[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ใต้เงาไม้ => ข้อความที่เริ่มโดย: sometime ที่ 20 มกราคม 2553 12:43:40



หัวข้อ: ชีวิตคือการเรียนรู้
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 20 มกราคม 2553 12:43:40
(http://www.wantup.com/images/905_PF1T2001_1.jpg) (http://www.wantup.com/view-905_PF1T2001_1.jpg)
dictionary (http://www.dictionary.in.th)Domain (http://www.thaihostweb.com)


AT TEN ตีสิบ คนจนผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ท้อชีวิต เก็บขยะหาเงินฝากแบ๊งค์วันละ 20 บาท 16 ปี ตอน 1 (http://www.youtube.com/watch?v=GUOQ7VLTHvg#)




(:7:)ชีวิตคือการเรียนรู้ (:7:)


(:LOVE:)คอลัมน์ องค์กรแห่งการเรียนรู้และการจัดการความรู้ (:LOVE:)


โดย ดร.มงคลชัย วิริยะพินิจ


 (:4:)หลาย ๆ สิ่ง หลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาข้าวยากหมากแพง หรืออะไรต่าง ๆ มากมาย ทำให้คนทั้งหลาย ที่ผมมองว่ามิใช่แต่เฉพาะคนไทย แต่หมายถึงคนอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ในโลกใบนี้นั้น มีปริมาณความสุขทางใจน้อยลงทุกทีเมื่อนึกแล้วผมก็อดอิจฉาคนรุ่นเก่าไม่ได้ ที่ว่า พวกเขาทั้งหลายสามารถหาความสุขทางใจได้ง่ายเสียเหลือเกิน ต่างจากในยุคสังคมปัจจุบันอันเป็นสังคมทุนนิยม ซึ่งเงินกลายเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเงินเป็นสิ่งที่คนใช้ซื้อหาความสุข แต่อาจจะเป็นความสุขทางกายมากกว่าที่จะเป็นความสุขทางใจ (:LOVE:)คนไทยเราเองโชคดีที่มีหลักคำสั่งสอน ทางพระพุทธศาสนาให้เป็นหลักยึดเหนี่ยวทางจิตใจที่ช่วยสามารถปลดปล่อยความ ทุกข์ในใจได้ นอกจากคำสั่งสอนทางพระพุทธศาสนาแล้ว (:RL:)ในวันนี้ผมอยากจะแนะนำเพิ่มเติมว่าหลักการที่เกี่ยวกับเรื่องขององค์กรแห่ง การเรียนรู้ (Learning organization หรือ LO) ที่ผมพยายาม ถ่ายทอดไปยังท่านผู้อ่านทั้งหลายผ่านทางคอลัมน์นี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถ ถูกนำมาประยุกต์ใช้เพื่อลดปริมาณความทุกข์ในใจของท่านผู้อ่านได้เช่นกันเมื่อลองพิจารณาถึงคำสั่งสอนหลัก ๆ ทางพระพุทธศาสนา ท่านผู้อ่านคงทราบดีว่าเหล่าพุทธศาสนิกชนทั้งหลายควรที่จะใช้..สติ..ในการดำรงชีวิต เพราะการไม่ใช้สติในการดำรงชีวิตจะนำพาไปสู่การตัดสินใจ หรือการกระทำสิ่งต่าง ๆ โดยปราศจากความรอบคอบและความมีเหตุมีผล (:DY:)และในที่สุดก็จะนำมาซึ่งผลเชิงลบซึ่งจะก่อตัวให้เกิดเป็นความทุกข์ในใจ และภายใต้การใช้ชีวิตอย่างมีสติ พุทธศาสนิกชนก็ควรจะรู้จักการปล่อยวางและไม่ยึดติด ถ้าท่านหัดที่จะปล่อยวางและไม่ยึดติดกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวท่านมากจนเกินไป ปริมาณความทุกข์ในใจของท่านก็จะน้อยลง............................ (:BH:)


หัวข้อ: Re: ชีวิตคือการเรียนรู้
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 20 มกราคม 2553 12:45:00
(http://www.wantup.com/images/905_PF1T2001_1.jpg) (http://www.wantup.com/view-905_PF1T2001_1.jpg)
dictionary (http://www.dictionary.in.th)Domain (http://www.thaihostweb.com)



 (:LOVE:)และด้วยหลักทางพระพุทธศาสนาที่เกี่ยวกับการปล่อยวางและไม่ยึดติดนี่เอง (:PL:)ที่เป็นเหตุให้ผมเห็นความเชื่อมโยงกับหลักการในเรื่องขององค์กรแห่งการเรียนรู้ ซึ่งในที่นี่คือการเน้นที่จะสร้างความรู้สึกใฝ่รู้ให้กับคนในองค์กรท่านผู้อ่านคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า คนเราถ้าไม่รู้จักการปล่อยวางหรือมักจะยึดติดกับอะไรหลาย ๆ อย่างรอบตัวนั้นจะทำให้เกิดความทุกข์ความกังวลใจ ซึ่งโดยทั่วไปมักจะเป็นความทุกข์เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต หรือไม่ก็จะเป็นความกังวลใจกับ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต(ซึ่งในความเป็นจริงก็อาจจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้) คนที่ฟังเทศน์ฟังธรรมหรืออ่านหนังสือธรรมะบ่อย ๆ อาจจะปลอบใจคนที่กำลังทุกข์กำลังกังวลใจว่า ปล่อยวางซะเถิด อย่ายึดติดกับอะไรจนมากเกินไปเพราะจะนำมาซึ่งความทุกข์ใจเปล่า ๆ ซึ่งบางคนฟังแล้วอาจจะเข้าใจแล้วปฏิบัติตามได้ทันที แต่บางคนอาจจะยังฉงนสงสัยว่าจะทำยังไงที่จะปล่อยวางหรือจะทำอย่างไรเพื่อที่ จะไม่ยึดติด ในเมื่อ ตอนนี้กำลังครุ่นคิดกังวลใจทุกข์ใจอยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเหลือเกิน ไม่สามารถลืมไปได้ง่าย ๆ และด้วยเหตุนี้เองผมเองจึงอยากจะลองแนะนำอีกหนึ่งประโยคให้ท่านผู้อ่านลองคิดขึ้นใจเพื่อช่วยให้ง่ายขึ้นในการปล่อยวางหรือการไม่ยึดติดกับสิ่งที่เกิดขึ้น  (:SL:)นั้นก็คือให้ลองคิดว่า อย่างน้อยก็เป็นบทเรียนเพราะจริง ๆ แล้วท่านสามารถมองได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตนั้นถือได้ว่าเป็นบทเรียนบางท่านอาจจะกลุ้มอก กลุ้มใจเรื่องงานมากเพราะมีแต่ปัญหาให้แก้ไม่จบไม่สิ้น (:NOY:)เก็บนำมาคิดจนบางท่านนอนไม่หลับ แต่ถ้าท่านลองมองโลกในแง่ที่ดีขึ้น โดยกล่าวคือในเมื่อมีปัญหาให้แก้ก็แก้ไป (:RL:)เพราะการแก้ไขปัญหาถือเป็นประสบการณ์ที่มีค่าการที่ทำงานแล้วไม่เจอปัญหาย่อมไม่พัฒนาความสามารถในการคิดและในการทำงานของท่านเพราะฉะนั้นให้ลองคิดว่า อย่างน้อยปัญหาที่เกิดขึ้นก็เป็นบทเรียน และเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าบทเรียนที่ท่านได้เรียนรู้จากการแก้ปัญหาจะกลาย เป็นความรู้ที่สามารถนำไปประยุกต์กับสถานการณ์ที่เป็นปัญหาอื่น ๆ ได้ในอนาคตบ้างไม่มากก็น้อยบางทีท่านอาจต้องนึกเปรียบเทียบกับคนที่ทำงานแล้วไม่มีปัญหา ต้องคิดว่าชีวิตของพวกเขาจะขาดความท้าทายแค่ไหน ? เมื่อถึงคราวเจอปัญหาจริงๆ ก็อาจจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้เพราะไม่มีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหา และคนแต่ละคนก็มีปัญหา ไม่เหมือนกัน บางคนคิดว่าตนเองอับโชคหรือโชคไม่ดีที่เจอปัญหาหนักกว่าคนอื่นจริง ๆ แล้วก็ให้มองได้ว่า ปัญหายิ่งหนักยิ่งต้องใช้ความรู้ (:88:)ความสามารถในการแก้ไข สิ่งนี้ยิ่งเป็นบทเรียนที่มีค่า เพราะถ้าเราสามารถแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงไปได้ท่านยิ่งได้เรียนรู้มากมายเกี่ยว กับงานที่ท่านทำอยู่เพราะฉะนั้นกล่าวโดยสรุปคือ ให้มองปัญหาเป็นบทเรียนให้มองว่านี่คือโอกาสในการเรียนรู้ คนอื่นอาจจะไม่เจอปัญหาอย่างท่าน ท่านเจอปัญหาท่าน..................................... (:14:)


หัวข้อ: Re: ชีวิตคือการเรียนรู้
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 20 มกราคม 2553 12:46:53
(http://www.wantup.com/images/905_PF1T2001_1.jpg) (http://www.wantup.com/view-905_PF1T2001_1.jpg)
dictionary (http://www.dictionary.in.th)Domain (http://www.thaihostweb.com)



 (:SLE:)แก้ไขปัญหาได้อย่างน้อยได้เสริมสร้างภูมิต้านทานทางด้านความรู้ในตัวท่านและเสริมสร้าง (:QS:)ความสามารถในการทำงานของท่าน ในขณะที่คนอื่นอาจจะไม่ได้มีโอกาสได้เรียนรู้จากประสบการณ์มากเท่าท่านถ้าลองคิดอย่างนี้ความรู้สึกทุกข์ใจในปัญหาอาจจะมีปริมาณที่น้อยลง และอาจจะรู้สึกสนุกกับการทำงานมากขึ้นหลาย ๆ ท่านอาจจะพอทราบว่าปัญหาทุกประเภทอาจจะแก้ไขกันได้ถ้าท่านพยายามที่จะแก้ไข แต่มีปัญหาอยู่ประเภทหนึ่งที่หลาย ๆ ท่านอาจจะยอมแพ้เพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่สามารถแก้ไขหรือควบคุมได้เลย นั่นก็คือปัญหาเรื่องคนและคนด้วยกันนี่เองที่มักจะนำพาซึ่งความทุกข์ใจมาให้กัน ไม่ว่าจะเป็นคนรัก คนใกล้ตัว เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง หรือเจ้านาย แต่ถ้าลองพิจารณาให้ดี หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาที่ว่าไว้เรื่องปล่อยวางและไม่ยึดติดนั้นถูกที เดียว เพราะต้องยอมรับกันจริง ๆ ว่าจิตใจของคนเรานั้นเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยาก ขนาดตัวเราเองบางทียังไม่สามารถควบคุมใจเราได้ตลอดเวลา ไฉนเลยเราจะสามารถควบคุมจิตใจของผู้อื่นได้ เพราะถ้าท่านคิดอยากให้คนนี้ต้องเป็นอย่างนั้นคนนั้นต้องเป็นอย่างนี้ (:???:)แล้วไม่เป็นตามที่ท่านต้องการก็มักจะก่อให้เกิดเป็นทุกข์ ฉะนั้นท่านต้องหัดปล่อยวางและ ไม่ยึดติดไปกับพฤติกรรม ความเชื่อ หรือทัศนคติของคนอื่น ๆเรื่องนี้สามารถมองได้ว่าคนเรานั้น มีหลายประเภท จะให้คิดเหมือนกันนั้นก็ยาก เป็นความโชคดีของท่านที่ได้เจอคนหลาย ๆ ประเภทได้เรียนรู้ว่าในสังคมของเรานี้ประกอบไปด้วยคนหลาย ๆ ประเภท และเป็นประเภทไหนบ้าง เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่ท่านได้เจอคนหลายประเภท ท่านจะได้เรียนรู้ว่าคนแต่ละประเภทนั้นมีความคิดความอ่านที่ต่างกันอย่างไร มีพฤติกรรมหรือทัศนคติที่ต่างกันอย่างไร และสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญมากในยุคปัจจุบันโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่อยากจะก้าวไป เป็นเป็นผู้บริหาร ที่ประสบความสำเร็จ ท่านควรจะต้องมีความสามารถในการที่จะเข้ากับคนอื่นๆ หรือทำงานร่วมกับคนอื่น ๆ เมื่อกล่าวถึงคนอื่น ๆ ในที่นี้หมายถึงคนหลากประเภท ผมสังเกตดูว่าหลาย ๆ ท่านกลายเป็นผู้บริหารทประสบความสำเร็จได้ในวันนี้ มิใช่เพราะว่าเก่งแต่เฉพาะเรื่องงานอย่างเดียว แต่เป็นคนที่สามารถร่วมทำงานได้กับทุก ๆ คนเพราะฉะนั้นถ้าท่านเป็นเจ้านายที่เจอลูกน้องที่มี (:RL:)พฤติกรรมที่ไม่เป็นที่ต้องการหรือมีความคิดไม่ลงรอยกัน ก็ขอให้อย่านำมาเก็บเป็นความทุกข์แต่ให้คิดว่านี่คือโอกาสในการที่จะเรียนรู้ในเรื่องของคน หลังจากนั้นก็เรียนรู้ที่จะค่อย ๆ ปรับตัวเข้าหากันไป ต้องคิดว่าคนแต่ละคนมีความคิดและทัศนคติที่ต่างกัน และให้ถือว่านี่เป็น บทเรียนของท่านในการที่ท่านกำลังศึกษาความคิดความอ่านของคนแต่ละคน ที่ไม่เหมือนกัน และพยายามปรับความ รู้สึกเข้าหากันเพื่อจะได้ร่วมงานกันได้ ผมคิดว่านี่เป็นบทเรียนที่ดีและเป็น...................... (:12:)


หัวข้อ: Re: ชีวิตคือการเรียนรู้
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 20 มกราคม 2553 12:47:56
(http://www.wantup.com/images/905_PF1T2001_1.jpg) (http://www.wantup.com/view-905_PF1T2001_1.jpg)
dictionary (http://www.dictionary.in.th)Domain (http://www.thaihostweb.com)



ประโยชน์ต่อการบริหารงานอย่างมาก (:-_-:)และเมื่อคิดได้อย่างนี้ความทุกข์ในใจของท่านที่เกี่ยวกับคนก็จะมีปริมาณที่ น้อยลงนอกจากความทุกข์ใจจากปัญหาที่เกิด ขึ้นแล้ว บางท่านอาจจะทุกข์ใจกับความเปลี่ยนแปลงหรือความระแวงว่าสิ่งร้ายจะเกิดขึ้น (:QS:)กับท่านในอนาคตเช่นบางท่าน กลัวการเปลี่ยนแปลงในหน้าที่การงาน กลัวว่าจะทำได้ไม่ดีเท่างานที่ทำอยู่ เพราะไม่ชำนาญในเนื้องานของหน้าที่ใหม่ เพราะฉะนั้นแทนที่จะกลัวจะกลุ้มใจในการเปลี่ยนแปลง กลัวว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น (:NOY:)ไม่เป็นอย่างนี้ ก็ให้ขอให้ลองคิดว่าการเปลี่ยนแปลงก็เป็นบทเรียนบทหนึ่ง  (:UU:)หลาย ๆ ท่านอาจได้ยินคำพูดที่ว่า ไม่ลองก็ไม่รู้ การเปลี่ยนแปลงก็เปรียบเสมือนกับ การที่ท่านได้ลองสิ่งใหม่ๆ ถึงแม้ว่าอาจจะเป็นสิ่งที่ท่านไม่อยากทำ ก็ถือได้ว่าเป็นโอกาสที่ท่านจะได้เรียนรู้ คนเราจะประสบความสำเร็จได้ผมเชื่อว่าต้องมาจากการที่เราต้องผ่านประสบการณ์ ในการทำงานในทั้งสิ่งที่อยากทำและไม่อยากทำเพราะการประสบความสำเร็จมักจะประกอบมาจากหลาย ๆ ปัจจัย ถ้าท่านได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ ท่านก็จะได้รู้ว่าอะไรเป็นอย่างไร ซึ่งก็จะกลายเป็นบทเรียนที่สามารถนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ในอนาคตของท่าน ไม่มากก็น้อย ผิดกับการที่ท่านอยู่กับที่ ไม่เปลี่ยนแปลง โอกาสในการเรียนรู้ก็จะมีน้อย (:SLE:)ส่งผลให้ความรู้ความสามารถของท่านไม่เพียงพอที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานผมขอกล่าวสรุป ณ. ที่นี้ว่า ปริมาณความทุกข์ในใจของท่านทั้งหลายที่เกิดจากการที่ท่านต้องประสบปัญหาหรือความเปลี่ยนแปลงในชีวิตนั้น สามารถถูกทำให้ลดลงได้ถ้าท่านมองโลกในแง่ที่ดีขึ้นโดยการที่พยายามทำตนให้ เป็นผู้ที่ใฝ่รู้ตามหลักการขององค์กรแห่งการเรียนรู้ และการเป็น ผู้ใฝ่รู้นี้เอง ท่านจะมองเห็นว่าปัญหาหรือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับท่านนั้นเป็นบทเรียนหรือให้คิดว่า อย่างน้อยทุกๆ สิ่ง ทุก ๆ อย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตนั้น เป็นบทเรียนอันมีค่าสรุปสุดท้ายจริง ๆ ต้องขอกล่าวว่าชีวิตคือการเรียนรู้ Wednesday, January 20, 2010 (:14:)