หัวข้อ: อวิชชาสูตร เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 19 กันยายน 2553 11:46:05 (http://lh6.ggpht.com/_AYFPNs1xf64/TBm9JvOufdI/AAAAAAAABDc/8hlOwfG0czU/24.jpg) http://www.fungdham.com/download/song/allhits/21.wma พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ทสกนิบาต เล่ม ๓๘ หน้าที่ ๑๙๗ - ๒๐๐ ยมกวรรคที่ ๒ ๑.อวิชชาสูตร {ว่าด้วยโพชฌงค์ ๗ เป็นอาหารของวิชชาวิมุตติ} {๖๑}ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเงื่อนต้นแห่งอวิชชาย่อมไม่ปรากฏในกาลก่อน แต่นี้อวิชชาไม่มีแต่ภายหลังจึงมีเพราะเหตุนั้นเราจึงกล่าวคำนี้อย่างนี้ว่าก็เมื่อ เป็นเช่นนั้นอวิชชามีข้อนี้เป็นปัจจัยจึงปรากฏ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเราย่อมกล่าวอวิชชาว่ามีอาหารมิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร ก็อะไรเป็นอาหารของอวิชชาควรจะกล่าวว่า นิวรณ์ ๕ แม้นิวรณ์ ๕ เราก็กล่าวว่ามีอาหารมิได้กล่าวว่าไม่มีอาหารก็อะไรเป็นอาหาร ของนิวรณ์ ๕ ควรกล่าวว่า ทุจริต ๓ แม้ทุจริต ๓ เราก็กล่าวว่ามีอาหารมิได้กล่าวว่าไม่มีอาหารก็อะไรเป็นอาหาร ของทุจริต ๓ ควรกล่าวว่า การไม่สำรวมอินทรีย์ แม้การไม่สำรวมอินทรีย์ เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหารก็อะไร เป็นอาหารแห่งการไม่สำรวมอินทรีย์ควรกล่าวว่าความไม่มี{สติสัมปชัญญะ} แม้ความไม่มีสติสัมปชัญญะ เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร ก็อะไร เป็นอาหารของความไม่มี สติสัมปชัญญะ ควรกล่าวว่า การกระทำไว้ในใจโดยไม่ แยบคายแม้การทำไว้ในใจโดยไม่แยบคาย เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร ก็อะไรเป็นอาหารของการทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายควรกล่าวว่า ความไม่มี{ศรัทธา} แม้ความไม่มีศรัทธาเราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหารก็อะไร เป็นอาหารของความไม่มีศรัทธาควรกล่าวว่าการไม่ฟังสัทธรรม แม้การไม่ฟังสัทธรรม เราก็กล่าวว่ามีอาหารมิได้กล่าวไม่มีอาหารก็อะไร เป็นอาหารของการไม่ฟังสัทธรรม ควรกล่าวว่า การไม่คบสัปบุรุษ หัวข้อ: Re: อวิชชาสูตร เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 19 กันยายน 2553 11:55:29 (http://lh6.ggpht.com/_AYFPNs1xf64/TBm9JvOufdI/AAAAAAAABDc/8hlOwfG0czU/24.jpg) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ด้วยประการดังนี้ การไม่คบสัปบุรุษที่บริบูรณ์ ย่อมยังการ ไม่ฟังสัทธรรมให้บริบูรณ์การไม่ฟัง{สัทธรรมที่บริบูรณ์}ย่อมยังความไม่มีศรัทธาให้ บริบูรณ์ความไม่มีศรัทธาที่บริบูรณ์ย่อมยังการทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายให้บริบูรณ์, การทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายที่บริบูรณ์ย่อมยังความไม่มีสติสัมปชัญญะให้บริบูรณ์, ความไม่มีสติสัมปชัญญะที่บริบูรณ์ย่อมยังการไม่สำรวมอินทรีย์ให้บริบูรณ์การไม่ สำรวมอินทรีย์ที่บริบูรณ์ย่อมยังทุจริต ๓ ให้บริบูรณ์ ทุจริต ๓ ที่บริบูรณ์ย่อมยัง นิวรณ์ ๕ ให้บริบูรณ์ นิวรณ์ ๕ ที่บริบูรณ์ ย่อมยัง{อวิชชาให้บริบูรณ์}อวิชชานี้มีอาหาร อย่างนี้และบริบูรณ์อย่างนี้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเปรียบเหมือนเมื่อฝนเม็ดหยาบตกลงเบื้องบนภูเขาเมื่อฝน ตกหนัก ๆ อยู่ น้ำนั้นไหลไปตามที่ลุ่มย่อมยังซอกเขาลำธารและห้วยให้เต็ม ซอกเขา ลำธารและห้วยที่เต็มย่อมยังหนองให้เต็มหนองที่เต็มย่อมยังบึงให้เต็ม บึงที่เต็มย่อมยังแม่น้ำน้อยให้เต็มแม่น้ำน้อยที่เต็มย่อมยังแม่น้ำใหญ่ให้เต็มแม่น้ำใหญ่ ที่เต็มย่อมยังมหาสมุทรสาครให้เต็มมหาสมุทรสาครนั้นมีอาหารอย่างนี้และเต็ม เปี่ยมอย่างนี้แม้ฉันใด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การไม่คบสัปบุรุษที่บริบูรณ์ ย่อมยังการไม่ฟังสัทธรรมให้บริบูรณ์........นิวรณ์ ๕ ที่บริบูรณ์ ย่อมยังอวิชชาให้บริบูรณ์ อวิชชานี้มีอาหารอย่างนี้และบริบูรณ์อย่างนี้ ฉันนั้นเหมือนกันแล ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเรากล่าว{วิชชาวิมุตติ}ว่ามีอาหารมิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร ก็อะไรเป็นอาหารของวิชชาวิมุตติ ควรกล่าวว่า{โพชฌงค์ ๗} แม้โพชฌงค์ ๗ เราก็ควรกล่าวว่ามีอาหารมิได้กล่าวว่าไม่มีอาหารก็อะไรเป็น อาหารของโพชฌงค์ ๗ ควรกล่าวว่า{สติปัฏฐาน ๔} แม้สติปัฏฐาน ๔ เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร ก็อะไรเป็นอาหาร ของสติปัฏฐาน ๔ ควรกล่าวว่า สุจริต ๓ แม้สุจริต ๓ เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหารก็อะไรเป็นอาหาร ของสุจริต ๓ ควรกล่าวว่า{การสำรวมอินทรีย์} แม้การสำรวมอินทรีย์เราก็กล่าวว่ามีอาหารมิได้กล่าวว่าไม่มีอาหารก็อะไร เป็นอาหารของการสำรวมอินทรีย์ ควรกล่าวว่า สติสัมปชัญญะ แม้สติสัมปชัญญะ เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหารก็อะไรเป็น อาหารของสติสัมปชัญญะ ควรกล่าวว่า การทำไว้ในใจโดยแยบคาย หัวข้อ: Re: อวิชชาสูตร เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 19 กันยายน 2553 12:04:35 (http://lh6.ggpht.com/_AYFPNs1xf64/TBm9JvOufdI/AAAAAAAABDc/8hlOwfG0czU/24.jpg) แม้การทำไว้ในใจโดยแยบคายเราก็กล่าวว่ามีอาหารมิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร ก็อะไรเป็นอาหารของการกระทำไว้ในใจโดยแยบคายควรกล่าวว่า{ศรัทธา} แม้ศรัทธาเราก็กล่าวว่าอาหารมิได้กล่าวว่าไม่มีอาหารก็อะไรเป็นอาหารของ {ศรัทธา}ควรกล่าวว่าการฟัง สัทธรรม แม้การฟังสัทธรรม เราก็กล่าวว่ามีอาหารมิได้กล่าวว่าไม่มีอาหารก็อะไรเป็น อาหารของการฟังสัทธรรมควรกล่าวว่าการคบสัปบุรุษ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ด้วยประการดังนี้ การคบสัปบุรุษที่บริบูรณ์ย่อมยังการฟัง สัทธรรมให้บริบูรณ์การฟังสัทธรรมที่บริบูรณ์ย่อมยังศรัทธาให้บริบูรณ์ศรัทธาที่ บริบูรณ์ย่อมยังการทำไว้ในใจโดยแยบคายให้บริบูรณ์การทำไว้ในใจโดยแยบคายที่ บริบูรณ์ ย่อมยังสติสัมปชัญญะให้บริบูรณ์{สติสัมปชัญญะที่บริบูรณ์}ย่อมยังการ สำรวมอินทรีย์ให้บริบูรณ์การสำรวมอินทรีย์ที่บริบูรณ์ย่อมยังสุจริต ๓ ให้บริบูรณ์, สุจริต ๓ ที่บริบูรณ์ ย่อมยังสติปัฏฐาน ๔ ให้บริบูรณ์ สติปัฏฐาน ๔ ที่บริบูรณ์ ย่อมยังโพชฌงค์ ๗ ให้บริบูรณ์ - โพชฌงค์ ๗ ที่บริบูรณ์ย่อมยัง{วิชชาวิมุตติ}ให้ บริบูรณ์ วิชชาวิมุตตินี้มีอาหารอย่างนี้และบริบูรณ์อย่างนี้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเปรียบเหมือนเมื่อฝนเม็ดหยาบตกลงเบื้องบนภูเขาเมื่อฝน ตกหนัก ๆ อยู่น้ำนั้นไหลไปตามที่ลุ่มย่อมยังซอกเขา ลำธารและห้วยให้เต็มซอกเขา ลำธารและห้วยที่เต็มย่อมยังหนองให้เต็มหนองที่เต็มย่อมยังบึงให้เต็มบึงที่เต็ม ย่อมยังแม่น้ำน้อยให้เต็ม แม่น้ำน้อยที่เต็มย่อมยังแม่น้ำใหญ่ให้เต็มแม่น้ำใหญ่ที่เต็ม ย่อมยังมหาสมุทรสาครให้เต็มมหาสมุทรสาครนั้นมีอาหารอย่างนี้และเต็มเปี่ยมอย่างนี้ แม้ฉันใดดูก่อนภิกษุทั้งหลายการคบสัปบุรุษที่บริบูรณ์ย่อมยังการฟังสัทธรรมให้ บริบูรณ์ โพชฌงค์ ๗ ที่บริบูรณ์ ย่อมยังวิชชาวิมุตติให้บริบูรณ์ วิชชาวิมุตตินี้ มีอาหารอย่างนี้และบริบูรณ์อย่างนี้ฉันนั้นเหมือนกันแล........................................... {จบอวิชชาสูตรที่ ๑ ยมกวรรคที่ ๒} นำสนทนาโดย ท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และคณะวิทยากร มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา สำนักงานเลขที่ 174/1 ซอย เจริญนคร 78 ดาวคะนอง ธนบุรี |