หัวข้อ: เที่ยว ภูทับเบิก : ชมทะเลหมอก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 17 พฤศจิกายน 2556 11:33:25 .
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/thumb/c/cd/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%812.JPG/800px-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%812.JPG) ทะเลหมอก ที่ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ ภาพจาก วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี (http://www.sookjaipic.com/images_upload/87603833236628_1.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/98506473749876_2.JPG) ภูทับเบิก บ้านทับเบิก ตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ภูทับเบิก อยู่ห่างจากอำเภอหล่มเก่าประมาณ ๔๐ กิโลเมตร และห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ ประมาณ ๙๗ กิโลเมตร เป็นจุดที่สูงที่สุดของจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ ๑,๗๖๘ เมตร เป็นภูเขาที่มีหน้าผาสูงชัน มีทิวทัศน์ที่งดงามตามธรรมชาติแบบทะเลภูเขา อากาศบริสุทธิ์ เย็นสบาย และคละเคล้าด้วยละอองเมฆหมอก เนื่องจากอิทธิพลร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัย ชื่อภูทับเบิกนั้นมีที่มาจากทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านทับเบิก ซึ่งเป็นหมู่บ้านของชาวเขาเผ่าม้ง ชาวบ้านภูทับเบิกเป็นชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง หรือแม้ว ที่ย้ายถิ่นฐานมาจากทางภาคเหนือ และได้ใช้พื้นที่บริเวณนี้ปลูกฝิ่นจำหน่าย ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๑๐ กลุ่มผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ได้ชักชวนให้ชาวเขาเหล่านี้ให้เข้าร่วมต่อต้านรัฐบาล แต่เมื่อรัฐบาลเข้าทำการปราบปรามอย่างจริงจัง ชาวบ้านจึงได้เข้ามอบตัว และได้มีการจัดตั้งศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา จังหวัดเพชรบูรณ์ขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ชาวบ้านจึงเลิกอาชีพจากการปลูกฝิ่นขายหันไปประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีการทำแปลงเกษตรแบบขั้นบันได หรือทำไร่เลื่อนลอย และปลูกพืชล้มลุกได้แก่ กะหล่ำปลี ขิง ข้าวไร่ ข้าวโพด และพืชผักอื่นๆ โดยเฉพาะกะหล่ำปลีมีปลูกกันเป็นจำนวนมาก อาจเนื่องมาจากกะหล่ำปลี เป็นพืชที่ให้ผลผลิตได้ดีในสภาพภูมิอากาศแบบเขตที่สูงหรือเขตอากาศหนาวเย็น และยังเป็นพืชอายุสั้น ให้ผลตอบแทนเร็ว มีตลาดรองรับผลผลิต ในปัจจุบัน ภูทับเบิกจึงเป็นแหล่งปลูกกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย (http://www.sookjaipic.com/images_upload/90437355637550_3.JPG) เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖ เวลาประมาณบ่ายสามโมง (๑๕ นาฬิกาเศษ) วัดได้ ๑๕ องศาเซลเซียส (http://www.sookjaipic.com/images_upload/52874271695812_4.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/53783105272385_5.JPG) ห่างตัวเพียงไม่กี่เมตร ก็มองอะไรแทบไม่เห็นเพราะหมอกลงจัดค่ะ (http://www.sookjaipic.com/images_upload/94339919380015_8.JPG) ไร่กะหล่ำปลี ที่ภูทับเบิก แหล่งปลูกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีให้ชมตลอดเส้นทางขึ้นภูทับเบิก (http://www.sookjaipic.com/images_upload/26493765248192_6.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/53358438652422_7.JPG) เส้นทางขึ้นภูทับเบิกสูงชันและคดเคี้ยวเลาะเลี้ยวตามไหล่เขาหลายสิบลูก ผู้ขับรถต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก (ผู้โดยสารก็ใจหายใจคว่ำไปด้วย) และโปรดสังเกต ป่าไม้สมบูรณ์บนภูเขาแถบจังหวัดเพชรบูรณ์เหลือน้อยเต็มที (โดยเฉพาะอำเภอเขาค้อ) ส่วนใหญ่ถูกบุกรุก แผ้วถางเตียนโล่ง กลายเป็นไร่ - สวน รวมถึงรีสอร์ท ที่พักตากอากาศ เรื่องนี้ ยังเปรยๆ กับผู้ร่วมทางว่า รัฐบาลไทยรณรงค์ ให้มีการปลูกป่าไม้ แต่พอมีชาวบ้านบุกรุกป่า ภูเขา เพียงไม่กี่หลังคาเรือน รัฐจะจัดบริการสาธารณูปโภค สาธารณูปการตามไปให้โดยไม่รีรอ..ทั้งถนน ไฟฟ้า บ้านเลขที่ สถานีอนามัย ฯลฯ แล้วอย่างนี้..ป่าไม้จะเหลือหรือ? (http://www.sookjaipic.com/images_upload/94104443780250_10.JPG) หมู่บ้าน "ดอยน้ำเพียงดิน" อยู่ระหว่างทางขึ้นภูทับเบิก (http://www.sookjaipic.com/images_upload/73209290661745_9.JPG) แครอทเบบี้ ผลผลิตของชาวเขาเผ่าม้ง มีขายที่จุดซื้อของฝากระหว่างทาง (http://www.sookjaipic.com/images_upload/73240633640024_11.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/95583807180325_12.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/44958833315306_13.JPG) รอยยิ้มอย่างมีไมตรีของชาวบ้านน้ำเพียงดิน. |