หัวข้อ: แชร์กันว่อนเน็ต " นามบัตรก็มีภัย " แท้จริงแล้วแค่เรื่องโกหก เริ่มหัวข้อโดย: -NWO- ที่ 14 พฤศจิกายน 2556 09:26:02 แชร์กันว่อนเน็ต " นามบัตรก็มีภัย " แท้จริงแล้วแค่เรื่องโกหก
ตอนนี้มีการแชร์ข้อมูลชุดหนึ่งเป็นจำนวนเยอะมากเกี่ยวกับภัยจากนามบัตร ที่สามารถทำให้ผู้รับหมดสติลงได้ เนื้อความตามด้านล่างนี้ อ้างถึง "นามบัตร" ก็มีภัย โปรดอ่านให้จบ ภัยจากนามบัตร หญิงคนหนึ่ง ไปเติมแก็สที่ปั้มแก็ส มีชายมาเสนอบริการทาสี โดยยื่นนามบัตรให้ หญิงคนนั้นก็รับมาอ่าน แล้วถือเข้ามาในรถด้วย สักครู่เมื่อขับรถออกมาจาก ปั๊มแก็ส ก็สังเกตว่าชายคนนั้นขับรถตามมา และเธอก็ รู้สึกว่า หายใจไม่ค่อยออก เธอรีบเปิดหน้าต่าง และตระหนักว่ากลิ่นนั้นมาจากมือของเธอเอง ซึ่งเป็นมือข้างที่เธอรับนามบัตรมาจากชายคนนั้น เธอตัดสินใจขับรถและกดแตรไปตลอดทางเพื่อขอความช่วยเหลือ ชายคนนั้นจึงขับรถหนีไป ยาที่ป้ายบนนามบัตร คือ ยา BURUNDANGA เพิ่อให้เราหมดสติ ควบคุมตนเองไม่ได้ แล้วไอ้ตัวร้ายก็จะขโมยของและ/หรือข่มขืนเรา โดยยานี้มีประสิทธิภาพแรงกว่ายาที่ใช้ข่มขืนสาวๆ ถึง 4 เท่า ดังนั้น อย่ารับกระดาษ นามบัตร แผ่นพับ จากคนแปลกหน้า หรือแม้แต่คนที่แจกโฆษณา ฟังดูน่ากลัวและดูเป็นภัยอันตรายอย่างยิ่ง แต่เดี๋ยวเรามาวิเคราะห์ความเป็นไปได้กัน ... หัวข้อ: Re: แชร์กันว่อนเน็ต " นามบัตรก็มีภัย " แท้จริงแล้วแค่เรื่องโกหก เริ่มหัวข้อโดย: -NWO- ที่ 14 พฤศจิกายน 2556 09:33:01 หลังจากได้รับข้อมูลดังกล่าว ผู้เขียนก็ได้หาข้อมูลว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน หรือเป็นเพียงเรื่องโกหกพกลมที่แต่งขึ้นมาเหมือน Forward Mail ในสมัยก่อน จนกระทั่งไปเจอข้อมูลจากเว็บไซท์ของกองควบคุมวัตถุเสพย์ติด (อาหารและยา) ซึ่งได้วิเคราะห์ข้อมูลไว้ดังนี้ ประเมินข้อเท็จจริงจากข้อมูลที่ได้ เมื่อสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับเบอร์อุนแดนก้า (Burundanga) พบว่า มีเมลส่งต่อ (forward mail) เกี่ยวกับเบอร์อุนแดนก้าเป็นภาษาอังกฤษซึ่งเริ่มส่งให้กันเมื่อเดือนพฤษภาคม 2551 ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบแล้วคาดว่าอีเมล ‘ภัยจากนามบัตร’ จากหนังสือพิมพ์มติชน เป็นข้อความที่แปลออกมา นักวิจารณ์ชาวอเมริกันได้วิเคราะห์เมลส่งต่อฉบับนี้ไว้ว่ามีจุดที่น่าสงสัย 2 ประการ ได้แก่ 1. ผู้ส่งเมลเล่าว่ามีอาการหลังจากที่สัมผัสกับนามบัตร แต่ระยะเวลาการเริ่มออกฤทธิ์จากการสัมผัส สารสโคโปลามีนสารต้องมีระยะเวลาที่นานกว่านี้ (ใช้เวลาเป็นชั่วโมง) 2. ผู้ส่งเมลเล่าว่าได้กลิ่นจากมือ ซึ่งมาจากการจับนามบัตร แต่จากเอกสารอ้างอิงมาทางวิทยาศาสตร์ ระบุว่าสารสโคโปลามีนไม่มีกลิ่น นอกจากนี้ไม่เคยมีแหล่งข่าวที่ยืนยันว่ามีการก่อคดีเช่นนี้จริงในสหรัฐอเมริกา จึงขอสรุปว่าข้อมูลอีเมลส่งต่อเรื่อง ‘ภัยจากนามบัตร’ ฉบับนี้ ไม่เป็นความจริง ข้อมูลทางวิชาการของเบอร์อุนแดนก้า (Burundanga) เบอร์อุนแดนก้า เป็นอีกชื่อหนึ่งที่ใช้เรียกยาสโคโปลามีน (scopolamine) Scopolamine (Hyoscine) ในอเมริกาใต้มีเรื่องเล่าลือซึ่งเกี่ยวข้องกับเบอร์อุนแดนก้าว่าเป็นสารที่กินเพื่อให้เกิดภาวะ เหมือนจิตที่เข้าฌานหรือทรงเจ้าในพิธีของหมอผี มีรายงานการใช้ยานี้เพื่อก่ออาชญากรรมครั้งแรก ในประเทศโคลัมเบียในช่วงทศวรรษ 1980 และตามที่รายงานไว้ในบทความที่ตีพิมพ์ใน Wall Street Journal ปี 1995 ว่ามีการใช้เบอร์อุนแดนก้าช่วยในการก่ออาชญากรรมระบาดมาก ในช่วงทศวรรษ 1990 บทความกล่าวว่าการใช้ก่ออาชญากรรมที่พบคือจะให้เหยื่อดื่มเครื่องดื่ม ที่มีเบอร์อุนแดนก้าผสมอยู่ ต่อมาเหยื่อจะตื่นขึ้นมาในสถานที่ห่างออกไป มีอาการมึนงงมาก และจำเรื่องราวไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าวของเงินทองหายไป แม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเข้าใจว่าลดลง เหมือนกับการเกิดอาชญากรรมอื่นๆ แล้วก็ตาม แต่สหรัฐอเมริกาก็ยังคงเตือนนักท่องเที่ยวให้ระวัง อาชญากรในโคลัมเบียที่จะใช้ยามอมนักท่องเที่ยวเพื่อให้ไร้ความสามารถชั่วคราว สโคโปลามีนมีที่ใช้ในทางการแพทย์หลายรูปแบบได้แก่ ยาฉีด ยาเม็ดรับประทาน และแผ่นแปะ ข้อบ่งใช้ จะแตกต่างกันขึ้นกับรูปแบบของยาที่ให้ - ยาฉีด เป็นยาที่ให้ก่อนการผ่าตัดเพื่อให้สูญเสียความจำ สงบระงับ และลดการหลั่งน้ำลาย และลดสารหลั่งจากทางเดินหายใจ - ยารับประทาน ใช้รักษาโรคพาคินสัน โรคลำไส้แปรปรวน (Irritable bowel syndrome, IBS) ป้องกันอาการเมารถเมาเรือ - แผ่นยาแปะ ป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียนที่เกี่ยวกับการใช้ยาสลบหรือยาแก้ปวดกลุ่มโอปิเอต ป้องกันอาการเมารถเมาเรือ ... การจัดประเภทตามกฎหมาย จัดเป็นยาอันตราย ตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 หัวข้อ: Re: แชร์กันว่อนเน็ต " นามบัตรก็มีภัย " แท้จริงแล้วแค่เรื่องโกหก เริ่มหัวข้อโดย: -NWO- ที่ 14 พฤศจิกายน 2556 09:34:38 ขอขอบคุณข้อมูลจาก
กองควบคุมวัตถุเสพย์ติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา http://narcotic.fda.moph.go.th/welcome/?p=2843 (http://narcotic.fda.moph.go.th/welcome/?p=2843) (:88:) |