หัวข้อ: บทสัมภาษณ์ท่านอาจารย์ผู้มีพระคุณอบรมสั่งสอนศิษย์{ตอนจบ} เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 24 กันยายน 2553 12:48:34 (http://www.taklong.com/pictpost/t/39276IMG00469.jpg) http://www.fungdham.com/download/song/allhits/24.wma ถ่ายภาพโดย ปารวีร์ {Sometime}เป็นภาพที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุภายในอารามแห่งหนึ่ง ถาม.................อยากให้ท่านอาจารย์แนะนำคนที่เพิ่งเริ่มมาสนใจศาสนา อ.สุจินต์..........ฟังแล้วก็ไตร่ตรองจนกระทั่งเป็นความเห็นถูกของตัวเองไม่ว่าจะฟังสิ่งใดก็ ตามค่ะจะรู้ว่าสิ่งนั้นถูกหรือผิดจากสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฎเป็นเครื่องทดสอบว่า....................... คำพูดนั้นตรงกับความเป็นจริงของสิ่งที่มีจริงหรือเปล่าไม่ได้เป็นผู้ที่ฟังแล้วก็เชื่อ แต่ ต้องไตร่ตรอง แล้วต้องเริ่มตามลำดับคือต้องตรงกับคำที่ใช้เช่น คำว่า ศึกษา หมาย ความว่าอะไร ? ไม่ใช่หมายความว่าเพียงฟังและอ่านโดยไม่ได้ไตร่ตรองโดยไม่พิจารณา เพราะฉะนั้นไตร่ตรองเพื่ออะไร ?เพื่อเข้าใจในสิ่งที่ได้ฟังหรือว่าในสิ่งที่ได้อ่านค่ะ เข้าใจมี 2 อย่างเข้าใจถูกกับ เข้าใจผิด จะรู้ได้อย่างไรว่าเข้าใจถูกหรือผิดมี สภาพธรรม ที่กำลังปรากฏให้รู้คำที่ได้ยินได้ฟังที่ทำให้เข้าใจสิ่งที่มีจริง ๆ ซึ่งเป็นธรรมหรือเปล่า ? เพราะว่าทุกอย่างที่มีจริง เช่น ธรรมถ้าไม่มีจริง พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าจะไปตรัสรู้ อะไรที่ไม่มีแต่สิ่งนี้มีแต่บางบุคคลไม่สามารถที่จะรู้ได้ นอกจากผู้ที่ได้บำเพ็ญบารมี สามารถที่จะตรัสรู้ความจริงที่ยากและลึกซึ้ง ซึ่งกำลังเกิดและดับในขณะนี้ตามเหตุตาม ปัจจัยเพราะฉะนั้นก็ต้องเป็นผู้ละเอียดและเป็นผู้ที่รู้ว่าไม่ใช่ฟังแล้วก็เชื่อแต่ว่าต้อง พิจารณาสิ่งที่ได้ฟังอย่างพูดถึงสิ่งที่มีจริงธรรมเป็นสิ่งที่มีจริงเราจะปฏิเสธไหม ? เพราะ ฉะนั้นแค่รู้ว่าสิ่งที่มีจริงนี่แหละเป็น ธรรม เพราะว่าเราต้องมีคำสำหรับเรียกสิ่งที่มีจริง เพราะสิ่งที่มีจริงมีหลายอย่างเพราะฉะนั้นสิ่งที่มีจริงแต่ละอย่างๆก็เป็นธรรมแต่ละหนึ่ง ๆ ซึ่งมีลักษณะเฉพาะของธรรมทั้งนั้นใครจะไปเปลี่ยนแปลงไปแก้ไขอะไรไม่ได้เลย อย่างเกิดเห็นจะไม่ให้เป็นเห็นก็ไม่ได้ใช่ไหมค่ะเห็นแล้วเกิดซึ่งก็เป็นเห็นแล้วเพราะ ฉะนั้นก็รู้ตามความเป็นจริงว่าใครไปทำให้เห็นเกิดขึ้นหรือเห็นเกิดขึ้นเพราะมีเหตุปัจจัย อย่างคนตาบอดไม่มีทางที่จะรู้ในสิ่งที่กำลังปรากฎในขณะนี้ตามาจากไหนใครไปทำ ให้มีขึ้นได้ก็เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย คือ สามารถที่จะเข้าใจสิ่งที่มีจนกระทั่งถึง เหตุปัจจัยที่ทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นเพราะฉะนั้นการศึกษาธรรมก็เหมือนศึกษาทุกเรื่องค่ะ เพื่อเข้าใจว่าไม่ว่าเราเรียนอะไรก็เพื่อเข้าใจจะทำอาหารก็ต้องรู้วิธีที่ถูกต้องจะใช้ไฟ - แรงแค่ไหนจะก่อสร้างหรือว่าจะร้องเพลงก็ต้องรู้ว่าจังหวะอะไรทุกอย่างต้องเป็นความ ถูกต้องเพราะฉะนั้นการศึกษาทั้งหมดเพื่อให้เกิดความเข้าใจในสิ่งที่ศึกษาฉันใด ศึกษาธรรมก็ต้องรู้ว่าธรรมคืออะไรแล้วศึกษาธรรมไม่ใช่ศึกษาเล่นๆ ปล่อย ๆ ไปเข้าใจ บ้างไม่เข้าใจบ้างอย่างนั้นไม่ชื่อว่าศึกษาแต่ทุกครั้งที่ศึกษาเพื่อเข้าใจจริง ๆ ซึ่งธรรม เป็นสิ่งที่ละเอียดลึกซึ้งมากใช่ไหมค่ะการศึกษาจึงต้องเป็นผู้ที่ละเอียดรอบคอบที่จะ เข้าใจให้ถูกต้องในสิ่งที่ได้ยินได้ฟังซึ่งทั้งหมดก็จารึกไว้ในพระไตรปิฎกและมีอรรถกถา ประกอบการอธิบายความหมายใน พระไตรปิฎก สำหรับคนรุ่นหลังคือคนที่ห่างไกลจาก การที่จะได้ฟังพระธรรมจากพระโอษฐ์ได้มีความเห็นที่ถูกต้องไม่คลาดเคลื่อนจึงจะ ได้ชื่อว่าศึกษาธรรม แล้วถ้าไม่ศึกษาธรรมนะค่ะไม่มีทางที่จะเข้าใจเพราะว่าไม่ใช่พระ - อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าที่จะตรัสรู้เองถ้าคิดเอาเองก็ผิดทุกที ถาม..............ค่ะทางหนังสือพิมพ์คนค้นธรรมต้องขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ สุจินต์ เป็นอย่าง มากค่ะที่ท่านอาจารย์ได้กรุณาสละเวลาอันมีค่าให้กับเราในบางครั้งสิ่งที่ท่านอาจารย์ พูดมาดิฉันไม่ทันคิดว่าสิ่งนั้นเป็น{อกุศล}กลับเข้าใจผิดคิดว่าเป็น{กุศล}แต่ด้วยความ ละเอียดของ{จิต}ท่านอาจารย์ท่านอาจารย์ได้เมตตาและอธิบายให้ฟังทำให้จิตของผู้ที่ ฟังเริ่มละเอียดขึ้นตามลำดับ......................................... มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา สำนักงานเลขที่ 174/1 ซอย เจริญนคร 78 ดาวคะนอง ธนบุรี |