[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 28 กันยายน 2553 13:26:20



หัวข้อ: LOVE สั้น ๆ แต่ LOVE คือ อะไร ?
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 28 กันยายน 2553 13:26:20
(http://lh3.ggpht.com/_AYFPNs1xf64/TAot-BLUbdI/AAAAAAAABBQ/1fUG9nAOYqo/PF1200111.jpg)
http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/09.%20Track%209.wma

http://forums.212cafe.com/boxser/board-13/topic-54-1.html#reply3 (http://forums.212cafe.com/boxser/board-13/topic-54-1.html#reply3)


ถาม....................ผมเป็นคนที่กำลังมีความรัก ผมอายุ15 ปีอยากได้นิยามดี ๆ ในภาษาธรรมะ

ตอบ...............ในทางพระพุทธศาสนากล่าวว่า  ความรักความติดข้องเป็นโลภะ  เป็นกิเลสตัณหาไม่

ใช่เพียงความรักของหนุ่มสาวเท่านั้น ความรักพี่น้อง รักเพื่อน หรือ ติดข้องในกาม

รูป เสียง กลิ่นรส โผฏฐัพพะ และในภพ ก็เป็นตัณหา ตัณหาเป็นต้นเหตุของทุกข์ทั้ง

ปวง เมื่อดับตัณหาเสียได้ ทุกข์ย่อมถูกดับไปด้วย


ว่าด้วยไม่มีผู้เป็นที่รักกว่าตน

{๑๑๐} ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ.พระวิหารเชตวันอาราม

ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแลพระ -

เจ้าปเสนทิโกศลประทับอยู่บนปราสาทอันประเสริฐชั้นบน พร้อมด้วย

พระนางมัลลิกาเทวี ลำดับนั้นแล พระเจ้าปเสนทิโกศลตรัสถามพระนาง

มัลลิกาเทวีว่า ดูก่อนนางมัลลิกา มีใครอื่นบ้างไหมที่น้องรักยิ่งกว่าตน

พระนางมัลลิกากราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า หามีใครอื่นที่หม่อมฉันจะรัก

ยิ่งกว่าตนไม่ ก็ทูลกระหม่อมเล่ามีใครอื่นที่รักยิ่งกว่าพระองค์ เพค่ะ

ดูก่อนน้องมัลลิกา แม้ฉันก็ไม่รักใครอื่นยิ่งกว่าตน

ลำดับนั้นแล พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จลงจากปราสาทแล้ว เสด็จ

เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ทรงถวายบังคมแล้วประทับนั่ง

อยู่ ณ.ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันอยู่บนปราสาทกับพระนางมัลลิกาเทวี ได้

ถามพระนางมัลลิกาเทวีว่า มีใครอื่นที่น้องรักยิ่งกว่าตน เมื่อหม่อมฉัน

ถามอย่างนี้ พระนางมัลลิกาเทวีกล่าวว่า พระพุทธเจ้าข้า หามีใครอื่นที่

หม่อมฉันจะรักยิ่งกว่าตนไม่ ก็ทูลกระหม่อมเล่ามีใครอื่นที่รักยิ่งกว่าพระ -

องค์ หม่อมฉันเมื่อถูกถามเข้าอย่างนี้ จึงได้ตอบพระนางมัลลิกาว่า แม้

ฉันก็ไม่มีใครอื่นที่จะรักยิ่งกว่าตน

ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว จึง

ทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า

ใคร ๆ ตรวจตราด้วยจิตทั่วทุกทิศแล้วหาได้พบ

ผู้เป็นที่รักยิ่งกว่าตนในที่ไหน ๆ ไม่เลยสัตว์เหล่าอื่น

ก็รักตนมากเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ผู้รักตนจึงไม่

ควรเบียดเบียนผู้อื่น..................................


.................จบราชสูตรที่ ๑.............


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 480





หัวข้อ: Re: LOVE สั้น ๆ แต่ LOVE คือ อะไร ?
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 28 กันยายน 2553 13:30:36
(http://lh3.ggpht.com/_AYFPNs1xf64/TAot-BLUbdI/AAAAAAAABBQ/1fUG9nAOYqo/PF1200111.jpg)

พระพุทธเจ้าข้า หม่อมฉันไม่มีใครอื่นที่จะเป็นที่รักยิ่งไปกว่าตน

พระเทวีแม้ตรัสแล้วประสงค์จะกระทำอรรถที่ตนยืนยันให้ประจักษ์แก่

พระราชาด้วยอุบาย..........จึงทูลถามพระราชาเหมือนที่พระราชาตรัสถามเองว่า

พระพุุทธเจ้าข้า ก็พระองค์มีใครอื่นเป็นที่รักยิ่งกว่าตนฝ่ายพระราชา

ไม่อาจกลับ ความ ได้ เพราะพระเทวีตรัสโดยลักษณะพร้อมทั้งกิจแม้

พระองค์เองก็ตรัสโดยลักษณะพร้อมทั้งกิจ จึงตรัสยืนยันเหมือนดังพระเทวีตรัสยืนยัน.

ก็ครั้นตรัสยืนยันแล้ว เพราะความที่พระองค์มีปัญญาอ่อน จึงทรง

ดำริอย่างนี้ว่า เราเป็นพระราชาผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ครอบครองปก -

ครองปฐพีมณฑลใหญ่ การจะยืนยันว่า เราไม่เห็นคนอื่นซึ่งเป็นที่รักยิ่ง

กว่าตนดังนี้............ไม่สมควรแก่เราเลย แต่นางนี้ เป็นหญิงถ่อย ชาติชั่ว

เราตั้งไว้ในตำแหน่งสูง ที่ยังไม่รักเราผู้เป็นสามีอย่างแท้จริง ยังกล่าวต่อ

หน้าเราว่า ตนเท่านั้นเป็นที่รักแก่ตน ดังนี้แล้วจึงไม่พอพระทัยประท้วงว่า

เธอรักพระรัตนตรัยมากกว่าหรือพระเทวีกราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า

หม่อมฉันปรารถนาสุขในสวรรค์ และสุขในมรรคเพื่อตน แม้พระรัตนตรัย

หม่อมฉันก็รัก เพราะฉะนั้น ตนนั่นแล จึงเป็นที่รักยิ่งของหม่อมฉัน.

ก็สัตวโลกทั้งหมดนี้รักคนอื่นก็เพื่อประโยชน์ตนเองเท่านั้น แม้เมื่อ

ปรารถนาบุตร ก็ปรารถนาว่า บุตรนี้จักเลี้ยงดูเราในยามแก่ เมื่อปรารถนา

ธิดา ก็ปรารถนาว่า ตระกูลของเราจักเจริญขึ้น เมื่อปรารถนาภริยา ก็

ปรารถนาว่า จักบำเรอเท้าเรา เมื่อปรารถนาแม้คนอื่นจะเป็นญาติมิตร

หรือพวกพ้อง ก็ปรารถนาเนื่องด้วยกิจนั้น ๆ ดังนั้น ชาวโลก เป็นผู้

เห็นแต่ประโยชน์ตนเท่านั้นจึงรักคนอื่นรวมความว่า พระเทวี มีความ

ประสงค์อย่างนี้แล

ลำดับนั้น พระราชาทรงพระดำริว่า นางมัลลิกานี้ เป็นผู้ฉลาด

เป็นบัณฑิต เฉียบแหลม กล่าวว่า ตนนั้นแล เป็นที่รักยิ่งแก่เรา แม้ตน

ของเรานั้นแหละ ก็ปรากฏว่าเป็นที่รัก เอาเถอะ เราจักกราบทูลเรื่องนี้แด่พระศาสดา


.................อรรถกถาราชสูตร.............



หัวข้อ: Re: LOVE สั้น ๆ แต่ LOVE คือ อะไร ?
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 28 กันยายน 2553 13:34:42
(http://lh3.ggpht.com/_AYFPNs1xf64/TAot-BLUbdI/AAAAAAAABBQ/1fUG9nAOYqo/PF1200111.jpg)

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า{สพฺพา ทิสา อนุปริคมฺม เจตสา}ความว่า........................

ส่งจิตไปด้วยอำนาจการแสวงหาทั่วหมดทั้ง ๑๐ ทิศ บทว่า

{เนวชฺฌคา ปิยตรมตฺตนา กฺวจิ} ความว่า คนบางคน มีความอุตสาหะ

อย่างแรง แสวงหาบุคคลอื่น ผู้เป็นที่รักยิ่งแก่ตน ไม่พึงพบ คือไม่พึง

ประสบในที่ใดที่หนึ่ง คือในทุกทิศ บทว่า{เอวํ ปิโย ปุถุ อตฺตา ปเรสํ}

ความว่า สัตว์เหล่านั้น ๆ ก็มีตนเป็นที่รักมาก คือเป็นพวก ๆ เหมือน

อย่างนั้น คือจะหาใคร ๆ ผู้เป็นที่รักยิ่งกว่าตนไม่ได้ บทว่า{ตสฺมา น

หึเส ปรมตฺตกาโม}ความว่าเพราะเหตุที่สัตว์ทั้งหมดรักตัวเอง คือ..................................

รักสุข เกลียดทุกข์อย่างนี้ ฉะนั้น ผู้รักตนเมื่อปรารถนาหิตสุขเพื่อตน

จึงไม่เบียดเบียน ไม่ฆ่าสัตว์อื่น โดยที่สุดมดดำมดแดง ทั้งไม่เบียดเบียน

ด้วยปหรณวัตถุ มีฝ่ามือ ก้อนดิน และท้อนไม้เป็นต้นจริงอยู่ เมื่อตนทำทุกข์ให้แก่ผู้อื่น

ทุกข์นั้นเป็นเหมือนก้าวออกมาจากกรรมที่ตนทำไว้แล้วนั้น

จักปรากฏในตนเวลาใกล้ตายก็ข้อนี้เป็นธรรมดาของกรรมนั่นแล


...................THE END.................




หัวข้อ: Re: LOVE สั้น ๆ แต่ LOVE คือ อะไร ?
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 28 กันยายน 2553 22:42:26

รักคือคำๆนี้ รักคือความอดทนทุกอย่าง จริงใจให้กัน
รักคือความเข้าใจ รักคือยอมอภัยทุกอย่าง อภัยให้กัน

 
ดั่งดวงตะวันที่ยัง ยั่งยืนคู่ฟ้า
ความรักจึงบังเกิดมาให้เป็นภาษาทางใจ
ให้ไว้เพื่อช่วยนำทาง คู่ใจของเรา
...



 ;D ;D ;D ;D ;D ;D