นคงแข็งแรง ติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นและเครื่องมือสื่อสารทันสมัยทุกชนิด แบ่งเป็นห้องย่อยหลายห้อง เป็นศูนย์รวมข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานด้านความมั่นคงต่างๆ ประธานาธิบดีสามารถติดต่อกับกองทัพสหรัฐฯ ทุกแห่งบนโลกได้จากห้องนี้

อาคารอีสต์วิง เป็นอาคาร 2 ชั้น ส่วนใหญ่เป็นห้องทำงาน ทั้งห้อง ทำงานของสตรีหมายเลข 1 บนชั้น 2  และเจ้าหน้าที่ต่างๆที่ช่วยงานของท่าน โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับงานประชาสัมพันธ์และงานสังคมอื่นๆ อาคารนี้จะเป็นทางเข้าออกสำหรับคนทั่วไปที่ไปเยี่ยมชมไวท์ เฮ้าส์

สิ่งก่อสร้างทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วนั้น ตั้งอยู่ในอาณาบริเวณประมาณ 130 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่ทั้งทางทิศเหนือและทิศใต้ของไวท์ เฮ้าส์ จะเป็นสนามหญ้าและสวนดอกไม้ ซึ่งดูแลโดยกรมอุทยานแห่งชาติ

นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ 9/11 เป็นต้นมา ทางไวท์ เฮ้าส์ได้ปิดไม่ให้ประชาชนเข้าชม แต่จะเปิดให้ในกรณีที่ได้รับการติดต่ออย่างเป็นทางการจากสถานทูตของชาติต่างๆ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. หรือจากสมาชิกสภาคองเกรสซึ่งต้องได้รับการตรวจประวัติแล้วเท่านั้น


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/91218034302194_3.jpg)
ทำเนียบขาวเมื่อมองจากเบื้องบน
การรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ทำเนียบขาวและตัวประธานาธิบดีรวมทั้งคนในครอบครัวนั้น หน่วยงานหลักที่รับผิดชอบคือ เจ้าหน้าที่จาก USSS (United States Secret Service) ซึ่งไม่มีเครื่องแบบ โดยจะสวมสูทสีเข้มกันเป็นประจำ

นับตั้งแต่ปี 1913 เป็นต้นมา มีคนพยายามบุกเข้าไปในไวท์ เฮ้าส์ หลายสิบครั้ง ซึ่งหลายคนก็ ประสบความสำเร็จ อย่างเช่นเมื่อปี 2009 สองสามีภรรยาคู่หนึ่ง สามารถเดินเข้าไปในงานเลี้ยงรับรองนายกรัฐมนตรีของอินเดีย ทั้งที่ไม่อยู่ในรายชื่อของแขกรับเชิญ เพียงแต่การแต่งตัวที่ดูดีทำให้น่าเชื่อถือ โชคดีที่ทั้งสองไม่ได้มีเจตนาร้ายเพราะสามารถเข้าไปจนถึงตัวประธานาธิบดีโอบามา แถมยังได้จับมือกับท่านด้วย แต่ก็มี 2 ครั้งที่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะผู้บุกรุกสามารถใช้เครื่องบินบินเข้าไปจอดในพื้นที่ทำเนียบได้สำเร็จ

ปี 1974 ทหารนักบินคนหนึ่งขโมยเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพ แล้วบินลงไปจอดในพื้นที่ของไวท์ เฮ้าส์โดยไม่ได้รับการต่อต้านจากเจ้าหน้าที่ รักษาความปลอดภัยของทำเนียบ เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น แต่ภายหลังนักบินก็ถูกจับตัวไป หลังจากนั้นอีก 20 ปี เวลาประมาณ ตีสอง วันที่ 13 กันยายน 1994 มีชายอีกคนหนึ่งขโมยเครื่องบินเล็กแบบสองที่นั่ง บินไปตกกระแทกพื้น นักบินเสียชีวิตคาที่ในสนามทางทิศใต้ของทำเนียบ ทำให้เห็นถึงระบบการป้องกันเหตุร้ายของไวท์ เฮ้าส์ที่มีช่องโหว่

ปัจจุบันนี้ ระบบรักษาความปลอดภัยของทำเนียบขาวเท่าที่มีการเปิดเผยได้แก่ ห้ามอากาศยานทุกชนิดบินเหนือพื้นที่โดยรอบ มีเซนเซอร์ตรวจจับการบุกรุกจากทางใต้ดิน มีเซนเซอร์แบบอินฟราเรดตรวจพื้นที่โดยรอบ ติดเครื่องตรวจกัมมันตภาพรังสี หน้าต่างเป็นกระจกกันกระสุนทั้งหมด เครื่องกรองอากาศที่ป้องกันการปนเปื้อนของอากาศในอาคาร เรดาร์ติดตั้งบนอาคารเพื่อตรวจเครื่องบินที่บินเข้าไปในพื้นที่ห้ามบิน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพกอาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติประจำตัวแทบทุกคน ห้องรักษาพยาบาลฉุกเฉินสำหรับประธานาธิบดีบริเวณชั้นใต้ดินตึกอีสต์วิง เป็นห้องที่สร้างไว้แข็งแรงมาก สามารถทนแรงระเบิดได้ทุกชนิด ยกเว้น ระเบิดนิวเคลียร์ที่ตกลงไปที่นั่นโดยตรง นอกจากนั้นยังเชื่อกันว่ามีจรวดต่อต้านอากาศยานติดตั้งไว้ที่นั่นด้วย


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/65169141689936_4.jpg)
ภาพร่างทำเนียบขาวของเจมส์ โฮบัน

และในกรณีที่เกิดสถานการณ์คับขัน หากประธานาธิบดีต้องออกจากทำเนียบขาวโดยทางรถยนต์ รถลีมูซีนประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันนี้ นอกจากจะสวยสง่าแล้วยังมีไม่ธรรมดาด้วยครับ

“The Beast” หรือ “Cadillac One” คือชื่อเฉพาะที่ใช้เรียกรถประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นรถลีมูซีนสีดำ ผลิตโดยบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส และติดตรา “คาดิลแล็ค” เข้าประจำการตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2009 เป็นรถดัดแปลงที่ใช้คัสซีของรถบรรทุกของ เช็ฟโรเลต รุ่น Kodiak โครงสร้างหลักของรถจึงแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย ภายในมี 7 ที่นั่ง มีกระจกกั้นระหว่างส่วนคนขับและด้านหลัง ที่นั่งตอนกลางซึ่งหันหน้าไปทางท้ายรถสามารถนั่งได้ 3 คน แถวสุดท้ายมี 2 ที่นั่ง

สำหรับประธานาธิบดีและแขกของท่าน ระหว่างที่นั่งทั้งสองมีคอนโซลกั้น ภายในคอนโซลนี้มีเครื่องมือสื่อสารที่เชื่อมต่อไปยังศูนย์ควบคุมการสื่อสารของไวท์ เฮ้าส์



(http://www.sookjaipic.com/images_upload/93291193205449_5.jpg)
Cadillac One รถประจำตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

สิ่งที่ทำให้รถคันนี้เป็นรถนั่งที่ปลอดภัยที่สุดในโลก ได้แก่ อุปกรณ์ Night Vision ช่วยให้คนขับสามารถขับรถไปในความมืดได้  ที่เปิดประตู รถแบบพิเศษ ยางขนาดใหญ่ใกล้เคียงกับยางรถบัส ซึ่งบริษัทกู๊ดเยียร์ผลิตเป็นพิเศษ โดยใช้เส้นใยเคฟล่าที่ยืดหยุ่นแต่ทนทานทอเป็นโครงสร้าง เมื่อทับตะปูหรือตะปูเรือใบ ยังสามารถวิ่งต่อได้อีกหลายสิบกิโลเมตร ภายในรถมีถังอ็อกซิเจนและเลือดกรุ๊ปเดียวกับของประธานาธิบดี ตัวถังรถออกแบบมาให้ป้องกันการรั่วซึมในกรณีที่ถูกโจมตีโดยอาวุธเคมี ถังน้ำมันที่ท้ายรถยังหุ้มด้วยโฟมชนิดพิเศษ เป็นฉนวนป้องกันการระเบิดหรือลุกไหม้ รถคันนี้ใช้เครื่องยนต์ Duramax turbo-diesel V8 ขนาด 6600 cc ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลก็เพราะน้ำมันหาได้ง่ายกว่าและปลอดภัยมากกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดอื่น

ประตูรถแต่ละบานหุ้มเกราะหนาถึง 8 นิ้ว ทำให้แต่ละบานหนักพอๆกับประตูของเครื่องบินโบอิ้ง 757 ใต้ท้องรถก็เสริมแผ่นเหล็กหนา 5 นิ้ว เพื่อกันแรงระเบิดจากผิวถนน หน้าต่างทุกบานเป็นกระจกกันกระสุนหลายชั้น ที่หนารวมกันถึง 5 นิ้ว โดยเฉพาะแผ่นกระจกหน้าคนขับนั้นกันกระสุนเจาะเกราะได้ ทั้งหมดนั้นทำให้รถคันนี้หนักถึง 7.5 ตัน! ซึ่งน้ำหนักน้องๆรถสิบล้อนี่เอง มันจึงทำความเร็วได้เต็มที่ ไม่เกิน 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่อัตราการออกตัวใช้ได้ คือ 0-100 ใช้เวลาเพียง 15 วินาที

รถที่น่าจะเป็นรถถังคันนี้ ใช้พนักงานขับรถเป็นเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับการฝึกมาอย่างดี หากเกิดความจำเป็น คนขับสามารถเลี้ยวรถกลับ 180 องศาได้ในเสี้ยววินาที


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/14370062864488_NjpUs24nCQKx5e1HT26rFnvsSquwGM.jpg)
The Beast ถูกสร้างให้ทนทานกับเหตุร้ายทุกรูปแบบ (ภาพจาก White House Down)

แต่ล่าสุดเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีข่าวว่าทางทำเนียบขาวและหน่วยงานรักษาความปลอดภัยให้ประธานาธิบดี เริ่มมองหารถประจำตำแหน่งรุ่นใหม่ เนื่องจากคันนี้ใช้มาตั้งแต่ปี 2009 แล้ว

อ่านแล้วอยากรู้จัก ไวท์ เฮ้าส์ ให้มากขึ้น หรืออยากเห็นประสิทธิภาพเจ้า The Beast เร็วๆ นี้ก็มีภาพยนตร์แอ็กชั่นสุดมันเรื่อง White House Down กับฉากเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นกับชายหนุ่มผู้พลาดหวังจากการเป็นหน่วยอารักขาประธานาธิบดี แต่เขาไม่อยากทำให้ลูกสาวผิดหวังไปด้วย จึงพาลูกไปเที่ยวชมรอบทำเนียบขาว แต่ทว่า ทำเนียบขาวกลับโดนบุกยึดโดยกองกำลังทหารที่หมายจะสังหารประธานาธิบดี! ทำให้เขาต้องเสี่ยงตายปกป้องทั้งประธานาธิบดีและชีวิตลูกสาวตัวเอง นับเป็นภารกิจอันใหญ่หลวงเกินคาดคิด ที่จะทำให้ผู้ชมได้เห็นถึงระบบรักษาความปลอดภัยของชาติมหาอำนาจได้เป็นอย่างดีครับ.


โดย...ลุงดำ
ทีมงาน นิตยสาร ต่วย'ตูน