[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 28 กันยายน 2553 16:50:00



หัวข้อ: ข้อคิดดี ๆ จาก ท่าน ว.วชิรเมธี ธรรมะต้มยำ
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 28 กันยายน 2553 16:50:00
(http://lh3.ggpht.com/_AYFPNs1xf64/TBC-jLSqUBI/AAAAAAAABC8/JA3w4GGB_EM/P525000-9.jpg)

http://www.fungdham.com/download/song/allhits/18.wma


(http://i43.tinypic.com/2heeh3s.gif)


ยืดอกท้าความตายนั่นแหละคือ......ผู้กล้า.....


http://www.tairomdham.net/index.php/topic,2503.msg11858.html#msg11858 (http://www.tairomdham.net/index.php/topic,2503.msg11858.html#msg11858)


ขับดีถึงที่หมาย ขับร้ายถึงที่หมอง

ขับดีเป็นศรีแก่ตัว ขับมั่วน่ากลัวจะเป็นผี

ขับเร็วถึงป่าช้า ขับอย่างมีปัญญาถึงที่หมาย

เมื่อเธอตื่นรู้อยู่กับปัจจุบัน อดีตจะเป็นหมัน อนาคตจะเป็นหม้าย

ณ.ที่ที่เธออยู่กับปัจจุบันขณะ{สติ}ตัวตนของเธอจะหายไป

และที่ใดไม่มีตัวตน ที่นั้นก็ไม่มีตัวกรรม

คนไทยจำนวนมากอยากได้ปริญญาแต่ไม่อยากได้ปัญญา ค่านิยม

ทางการศึกษามองกันอย่างตื้น ๆ นี่เอง ปริญญาจึงเป็นเพียงแค่เครื่องมือใน

การแสดงสถานภาพทางสังคม ที่เอาไว้อวดกันแค่นั้นเอง

เพราะทุกอย่าง

มีความว่าง มาแต่เดิม คนที่หลงกอด ความว่าง โดย

คิดว่าเป็น ความมี ทำไมจะไม่ทุกข์ ?

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตของเราก็ตาม สิ่งแรกที่เราต้องทำก็คือ ให้ดู

เข้ามาข้างในที่ใจของเรา ว่าเข็มไมล์ที่หัวใจของเรากระดิกหรือเปล่า{ธรรมะต้มยำ เมนูที่ 3}

สำหรับคนทั่วไป การได้สมอยากคือการมีความสุข แต่สำหรับปัญญาชน

ชาวพุทธ การเป็นอิสระจากความอยากต่างหากจึงจะเป็นความสุขที่แท้

แทนที่จะมัวหัวเสียกับการสูญเสียลาภ ทำไมเราไม่รู้เท่าทันความ

เสื่อมไปของลาภ แล้วบริหารลาภที่ได้มานั้นให้เสื่อมไปแบบเกิด

ประโยชน์แก่เพื่อนมนุษย์

การเป็น ผู้ตื่นรู้ สำคัญกว่าการเป็น ผู้รู้

เพราะการตื่นรู้ทำให้เรามีความสุขทุกเวลานาที

เราอยู่ในโลกอย่าหลบลี้หนีหน้าโลกธรรม เพียงแต่ตั้งรับให้ดี

เราจะได้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ในเชิงบวกทั้งสิ้น

มนุษย์ไม่ได้เกิดมา

เพื่อใช้กรรมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

แต่เรายังเกิดมาเพื่อสร้างกรรม

พัฒนากรรมและประการสำคัญที่สุด

มนุษย์มีศักยภาพที่จะอยู่เหนือกรรมก็ได้

กระบวนท่าในการดำเนินชีวิตทุกประสบการณ์ในชีวิตเราใช้ไปในการมองด้านในได้

ทุกครั้งที่เกิดการปะทะกันระหว่างธรรมะกับกิเสส มันจะแตกตัวเป็นการเรียนรู้ใหม่

เป็นปัญญาแล้วเราจะรู้ว่า เราเติบโตหรือไม่เติบโตจากการปะทะของกิเสสแต่ละครั้ง

จะรู้ว่ารุดหน้าหรือถอยหลัง เราจะมีทักษะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อใดก็ตามที่เธอฆ่าความสำคัญมั่นหมายว่า ฉันต้องเป็นที่หนึ่งตลอดกาล

หรือ ฉันต้องเป็นคนสำคัญที่สุด ให้อันตรธานไปเสียได้ เมื่อนั้นไซร้

ชีวิตของเธอจะคลี่คลาย เรียบง่าย และเข้าใกล้โมงยามแห่งความสงบสุขอย่างไม่น่าเชื่อ

การหายใจอย่างมี{สติ} คือ มรรควิธีอยู่กับปัจจุบันที่ให้ผลเป็นความสุข สดชื่น เบิกบาน

แจ่มใส ทันตาเห็น ความจริงข้อนี้ใคร ๆ ก็รู้แต่มีเพียงไม่กี่คนที่ลงมือปฏิบัติในชีวิตจริง

สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าโลกหน้ามีหรือไม่มี แต่อยู่ที่ว่าโลกนี้มันมี แล้วคุณใช้ชีวิตในโลกนี้อย่างไร

เพราะถ้าคุณใช้ชีวิตในโลกนี้ให้ดีที่สุด โลกหน้าดีเอง ถ้าคุณใช้ชีวิตในโลกนี้ไม่ดี

โลกหน้ามันก็ต้องแย่ของมันอยู่แล้ว ชาติที่แล้วส่งผลถึงชาตินี้ ชาตินี้ส่งผลถึงชาติหน้า

บริหารจัดการชีวิตนี้ ชาตินี้ให้ได้ ไม่ต้องไปกังวลชาติไหนเลย เพราะฉะนั้นทำดีลูกเดียว แล้วจะกำไรทุกชาติ

เราบริโภคแบรนด์ แทนที่จะบริโภคสิ่งที่ร่างกายต้องการจริง ๆ ทุกวันนี้คนจำนวนมากไม่ได้ใส่เสื้อผ้า

แต่ใส่ยี่ห้อของเสื้อผ้า หรือไม่ได้สวมนาฬิกา แต่เขาสวมยี่ห้อของนาฬิกา ไม่ได้กินอาหาร แต่กินบรรยากาศ กินรสนิยม

ทุกอย่างย่อมมีทั้งดีทั้งไม่ดี มีทั้งได้ทั้งเสีย ไม่มีใครได้ทุกอย่างดังใจหวัง

และก็ไม่มีใครที่ชีวิตนี้จะพลาดหวังหมดทุกอย่าง ชีวิตย่อมมีผิด มีถูก มีขึ้นมีลง

ดังนั้นเราจึงต้องเตรียมตั้งตัวรับมือกับการขึ้นลงของชีวิตให้ดี อะไรเข้ามาก็รับให้ทัน

แล้วเรียนรู้จากมัน สุขก็เรียนรู้ ทุกข์ก็เรียนรู้ สมหวังก็เรียนรู้ ผิดหวังก็เรียนรู้ผิดหวังก็เรียนรู้

ถ้าเราตั้งกติกาให้ตัวเองไว้อย่างนี้ ชีวิตนี้จะมีแต่กำไรทั้งหมด

๙๙ % ของคนที่ลุกขึ้นมาทำงานเชิงสร้างสรรค์ล้วนถูกริษยา และความ

จริงก็มีอยู่ว่า ๙๙ % ของผู้ที่ถูกริษยา ล้วนประสบความสำเร็จ ส่วน ๙๙ %

ของคนที่เป็นตัวริษยา ล้วนหยุดอยู่กับที่และไม่มีความสุข

ลมหายใจแห่งพระพุทธองค์{อานาปานสติ}ดำรงอยู่ที่เดียวกับลมหายใจของเราทุกคน

หากเราวิ่งตามความอยากไปอย่างขาดสติ ไม่ต่างอะไรกับคนที่พยายามวิ่งไปเพื่อให้

ถึงเส้นขอบฟ้า หรือคนที่เพียรตักน้ำไปเติมทะเลเพื่อให้เต็ม

ได้รับจากป่า จงให้คืนแก่ป่า ได้รับจากน้ำ จงให้คืนแก่น้ำ ได้รับจากดิน

จงให้คืนแก่ดิน ได้รับจากสังคม จงให้คืนแก่สังคม ได้รับจากโลก จงให้คืนแก่โลก

อย่ามัวคิดแต่ว่า ฉันจะได้อะไร จงคิดแต่ว่า ฉันจะให้อะไร

โลกก็เหมือนสะพาน เราแค่เดินผ่านแล้วก็ต้องจากไป

เราต่างเป็นคนเหมือนกันหมด แต่โดยสมมติทางสังคม วันหนึ่งเรากลายเป็นข้าราชการ

ดังนั้นจะแปลกอะไร ถ้าหลังเกษียณเราจะกลับมาเป็นคนธรรมดาอีกครั้ง


จาก....facebook ของท่านมหาวุฒชัย วชิรเมธี






หัวข้อ: Re: ข้อคิดดี ๆ จาก ท่าน ว.วชิรเมธี ธรรมะต้มยำ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 28 กันยายน 2553 22:40:54
สาธุครับ ๆ


ช่วงแรกเหมือนคำท้ายสิบล้อ

ช่วงสองอ่านยากเพราะมีตอนยาว ๆ หลายอัน

แต่ไอ้ตอนยาว ๆ มันดันต่อกันเป็นอันเดียว ต้องแยกอ่านแบบแมนวล

5555555555555555555555



หัวข้อ: Re: ข้อคิดดี ๆ จาก ท่าน ว.วชิรเมธี ธรรมะต้มยำ
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 29 กันยายน 2553 08:49:06
สาธุครับ ๆ


ช่วงแรกเหมือนคำท้ายสิบล้อ

ช่วงสองอ่านยากเพราะมีตอนยาว ๆ หลายอัน

แต่ไอ้ตอนยาว ๆ มันดันต่อกันเป็นอันเดียว ต้องแยกอ่านแบบแมนวล

5555555555555555555555




อ่านแบบแมนนวล


(:???:) (:???:) (:???:)



(http://i43.tinypic.com/2heeh3s.gif)


หัวข้อ: Re: ข้อคิดดี ๆ จาก ท่าน ว.วชิรเมธี ธรรมะต้มยำ
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 29 กันยายน 2553 11:16:12

(http://lanpanya.com/panda/files/2009/07/wheelsoflife.jpg)
หากท่านไม่อาจหลับไหลในยามราตรีนี้
 
ใคร่ครวญให้ดี ยังมีผู้ไร้แม้ที่ซุกหัวนอน ไม่ต้องรันทด

หากท่านอยู่ในรถที่ติดไปไหนไม่ได้
เพราะมีคนอีกมากมายที่ไม่เคยมีแม้โอกาสได้นั่งรถ

หากวันนี้มีงานที่กวนใจท่านมาก คิดเสียว่า
ยังไม่ลำบากเท่าคนที่ตกงานนานกว่าสามเดือนแล้ว

ยามเมื่อความสัมพันธ์สะบั้นลง อย่าเพิ่งปลง
เพราะยังดีกว่าผู้ที่ไม่เคยรู้จักรัก

อย่าอาวรณ์ตอนสุดสัปดาห์จะผ่านพ้น
จงคิดถึงคนหาเช้ากินค่ำ ไม่มีวันหยุดพัก เพียงเพื่อจักยังชีพ

แม้ต้องเดินเสียไกลลิบ เพื่อขอความช่วยเหลือยามรถเสีย
ให้นึกถึง ผู้ที่เป็นอัมพาตอยากอาสาเดินแทน

หากส่องกระจกพบผมหงอกเพิ่มมาอีกเส้น
จงอย่าลืมผู้ป่วยเคมีบำบัด ที่หวังเพียงว่า ผมจะงอกได้อีก

ยามโชคร้ายแทบหมดอาลัยตายอยาก จงดีใจเถิด
เพราะยังมีโอกาสดีกว่า ผู้ที่ตายไปก่อนเวลาอันสมควร

หากต้องทนให้ผู้อื่นระบายทุกข์ใส่ ขอให้ระลึกว่า
จะแย่กว่าเป็นไหนไหน ถ้าต้องเป็นทุกข์นั้นเสียเอง

ลองคิดและส่งมุมน่ามองนี้ให้เพื่อน
อาจเป็นเครื่องช่วยเตือนว่า
ชีวิตยังมีสิ่งสวยงาม น่าพิศมัยอีกมาก  


คัดลอกจาก :: "บ้านใส่ใจ" 
ที่มา : http://www.carefor.org/ (http://www.carefor.org/)
http://www.trueplookpanya.com/true/ethic_detail.php?post_id=8643 (http://www.trueplookpanya.com/true/ethic_detail.php?post_id=8643)